By : C. Methas – Executive Editor
ศึกฟอร์มูล่า-วันภาคพื้นแปซิฟิคได้เสร็จสิ้นลงจากรายการ Grang Prix of China Sunday ณ.สนามแข่ง The Shanghai International Speedway ประเทศจีนโดย Jenson Button และ Lewis Hamilton นักขับทีม McLaren Mercedes คว้าแชมป์ในอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับไปครอง ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์สมัยที่ 2 ของ Button ในปีนี้ หลังจากที่คว้าแชมป์มาแล้วสมัยหนึ่งในการแข่งที่เมลเบอร์น ประเทศออสเตรเลียที่ผ่านมา และยังได้พิสูจน์ให้เห็นอีกว่า การเป็นผู้ชนะในรอบควอลิฟายของทีม Red Bull ไม่ได้หมายความว่าในการแข่งจริงจะต้องชนะเสมอไป สนามนี้ Nico Rosberg นักขับทีม Mercedes GP เข้าเส้นชัยไปเป็นอันดับ 3
“มันเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม” Button กล่าว “ใครก็ตามที่ชนะ คงต้องพูดอย่างผมทุกคน เพราะสภาพอากาศทำให้การแข่งขันเต็มไปด้วยความยากลำบาก แต่ผมยังคงสามารถรักษาระดับความเร็วได้เป็นอย่างดี จนกระทั่งใกล้จบการแข่งขัน เรายังทำความเร็วได้เร็วกว่านักแข่งคนอื่นๆรอบละ 2 วินาที”
การแข่งขันท่ามกลางสายฝนเบาๆ เริ่มขึ้นด้วย Fernando Alonso แห่งทีม Ferrari ได้สร้างความกังวลใจให้กับทีม Red Bull ด้วยการออกสตาร์ทนำหน้า Sebastian Vettel และ Mark Webber ได้ตั้งแต่โค้งแรก แต่ความพยายามของเขากลับไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะได้เกิดอุบัติเหตุเสียก่อน โดยรถของVitantonio Liuzzi นักขับทีม Force India ประสานงาเข้ากับรถของ Kamui Kobayashi และ Sebastian Buemi แห่งทีม Sauber
อย่างไรก็ตาม Liuzzi อ้างภายหลังว่า เขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุครั้งนี้เลย นักแข่งชาวอิตาเลียนกล่าวว่า “ผมนั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสาร ไม่ได้เป็นคนขับ และไม่ได้เห็นอะไรมากนัก รู้แต่ว่าพอรถผมเข้ามาถึงโค้งที่5 เบรคเกิดลอค ทำให้รถผมลื่นไถลออกไปชนกับรถของนักแข่งทีม Sauber”
Alonso, Webber, Vettel และนักแข่งคนอื่นๆที่กำลังนำอยู่หัวแถว จึงถือโอกาสนำรถเข้าพิทเร็วกว่ากำหนด ในขณะที่รอเจ้าหน้าที่สนามเคลียร์พื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุ ซี่งนับว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะนักแข่งเหล่านี้เลื่อนอันดับในสนามขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ส่วน Roseberg และ Button ซึ่งไม่ได้เข้าพิทเหมือนนักแข่งหัวแถวคนอื่นๆ และยังคงใช้ slick tires เมื่อการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นใหม่ในรอบที่ 4 Roseberg จึงนำหน้านักแข่งคนอื่นๆ และในรอบที่ 5 Alonso แชมป์โลก 2 สมัย ได้รับ go-stop penalty หลังจากที่เขา jump starts the grid on lap one
