By : C. Methas – Managing Editor
Spanish Grand Prix สนามที่ 5 ประจำฤดูกาล 2010 ของศึกเอฟ-วัน สนามแรกในยุโรปที่หลายทีมวาดฝันกลับคืนสู่บัลลังก์แชมป์หลังจากอุ่นเครื่องกันไป 4 สนามนอกยุโรป โดย Jenson Button คว้าแชมป์ไปสองสนามและแบ่งกันไปคนละสนามระหว่าง Fernando Alonso กับ Sebastian Vettel และเป็นการเรียงแถวเข้าเส้นชัยในอันดับ 1-2 ของ 3 ทีมหัวแถว ประเดิมสนามเปิดฤดูกาลด้วยทีม Ferrari สนามที่ 3 ที่มาเลเซียเป็นของทีม Red Bull และสนามล่าสุดที่จีนเป็นของทีม McLaren
สำหรับสนามที่ 5 รายการ Spanish Grand Prix ใช้สังเวียน The Circuit de Catalunya เป็นสนามประลองความเร็ว มีความยาวต่อรอบ 4.655 กิโลเมตร แข่งขันรวม 66 รอบสนามระยะทางรวม 307.104 กิโลเมตร ช่วงทางตรงยาวรถแข่งทำความเร็วสูงสุดได้ 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เซอร์กิตแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1991 และใช้เป็นสนามสำหรับการทดสอบรถแข่งช่วงก่อนเปิดฤดูกาล นักแข่งจึงมีความคุ้นเคยกับเซอร์กิตแห่งนี้
Nigel Mansell เป็นนักขับรายแรกที่มาคว้าแชมป์ที่สนามแห่งนี้เมื่อปี 1991 หลังจาก Gerhard Berger ที่ขณะนั้นสังกัดทีม Ferrari เครื่องยนต์มีปัญหาขณะนำหัวแถวและ Ayrton Senna เลือกใช้ยางผิด ในปีต่อมา Nigel Mansell มาคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง โดยนักขับดาวรุ่งในยุคนั้น Michael Schumacher ตามเข้าเส้นชัยในอันดับ 2 ส่วนแชมป์ปีที่แล้วเป็นของ Jenson Button
Bridgestone ผู้ให้การสนับสนุนเรื่องยางเป็นปีที่ 5 ได้เตรียมการนำยางแบบแข็งและอ่อนสำหรับสนามที่ 5 ของปีนี้ เป็นยาง Bridgestone Potenzas มาใช้ ซึ่งพื้นผิวของสนามแห่งนี้มีความขรุขระระดับปานกลาง และหวังว่าอากาศจะอุ่นขึ้นและไม่มีหิมะเหมือนเมื่อครั้งที่ไปทำการทดสอบครั้งสุดท้ายในช่วงก่อนเปิดฤดูกาลในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมที่ผ่านมา รวมทั้งการแข่งขันที่ผ่านมา 4 สนาม
รถแข่งได้มีการปรับเปลี่ยนปรับปรุงไปอย่างมากมาย เป็นปัจจัยที่เปลี่ยนไปทั้งในส่วนของเครื่องยนต์, ระบบหลักอากาศพลศาสตร์, ยางและอื่น ๆ อีกหลายประการด้วยกันรวมถึงตัวรถแข่งด้วย มีความแตกต่างอย่างชัดเจน และจะเป็นเครื่องชี้วัดว่า รถที่ประสบความสำเร็จในการแข่งที่สนามนี้ จะประสบความสำเร็จในการแข่งที่สนามอื่นด้วย Hirohide Hamashima ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนายางมอเตอร์สปอร์ตของบริดจสโตนกล่าว
ทางด้าน Gerhard Bergerให้กำลังใจ Michael Schumacher ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในด้านลบในการกลับสู่สนามแข่งอีกครั้งหนึ่ง โดย Gerhard Berger อดีตนักแข่งฟอร์มูล่า-วันสังกัดทีม Ferrari และ McLaren วัย 50 ปีชาวออสเตรียยุคเดียวกับ Schumacher กล่าวกับรายการทีวีกีฬารายการหนึ่ง เพื่อให้กำลังใจ Michael Schumacher อดีตแชมป์โลก 7 สมัย วัย 41 ปี ที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จากผลการแข่งขันที่ไม่ประสบความสำเร็จทั้ง 4 สนามที่ผ่านมา หลังจากอำลาวงการไป 3 ปี
