By : C. Methas – Managing Editor
จากัวร์แบรนด์เนมรถยนต์สมรรถนะสูงระดับหรูหราแห่งอังกฤษที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน ซึ่งปัจจุบันยังคงได้รับการสืบทอดความร้อนแรงและรูปทรงคลาสสิค Jaguar Roadster XK 150 สปอร์ตโรดสเตอร์คลาสสิคในยุคทศวรรษที่ 50 และ 60 ผลิตสร้างระหว่างปี ค.ศ. 1958 ถึงปี ค.ศ. 1961 ในรูปแบบของสปอร์ตเปิดประทุน 2 ประตู ขนาด 2 ที่นั่ง
Jaguar Roadster XK 150 ได้มีการผลิตออกมาทั้งหมดจำนวน 1,339 คัน มีทั้งหมด 2 เวอร์ชั่นด้วยกัน Fixed Head Coupe และ Drop Head Coupe ในรูปแบบของสปอร์ตโรดสเตอร์ ซึ่งได้รับการเปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1958
รูปลักษณ์ภายนอกโค้งมน ไฟหน้าดวงกลมใหญ่ แผงกระจกด้านหน้าแบบชิ้นเดียว ซึ่งเป็นการริเริ่มเป็นครั้งแรกจากก่อนหน้านี้ที่เป็นกระจกแบบแยกสองส่วน แผงกระจังด้านหน้ากว้างมากกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นรุ่น XK 120 และ XK 140 ความยาวตัวรถขยายยาวกว่า 4 นิ้ว สีสันของตัวรถให้เลือกมากขึ้น สีแดง สีเทาไข่มุก สีขาว สีน้ำเงิน สีม่วง สีน้ำเงินเข้ม สีดำ สีเขียวเชอร์วู๊ดและสีเขียวรถแข่งอังกฤษ
ห้องโดยสารได้รับการเสริมความหรูหรามากขึ้น แผงหน้าปัดเสริมด้วยขอบหนังแท้ เนื้อที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวางกว่า แผงหน้าปัดตกแต่งด้วยลวดลายไม้วอลนัท
เครื่องยนต์พื้นฐาน ขนาด 3.4 ลิตร แบบ 6 สูบแถวเรียง เพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ รีดแรงม้าสูงสุดได้ 180 แรงม้าที่ 5,750 รอบต่อนาที และได้รับการปรับแต่งใหม่วางไว้ในรุ่น SE ที่โมดิฟายฝาสูบใหม่ ขยายวาล์วไอเสียใหม่ สามารถรีดแรงม้าสูงสุดได้ 210 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที โดยระบบจ่ายเชื้อเพลิงเป็นแบบคาร์บูเรเตอร์คู่ ขนาด 1.75 นิ้ว SU HD 6
รุ่นปี ค.ศ. 1958 รหัส S เครื่องยนต์ได้รับการปรับแต่งใหม่ ระบบจ่ายเชื้อเพลิงคาร์บูเรเตอร์ขยายใหญ่เป็นขนาด 2 นิ้ว จำนวน 3 ชุด SU HD8 และปรับแต่งฝาสูบใหม่ สามารถรีดแรงม้าสูงสุดได้ 250 แรงม้า
เครื่องยนต์ในรุ่นท็อปสุดที่ออกมาในปี ค.ศ. 1958 เป็นขนาด 3.8 ลิตร ได้รับการขยายความกว้างกระบอกสูบ รีดแรงม้าได้ 220 แรงม้า ส่วนรหัสรุ่น S รีดแรงม้าสูงสุดได้ 265 แรงม้า
ระบบเบรกเป็นแบบดิสก์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งเป็นสปอร์ตรุ่นแรก ๆ ที่ได้ติดตั้งเบรกด้านท้ายแบบดิสก์ โดยมีระบบเบรกด้านท้ายแบบดรัมให้เลือก ส่วนระบบกันสะเทือนและโครงสร้างแชซซีส์ ยังเป็นของรุ่น XK 140 ส่วนระบบพวงมาลัยเป็นแบบฟันเฟืองและตัวหนอน ไม่มีเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรง
1958 JAGUAR ROADSTER XK 150 สปอร์ตโรดสเตอร์สมรรถนะสูงรุ่นนี้ ยังคงความคลาสสิคทั้งในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอกที่มีความโค้งมนตลอดทั้งคัน กระทะล้อลายซี่ลวดและยางขอบขาว ได้รับการผลิตประกอบสร้างด้วยฝีมือทั้งเครื่องยนต์ ตัวถังและประกอบตกแต่งภายในห้องโดยสารในแบบ “มือทำ”
