2007 Corsica Rally (Round 13)-รำลึกศึกทางฝุ่นคัดเฉพาะพิเศษสนามแรลลี่คลาสสิคหฤโหด

ย้อนรอยประวัติศาสตร์ศึกแรลลี่โลกคลาสสิคที่คัดเฉพาะสนามทีเด็ดดุเดือดสนามนำเสนอในเรื่องราวของประวัติศาสตร์แรลลี่ชิงแชมป์โลก ประเดิมกันที่ สนามที่ 13 ประจำฤดูกาล 2007 รายการ Corsica Rally อีกหนึ่งสนามทางเรียบแบบแอสฟัลท์แคบ ๆ ที่ลัดเลาะไปตามภูเขาสูงและโค้งหักศอกซึ่งนักแข่งแรลลี่หลายรายนำชีวิตมาทิ้งในสนามนี้จากการหลุดโค้งตกเหว

Sebastien Loeb มีความชำนาญเป็นพิเศษ ถือว่าเป็นสนามในบ้านเกิดของ Loeb ซึ่งทำการแข่งขันที่เกาะ Corsica ในทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยนทางตอนใต้ของฝรั่งเศส Loeb มาคว้าแชมป์ไปครองในแบบไร้คู่แข่งอีกสนาม ด้วยการทำเวลาทิ้งห่างคู่แข่ง Gronholm ที่ตามมาเป็นอันดับ 2 ถึง 23 วินาทีกว่า เป็นการคว้าแชมป์ติดต่อกัน 2 สนามซ้อน แต้มสะสมะไล่จี้ติด Gronholm ห่างเพียง 4 แต้มเท่านั้น ขณะที่เหลือการแข่งขันอีก 3 สนามสุดท้าย

การแข่งขันในปี 2007 ที่ Corsica Rally ได้มีการยกเลิกการแข่งขันในสเตจแรก Loeb ยังคงโชว์ฟอร์มเดือดได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการทำเวลาดีที่สุดได้รวม 9 สเตจ ขึ้นนำโอเวอร์ออลได้ตั้งแต่สเตจที่ 5 จนกระทั่งจบการแข่งขันในสเตจที่ 16

Gronholm สนามนี้ออกสตาร์ทได้ดีขึ้นนำโอเวอร์ออลช่วง 3 สเตจแรก ตั้งแต่สเตจที่ 2-4 ทำเวลาดีที่สุดใน 2 สเตจแรก สเตจที่ 4 Loeb ทำเวลาดีที่สุดแต่เวลานำโอเวอร์ออลยังเป็นของ Gronholm หลังจากนั้นการแข่งขันตกอยู่ภายใต้การควบคุมของ Loeb เกือบทั้งหมด โดยในวันสุดท้ายของการแข่งขัน Loeb ชะลอความเร็วลง เนื่องจากเวลาทิ้งห่าง Sordo เพื่อนร่วมทีม Citroen ของ Loeb จึงขึ้นมาทำเวลาดีที่สุดได้ในช่วง 3 สเตจสุดท้าย โดย Sordo ทำเวลาดีที่สุดได้รวม 4 สเตจ

Gronholm สนามนี้ทำเวลาดีทีสุดได้เพียง 2 สเตจแรกเท่านั้น แต่เวลาค่อนข้างดี ส่งผลให้อันดับเข้าเส้นชัยในอันดับ 2 เก็บได้ 8 แต้ม คะแนนสะสมยังคงนำอยู่หัวแถว มี 104 แต้ม ยังนำห่าง Loeb อยู่ 4 แต้ม โดย ดSordo สนามนี้เข้าเส้นชัยในอันดับ 3 ขณะที่Mikko Hirvonen คู่หูของGronholm สนามนี้รถมีปัญหาทางด้านเทคนิค ไปเข้าเส้นชัยในอันดับ 13

อันดับ 4 ตกเป็นของJari Latvala จากฟินแลนด์ ทีม Stobart ที่ใช้รถ Ford Focus แซง Petter Solberg ทีม Subaru อดีตแชมป์โลกคนแรกจากนอร์เวย์คนแรกในประวัติศาสตร์ขึ้นมารับอันดับ 4 ได้สำเร็จ โดยอันดับ 6 เป็นของ Chist Atkinson จากนิวซีแลนด์

Corsica Rally ปีนี้ผู้จัดการแข่งขันได้มีการปรับเปลี่ยนเส้นทางใหม่ ให้มีความยากมากกว่าปีก่อน ๆ และซึ่งจะสร้างแรงกดดันต่อนักขับมากขึ้น โดยเส้นทางกว่า 60 % เป็นเส้นทางใหม่หรือไม่ได้เป็นเส้นทางการแข่งขันในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ระยะทางการแข่งขันรวม 1117.20 กิโลเมตร เส้นทางจับเวลาพิเศษแบ่งออกเป็น 16 สเตจ ระยะทางรวม 359.32 กิโลเมตร ซึ่งยังคงเป็นสนามทางเรียบแบบแอสฟัลท์ที่แคบ ๆ ลัดเลาะไปตามเชิงเขาของเกาะ Corsica โดยมีจุดสตาร์ทอยู่ที่เมือง Ajaccio เส้นทางแข่งขันจะอยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะ

“มีความสุขมากครับที่คว้าแชมป์ได้ที่สนามนี้ที่ถือว่าเป็นสนามบ้านเกิดของผม และการคว้าแชมป์สนามนี้เป็นแชมป์ที่มีความสำคัญต่อการป้องกันแชมป์โลกปีนี้เป็นอย่างมาก ขณะที่เหลือการแข่งขันอีกเพียง 3 สนามข้างหน้า แม้ว่าจะเก็บแต้มได้มากกว่ากรอนโฮล์มเพียง 2 แต้ม อีก 3 สนามหน้าคงขับเคี่ยวกับอย่างสนุกตื่นเต้นแน่” Loeb กล่าวหลังการคว้าแชมป์

Gronholm กล่าวหลังเข้าเส้นชัยในอันดับ 2 ว่า “ผมคว้าแชมป์ไม่ได้ 2 สนามติดต่อกันแล้ว ซึ่งเป็นเส้นทางเรียบแบบแอสฟัลท์ ที่ผมไม่ค่อยจะถนัดเท่าไหร่ การแข่งขันสนามนี้ได้รับความกดดันจาก Sordo มากพอสมควร เขาตามไล่จี้ติด ๆ มาตลอด สำหรับ 2 แต้มที่ Loeb เก็บได้มากกว่า แต่แต้มนำหัวแถวยังเป็นของผม อีก 3 สนามหน้าคงดุเดือด แต่ผมไม่รู้สึกกดดันเท่าไหร่”

ศึกคอร์ซิก้า แรลลี่ล่าสุดประจำฤดูกาล 2017 สนามที่ 4 กำลังทำการแข่งขันระหว่างวันที่ 6-7 เมษายนนี้ ผ่านไป 3 สเตจช่วง 11.45 น. ในประเทศไทย เซบาสเตียง โอกิเยร์กำลังนำโอเวอร์ออลเป็นการเอาคืนตำแหน่งหัวแถวอีกครั้งซึ่งในปีนี้การดวลล้อทางฝุ่นดุเดือดเข้มข้นนักแข่ง 3 รายผลัดกันคว้าแชมป์กันไปรายละสนามจาก 3 สนามที่ผ่านมา การป้องกันแชมป์ปีนี้ของเซบาสเตียง โอกิเยร์เจอปัญหาหนักไม่ง่ายเช่น 4 ปีที่ผ่านมา