เขากล่าวว่า เสียงวิจารณ์น่ารำคาญมาก ล้วนแล้วแต่เป็นไปในด้านลบ ผมคิดว่าเขาประสบผลสำเร็จพอสมควร จากการติดอันดับ 1 ใน 10 ทั้ง 3 สนาม ยกเว้นสนามสุดท้ายที่ประเทศจีน การที่แชมป์โลกคนหนึ่งต้องการกลับสู่สนามอีกครั้ง เพื่อทำสิ่งที่ต้องการทำ ไม่ว่าผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไรก็ไม่สามารถจะลบคำว่า แชมป์โลกไปได้
ส่วนนักแข่งชาวเยอรมัน สมญานาม ‘Baby-Schumi’ ดาวรุ่งที่กำลังร้อนแรงอยู่ขณะนี้ Sebastian Vettel เพื่อนวัย 22 ปีของ Schumacher กล่าวกับ Switzerland’s Motorsport Aktuell ว่า ถ้าSchumacher ใช้ศักยภาพรถแข่งของเขาให้เต็มที่ ผลการแข่งของเขาจะดีขึ้นเรื่อยๆ ผมจะไม่ตัดเขาออกไปจากสายตาเป็นอันขาด
Adrian Sutil นักแข่งทีม Force India ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการหวนคืนสนามแข่งเอฟ-วันอีกครั้งว่า ไม่เห็นแปลกที่ Schumacher ต้องการคืนสู่สนามแข่งอีกครั้งหนึ่ง เพียงแต่เขาต้องการเวลาในการฝึกซ้อมให้มากกว่านี้ เพราะนอกจากการแข่งฟอร์มูล่า-วันจะเปลี่ยนไปอย่างมากมายแล้ว ตัว Schumacher เองยังห่างจากวงการไป 3 ปี ถ้ากลับมาแล้วสามารถชนะนักแข่งที่ฝึกซ้อมมาตลอดเวลาได้ทันที ผมคิดว่า Schumacher คงเป็นพระเจ้า ไม่ใช่มนุษย์ อย่างไรก็ตาม Schumacher ยังคงรักษาฟอร์มของแชมป์โลก 7 สมัยไว้ได้ โดยการติดอันดับ 1 ใน 10 จากการแข่งที่ผ่านมา
Bernie Ecclestone ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับการคืนสังเวียนเอฟ-วันอีกครั้งของ Schumacher ว่าเขายังมีศักยภาพพอที่จะคว้าแชมป์โลกในฤดูกาลนี้ ถึงแม้ว่าจะเก็บแต้มได้เพียง 10 แต้มเท่านั้นจาก 4 สนามที่ผ่านมา และกล่าวว่า “หลายคนได้ออกมาโจมตี Michael Schumacher แต่สำหรับผม ต้องให้เวลาเขาสำหรับการปรับตัวทั้งกับรถ กฎกติกายุคใหม่ ตอนนี้เหมือนกับว่าเขาเป็นนักขับน้องใหม่ แต่เชื่อว่าเขามีพรสวรรค์และศักยภาพที่จะกลับมาคว้าแชมป์ได้หาปรับตัวได้ลงตัว”
ส่วนทาง Ross Brawn ผู้อำนวยการทีม Mercedes GP ได้วิเคราะห์ถึงปัญหาที่เกิดกับ Schumacher ที่ทำผลงานไม่ค่อยดีนัก โดยติดอันดับ 10 ที่จีน แต่ยังเชื่อมันว่าเขาจะคว้าแชมป์ได้ในเร็ว ๆนี้ โดยกล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับเขา มีบางเรื่องราวที่เราต้องทำความเข้าใจกันอีก ทั้งเรื่องของยางและเรื่องของรถ สนามหน้าเชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น และจะคว้าแชมป์ได้ เพราะรถของทีมอยู่ระดับแถวหน้า โดยเฉพาะ Nico Rosberg ที่เข้าเส้นชัยในอันดับ 3 ติดต่อกัน 2 สนาม