Swallow & Jaguar ตำนานของจากัวร์…กำเนิดจากมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างสู่รถสุดหรูสมรรถนะสูง
รถมอเตอร์ไซค์แบบพ่วงข้างของค่าย Swallow Sidecar Company ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1922 โดยนายวิลเลี่ยม ลีออนส์ร่วมกับนายวิลเลี่ยม วอล์มสลีย์ชาวอังกฤษเพื่อนบ้านที่อยู่ละแวกเดียวกัน ผลิตมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างจำหน่ายในประเทศอังกฤษซึ่งต่อมาบริษัทผลิตมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างได้กลายมาเป็นค่ายผลิตรถยนต์ระดับหรูหราสมรรถนะสูง “จากัวร์” นั่นเองในช่วงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
Swallow Sidecar Company ตั้งอยู่ที่ Blackpool, Lancashire ประเทศอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 4 กันยายน ปีค.ศ. 1922 ครอบครัวของผู้ก่อตั้งทั้งคู่มีที่พักอาศัยอยู่แถบถนนเดียวกันใน Blackpool โดยใช้ดราฟท์เป็นทุน 1,000 ปอนด์เท่านั้นพร้อมกับทีมงานขนาดเล็ก ๆ แต่สามารถเริ่มต้นผลิตมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างเพื่อจำหน่ายได้
ต่อมากิจการเจริญเติบโตขึ้นได้ขยายกิจการไปสร้างตัวถังและออกแบบรถยนต์โดยเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Swallow Sidecar and Coachbuilding Company เมื่อปีค.ศ. 1926 จากฝีมือการออกแบบของวิลเลี่ยม วอล์มสลีย์ที่ไม่ธรรมดาทำให้ได้รับงานออกแบบรถยนต์ Austin 7 ซึ่งโด่งดังมาก นอกจากนี้นายวิลเลี่ยมส์ ลีออนได้ขยายตัวแทนจำหน่ายไปยังเมือง Bolton, Lancashire
กิจการยังคงเติบโตตามลำดับ ต่อมาเปลี่ยนชื่อมาเป็น SS.Cars Ltd. เมื่อปีค.ศ. 1934 ผลิตรถยนต์ 4 ล้อยี่ห้อ SS. Cars ซึ่งย่อมาจากคำว่า Standard Swallow โดยได้นำเครื่องยนต์และชิ้นส่วนต่าง ๆ จากบริษัท Standard Motor มาประกอบสร้างเป็นรถยนต์ ส่วนตัวถังออกแบบและผลิตขึ้นเองโดยบริษัท Standard Motor เป็นบริษัทผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงมากในยุคนั้นและในที่สุดกิจการผลิตรถยนต์ต้องเจอปัญหาและยุติการผลิตลงไปชั่วคราวหลังจากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2
รถยนต์รุ่นแรกของ SS.Cars รุ่น SS1 เป็นรถขนาดกะทัดรัดรูปทรงสไตล์คลาสสิคและได้ยุติการผลิตรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างลงโดยได้ไปผลิตตัวถังรถยนต์โดยใช้โครงสร้างแชสซีส์และเครื่องยนต์จากบริษัท Standard Motor Company รถยนต์รุ่น SS1 เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปีค.ศ. 1932 ซึ่งในปีค.ศ. 1928 ได้ย้ายสำนักงานจากเมือง Blackpool ไปยังเมือง Coventry ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมรถยนต์ของอังกฤษ