By : C. Methas - Managing Editor
Spanish Grand Prix สนามที่ 5 ประจำฤดูกาล 2010 ของศึกเอฟ-วัน สนามแรกในยุโรปที่หลายทีมวาดฝันกลับคืนสู่บัลลังก์แชมป์หลังจากอุ่นเครื่องกันไป 4 สนามนอกยุโรป โดย Jenson Button คว้าแชมป์ไปสองสนามและแบ่งกันไปคนละสนามระหว่าง Fernando Alonso กับ Sebastian Vettel และเป็นการเรียงแถวเข้าเส้นชัยในอันดับ 1-2 ของ 3 ทีมหัวแถว ประเดิมสนามเปิดฤดูกาลด้วยทีม Ferrari สนามที่ 3 ที่มาเลเซียเป็นของทีม Red Bull และสนามล่าสุดที่จีนเป็นของทีม McLaren
สำหรับสนามที่ 5 รายการ Spanish Grand Prix ใช้สังเวียน The Circuit de Catalunya เป็นสนามประลองความเร็ว มีความยาวต่อรอบ 4.655 กิโลเมตร แข่งขันรวม 66 รอบสนามระยะทางรวม 307.104 กิโลเมตร ช่วงทางตรงยาวรถแข่งทำความเร็วสูงสุดได้ 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เซอร์กิตแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1991 และใช้เป็นสนามสำหรับการทดสอบรถแข่งช่วงก่อนเปิดฤดูกาล นักแข่งจึงมีความคุ้นเคยกับเซอร์กิตแห่งนี้
Nigel Mansell เป็นนักขับรายแรกที่มาคว้าแชมป์ที่สนามแห่งนี้เมื่อปี 1991 หลังจาก Gerhard Berger ที่ขณะนั้นสังกัดทีม Ferrari เครื่องยนต์มีปัญหาขณะนำหัวแถวและ Ayrton Senna เลือกใช้ยางผิด ในปีต่อมา Nigel Mansell มาคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง โดยนักขับดาวรุ่งในยุคนั้น Michael Schumacher ตามเข้าเส้นชัยในอันดับ 2 ส่วนแชมป์ปีที่แล้วเป็นของ Jenson Button
Bridgestone ผู้ให้การสนับสนุนเรื่องยางเป็นปีที่ 5 ได้เตรียมการนำยางแบบแข็งและอ่อนสำหรับสนามที่ 5 ของปีนี้ เป็นยาง Bridgestone Potenzas มาใช้ ซึ่งพื้นผิวของสนามแห่งนี้มีความขรุขระระดับปานกลาง และหวังว่าอากาศจะอุ่นขึ้นและไม่มีหิมะเหมือนเมื่อครั้งที่ไปทำการทดสอบครั้งสุดท้ายในช่วงก่อนเปิดฤดูกาลในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมที่ผ่านมา รวมทั้งการแข่งขันที่ผ่านมา 4 สนาม
รถแข่งได้มีการปรับเปลี่ยนปรับปรุงไปอย่างมากมาย เป็นปัจจัยที่เปลี่ยนไปทั้งในส่วนของเครื่องยนต์, ระบบหลักอากาศพลศาสตร์, ยางและอื่น ๆ อีกหลายประการด้วยกันรวมถึงตัวรถแข่งด้วย มีความแตกต่างอย่างชัดเจน และจะเป็นเครื่องชี้วัดว่า รถที่ประสบความสำเร็จในการแข่งที่สนามนี้ จะประสบความสำเร็จในการแข่งที่สนามอื่นด้วย Hirohide Hamashima ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนายางมอเตอร์สปอร์ตของบริดจสโตนกล่าว
ทางด้าน Gerhard Bergerให้กำลังใจ Michael Schumacher ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในด้านลบในการกลับสู่สนามแข่งอีกครั้งหนึ่ง โดย Gerhard Berger อดีตนักแข่งฟอร์มูล่า-วันสังกัดทีม Ferrari และ McLaren วัย 50 ปีชาวออสเตรียยุคเดียวกับ Schumacher กล่าวกับรายการทีวีกีฬารายการหนึ่ง เพื่อให้กำลังใจ Michael Schumacher อดีตแชมป์โลก 7 สมัย วัย 41 ปี ที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จากผลการแข่งขันที่ไม่ประสบความสำเร็จทั้ง 4 สนามที่ผ่านมา หลังจากอำลาวงการไป 3 ปี