SS1 วางเครื่องยนต์ แบบ 6 สูบแถวเรียง ขนาด 2-2.5 ลิตร ระบบวาล์วด้านข้าง ต่อมารถยนต์รุ่นที่ 2 ของค่ายนี้รหัสรุ่น SS2 มีให้เลือกทั้งแบบทัวเรอร์ ซาลูน, แบบสปอร์ตโรดสเตอร์เปิดประทุนและสปอร์ตคูเป้ วางเครื่องยนต์ แบบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 1.0 ลิตร เปิดตัวในปีค.ศ. 1934 โครงสร้างแชสซีส์ปรับแต่งใหม่ขยายกว้างออก 50 มิลลิเมตร
รถสปอร์ตสมรรถนะสูงคันแรกได้เปิดตัวในปีค.ศ. 1935 รุ่น SS90 ซึ่งมีที่มาจากความเร็วสูงสุด 90 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วางเครื่องยนต์ แบบ 6 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร 68 แรงม้า สปอร์ตรุ่นนี้ผลิตออกมาเพียง 23 คันเท่านั้น
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง นายวิลเลี่ยม ลีออนได้เปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ชื่อว่า Jaguar Cars Limited เมื่อปีค.ศ. 1945 เนื่องจากชื่อยี่ห้อ SS เป็นชื่อที่ไปคล้องกับหน่วย SS ของนาซี เยอรมนี และในที่สุดชื่อยี่ห้อ จากัวร์อันเป็นที่มาของค่ายผลิต
รถยนต์ระดับหรูหราและรถสปอร์ตสมรรถนะสูงมาถึงปัจจุบันโดยชื่อยี่ห้อ จากัวร์เป็นชื่อของเสือจากัวร์ สัตว์ป่าตระกูลแมวที่มีความคล่องตัวสูง ปราดเปรียวและทรงพลังโดยได้เลือกชื่อยี่ห้อจากสัตว์ต่าง ๆ กว่า 500 ประเภทกว่าจะตัดสินใจเลือกสัญลักษณ์ “เสือจากัวร์
By : C. Methas - Managing Editor
จากัวร์แบรนด์เนมรถยนต์สมรรถนะสูงระดับหรูหราแห่งอังกฤษที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน ซึ่งปัจจุบันยังคงได้รับการสืบทอดความร้อนแรงและรูปทรงคลาสสิค Jaguar Roadster XK 150 สปอร์ตโรดสเตอร์คลาสสิคในยุคทศวรรษที่ 50 และ 60 ผลิตสร้างระหว่างปี ค.ศ. 1958 ถึงปี ค.ศ. 1961 ในรูปแบบของสปอร์ตเปิดประทุน 2 ประตู ขนาด 2 ที่นั่ง
Jaguar Roadster XK 150 ได้มีการผลิตออกมาทั้งหมดจำนวน 1,339 คัน มีทั้งหมด 2 เวอร์ชั่นด้วยกัน Fixed Head Coupe และ Drop Head Coupe ในรูปแบบของสปอร์ตโรดสเตอร์ ซึ่งได้รับการเปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1958
รูปลักษณ์ภายนอกโค้งมน ไฟหน้าดวงกลมใหญ่ แผงกระจกด้านหน้าแบบชิ้นเดียว ซึ่งเป็นการริเริ่มเป็นครั้งแรกจากก่อนหน้านี้ที่เป็นกระจกแบบแยกสองส่วน แผงกระจังด้านหน้ากว้างมากกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นรุ่น XK 120 และ XK 140 ความยาวตัวรถขยายยาวกว่า 4 นิ้ว สีสันของตัวรถให้เลือกมากขึ้น สีแดง สีเทาไข่มุก สีขาว สีน้ำเงิน สีม่วง สีน้ำเงินเข้ม สีดำ สีเขียวเชอร์วู๊ดและสีเขียวรถแข่งอังกฤษ
ห้องโดยสารได้รับการเสริมความหรูหรามากขึ้น แผงหน้าปัดเสริมด้วยขอบหนังแท้ เนื้อที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวางกว่า แผงหน้าปัดตกแต่งด้วยลวดลายไม้วอลนัท
เครื่องยนต์พื้นฐาน ขนาด 3.4 ลิตร แบบ 6 สูบแถวเรียง เพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ รีดแรงม้าสูงสุดได้ 180 แรงม้าที่ 5,750 รอบต่อนาที และได้รับการปรับแต่งใหม่วางไว้ในรุ่น SE ที่โมดิฟายฝาสูบใหม่ ขยายวาล์วไอเสียใหม่ สามารถรีดแรงม้าสูงสุดได้ 210 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที โดยระบบจ่ายเชื้อเพลิงเป็นแบบคาร์บูเรเตอร์คู่ ขนาด 1.75 นิ้ว SU HD 6
รุ่นปี ค.ศ. 1958 รหัส S เครื่องยนต์ได้รับการปรับแต่งใหม่ ระบบจ่ายเชื้อเพลิงคาร์บูเรเตอร์ขยายใหญ่เป็นขนาด 2 นิ้ว จำนวน 3 ชุด SU HD8 และปรับแต่งฝาสูบใหม่ สามารถรีดแรงม้าสูงสุดได้ 250 แรงม้า
เครื่องยนต์ในรุ่นท็อปสุดที่ออกมาในปี ค.ศ. 1958 เป็นขนาด 3.8 ลิตร ได้รับการขยายความกว้างกระบอกสูบ รีดแรงม้าได้ 220 แรงม้า ส่วนรหัสรุ่น S รีดแรงม้าสูงสุดได้ 265 แรงม้า
ระบบเบรกเป็นแบบดิสก์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งเป็นสปอร์ตรุ่นแรก ๆ ที่ได้ติดตั้งเบรกด้านท้ายแบบดิสก์ โดยมีระบบเบรกด้านท้ายแบบดรัมให้เลือก ส่วนระบบกันสะเทือนและโครงสร้างแชซซีส์ ยังเป็นของรุ่น XK 140 ส่วนระบบพวงมาลัยเป็นแบบฟันเฟืองและตัวหนอน ไม่มีเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรง
1958 JAGUAR ROADSTER XK 150 สปอร์ตโรดสเตอร์สมรรถนะสูงรุ่นนี้ ยังคงความคลาสสิคทั้งในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอกที่มีความโค้งมนตลอดทั้งคัน กระทะล้อลายซี่ลวดและยางขอบขาว ได้รับการผลิตประกอบสร้างด้วยฝีมือทั้งเครื่องยนต์ ตัวถังและประกอบตกแต่งภายในห้องโดยสารในแบบ “มือทำ”
Swallow & Jaguar ตำนานของจากัวร์...กำเนิดจากมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างสู่รถสุดหรูสมรรถนะสูง
รถมอเตอร์ไซค์แบบพ่วงข้างของค่าย Swallow Sidecar Company ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1922 โดยนายวิลเลี่ยม ลีออนส์ร่วมกับนายวิลเลี่ยม วอล์มสลีย์ชาวอังกฤษเพื่อนบ้านที่อยู่ละแวกเดียวกัน ผลิตมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างจำหน่ายในประเทศอังกฤษซึ่งต่อมาบริษัทผลิตมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างได้กลายมาเป็นค่ายผลิตรถยนต์ระดับหรูหราสมรรถนะสูง “จากัวร์” นั่นเองในช่วงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
Swallow Sidecar Company ตั้งอยู่ที่ Blackpool, Lancashire ประเทศอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 4 กันยายน ปีค.ศ. 1922 ครอบครัวของผู้ก่อตั้งทั้งคู่มีที่พักอาศัยอยู่แถบถนนเดียวกันใน Blackpool โดยใช้ดราฟท์เป็นทุน 1,000 ปอนด์เท่านั้นพร้อมกับทีมงานขนาดเล็ก ๆ แต่สามารถเริ่มต้นผลิตมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างเพื่อจำหน่ายได้