เขากล่าวว่า เสียงวิจารณ์น่ารำคาญมาก ล้วนแล้วแต่เป็นไปในด้านลบ ผมคิดว่าเขาประสบผลสำเร็จพอสมควร จากการติดอันดับ 1 ใน 10 ทั้ง 3 สนาม ยกเว้นสนามสุดท้ายที่ประเทศจีน การที่แชมป์โลกคนหนึ่งต้องการกลับสู่สนามอีกครั้ง เพื่อทำสิ่งที่ต้องการทำ ไม่ว่าผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไรก็ไม่สามารถจะลบคำว่า แชมป์โลกไปได้
ส่วนนักแข่งชาวเยอรมัน สมญานาม 'Baby-Schumi' ดาวรุ่งที่กำลังร้อนแรงอยู่ขณะนี้ Sebastian Vettel เพื่อนวัย 22 ปีของ Schumacher กล่าวกับ Switzerland's Motorsport Aktuell ว่า ถ้าSchumacher ใช้ศักยภาพรถแข่งของเขาให้เต็มที่ ผลการแข่งของเขาจะดีขึ้นเรื่อยๆ ผมจะไม่ตัดเขาออกไปจากสายตาเป็นอันขาด
Adrian Sutil นักแข่งทีม Force India ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการหวนคืนสนามแข่งเอฟ-วันอีกครั้งว่า ไม่เห็นแปลกที่ Schumacher ต้องการคืนสู่สนามแข่งอีกครั้งหนึ่ง เพียงแต่เขาต้องการเวลาในการฝึกซ้อมให้มากกว่านี้ เพราะนอกจากการแข่งฟอร์มูล่า-วันจะเปลี่ยนไปอย่างมากมายแล้ว ตัว Schumacher เองยังห่างจากวงการไป 3 ปี ถ้ากลับมาแล้วสามารถชนะนักแข่งที่ฝึกซ้อมมาตลอดเวลาได้ทันที ผมคิดว่า Schumacher คงเป็นพระเจ้า ไม่ใช่มนุษย์ อย่างไรก็ตาม Schumacher ยังคงรักษาฟอร์มของแชมป์โลก 7 สมัยไว้ได้ โดยการติดอันดับ 1 ใน 10 จากการแข่งที่ผ่านมา
Bernie Ecclestone ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับการคืนสังเวียนเอฟ-วันอีกครั้งของ Schumacher ว่าเขายังมีศักยภาพพอที่จะคว้าแชมป์โลกในฤดูกาลนี้ ถึงแม้ว่าจะเก็บแต้มได้เพียง 10 แต้มเท่านั้นจาก 4 สนามที่ผ่านมา และกล่าวว่า “หลายคนได้ออกมาโจมตี Michael Schumacher แต่สำหรับผม ต้องให้เวลาเขาสำหรับการปรับตัวทั้งกับรถ กฎกติกายุคใหม่ ตอนนี้เหมือนกับว่าเขาเป็นนักขับน้องใหม่ แต่เชื่อว่าเขามีพรสวรรค์และศักยภาพที่จะกลับมาคว้าแชมป์ได้หาปรับตัวได้ลงตัว”
ส่วนทาง Ross Brawn ผู้อำนวยการทีม Mercedes GP ได้วิเคราะห์ถึงปัญหาที่เกิดกับ Schumacher ที่ทำผลงานไม่ค่อยดีนัก โดยติดอันดับ 10 ที่จีน แต่ยังเชื่อมันว่าเขาจะคว้าแชมป์ได้ในเร็ว ๆนี้ โดยกล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับเขา มีบางเรื่องราวที่เราต้องทำความเข้าใจกันอีก ทั้งเรื่องของยางและเรื่องของรถ สนามหน้าเชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น และจะคว้าแชมป์ได้ เพราะรถของทีมอยู่ระดับแถวหน้า โดยเฉพาะ Nico Rosberg ที่เข้าเส้นชัยในอันดับ 3 ติดต่อกัน 2 สนาม