ต่อมากิจการเจริญเติบโตขึ้นได้ขยายกิจการไปสร้างตัวถังและออกแบบรถยนต์โดยเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Swallow Sidecar and Coachbuilding Company เมื่อปีค.ศ. 1926 จากฝีมือการออกแบบของวิลเลี่ยม วอล์มสลีย์ที่ไม่ธรรมดาทำให้ได้รับงานออกแบบรถยนต์ Austin 7 ซึ่งโด่งดังมาก นอกจากนี้นายวิลเลี่ยมส์ ลีออนได้ขยายตัวแทนจำหน่ายไปยังเมือง Bolton, Lancashire
กิจการยังคงเติบโตตามลำดับ ต่อมาเปลี่ยนชื่อมาเป็น SS.Cars Ltd. เมื่อปีค.ศ. 1934 ผลิตรถยนต์ 4 ล้อยี่ห้อ SS. Cars ซึ่งย่อมาจากคำว่า Standard Swallow โดยได้นำเครื่องยนต์และชิ้นส่วนต่าง ๆ จากบริษัท Standard Motor มาประกอบสร้างเป็นรถยนต์ ส่วนตัวถังออกแบบและผลิตขึ้นเองโดยบริษัท Standard Motor เป็นบริษัทผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงมากในยุคนั้นและในที่สุดกิจการผลิตรถยนต์ต้องเจอปัญหาและยุติการผลิตลงไปชั่วคราวหลังจากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2
รถยนต์รุ่นแรกของ SS.Cars รุ่น SS1 เป็นรถขนาดกะทัดรัดรูปทรงสไตล์คลาสสิคและได้ยุติการผลิตรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างลงโดยได้ไปผลิตตัวถังรถยนต์โดยใช้โครงสร้างแชสซีส์และเครื่องยนต์จากบริษัท Standard Motor Company รถยนต์รุ่น SS1 เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปีค.ศ. 1932 ซึ่งในปีค.ศ. 1928 ได้ย้ายสำนักงานจากเมือง Blackpool ไปยังเมือง Coventry ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมรถยนต์ของอังกฤษ
SS1 วางเครื่องยนต์ แบบ 6 สูบแถวเรียง ขนาด 2-2.5 ลิตร ระบบวาล์วด้านข้าง ต่อมารถยนต์รุ่นที่ 2 ของค่ายนี้รหัสรุ่น SS2 มีให้เลือกทั้งแบบทัวเรอร์ ซาลูน, แบบสปอร์ตโรดสเตอร์เปิดประทุนและสปอร์ตคูเป้ วางเครื่องยนต์ แบบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 1.0 ลิตร เปิดตัวในปีค.ศ. 1934 โครงสร้างแชสซีส์ปรับแต่งใหม่ขยายกว้างออก 50 มิลลิเมตร
รถสปอร์ตสมรรถนะสูงคันแรกได้เปิดตัวในปีค.ศ. 1935 รุ่น SS90 ซึ่งมีที่มาจากความเร็วสูงสุด 90 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วางเครื่องยนต์ แบบ 6 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร 68 แรงม้า สปอร์ตรุ่นนี้ผลิตออกมาเพียง 23 คันเท่านั้น
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง นายวิลเลี่ยม ลีออนได้เปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ชื่อว่า Jaguar Cars Limited เมื่อปีค.ศ. 1945 เนื่องจากชื่อยี่ห้อ SS เป็นชื่อที่ไปคล้องกับหน่วย SS ของนาซี เยอรมนี และในที่สุดชื่อยี่ห้อ จากัวร์อันเป็นที่มาของค่ายผลิต
รถยนต์ระดับหรูหราและรถสปอร์ตสมรรถนะสูงมาถึงปัจจุบันโดยชื่อยี่ห้อ จากัวร์เป็นชื่อของเสือจากัวร์ สัตว์ป่าตระกูลแมวที่มีความคล่องตัวสูง ปราดเปรียวและทรงพลังโดยได้เลือกชื่อยี่ห้อจากสัตว์ต่าง ๆ กว่า 500 ประเภทกว่าจะตัดสินใจเลือกสัญลักษณ์ “เสือจากัวร์