ในรอบที่ 6 Roseberg ยังคงนำอยู่ สนามแข่งเริ่มแห้งหลังจากฝนหยุดตก นักแข่งหลายๆคนจึงเปลี่ยนมาใช้ slick tires ส่วนทีม Sauber ยังคงพบอุปสรรคในการแข่งครั้งนี้อย่างหนัก ตั้งแต่ Kobayashi ต้องออกจากการแข่งขันไปตั้งแต่รอบที่ 1จากอุบัติเหตุ เพื่อนร่วมทีม Pedro De La Rosa ก็ประสบปัญหาเครื่องยนต์ ต้องออกจากการแข่งขันไปอีกคนในรอบที่ 9
ในรอบที่ 19 Roseberg ยังคงนำ Button อยู่ 4 วินาที และนำ Robert Kubica นักขับทีม Renault ซึ่งไล่หลังมาติดๆในตำแหน่งที่ 3 11 วินาที เช่นเดียวกับนักแข่งคนอื่นๆที่อยู่ในระดับหัวแถว ก็กำลังไล่ตามมาติดๆ อย่างไม่สนใจกับฝนที่อาจจะตกลงมาอีกเมื่อใดก็ได้ แต่เพียงอีกหนึ่งรอบต่อมา Roseberg กลับประสบปัญหายางสึกอย่างหนัก ทำให้รถที่เขาขับเสียหลัก หมุนเข้าไปในโค้ง 11 ต้องเข้าพิทเพื่อเปลี่ยนยาง สูญเสียตำแหน่งผู้นำไปอย่างน่าเสียดาย
“ผมทำตามคำแนะนำของทีมและวิศวกร ตัดสินใจปล่อยตำแหน่งที่ 1 ไป และอย่างที่คุณเห็น ผลลัพธ์ออกมาดี” Roseberg กล่าว
“ตอนนั้นอยากให้ฝนหยุดตก ผมยอมรับว่าผมพลาด ยางรถผมเสื่อมมากกว่าของ Jenson Button เปิดโอกาสให้ Jenson ขึ้นมานำหน้า แต่ผมก็มีความสุขในตำแหน่งที่ 3 ที่ผมได้รับ อย่างไรก็ตามผมรู้สึกดีที่นำนักขับคนอื่นอยู่เป็นเวลานาน เป็นก้าวที่ดีไปในทิศทางที่ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นผมอาจจะไม่ได้ตำแหน่งใดๆเลยก็ได้”
ฝนทำท่าจะตกลงมาอีก นักแข่งส่วนมากจีงนำรถเข้าพิทในรอบที่ 20 และอีก 2 รอบต่อมา หลังจากรถของ James Algusuari ประสบปัญหา broken nosecone ต้องนำรถเข้าพิทและหลังจากที่เคลียร์ชิ้นส่วนบางชิ้นส่วนของรถเขาที่กระจายอยู่ในสนามแข่งแล้ว การแข่งขันจึงดำเนินต่อไป
การแข่งขันดำเนินต่อไปโดย Button กลับมานำ Roseberg อยู่ 4 วินาที และนำ Kubica ซึ่งไล่ตามมาติดๆในตำแหน่งที่ 3 เพียง 6 วินาที และเนื่องจากเจ้าหน้าที่สนามต้องทำการเคลียร์ชิ้นส่วนรถของ James Algusuari ทำให้นักขับที่ตามหลังอยู่ ไล่ขึ้นมาทันนักขับหัวแถวทั้ง 3 คนนี้ ดังนั้นในรอบที่ 25 Hamilton จึงได้โอกาสแซง Kubica ขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งที่ 3แทน
ในรอบที่40 Button ยังคงนำต่อไป โดยนำ Hamilton เพื่อนร่วมทีมซึ่งตามมาเป็นอันดับ 2 เพียง 2.6 วินาที และต่อมานำเพียง 1 วินาที เมื่อ Hamilton พยายามไล่ตามขึ้นมา แต่เมื่อถึงรอบที่ 48 Hamilton เริ่มประสบปัญหาดอกยางสึกจนเกือบหมด เขาจึงไม่มีทางเลือกอย่างอื่น นอกจากคงความเร็วให้อยู่ในตำแหน่งที่ 2 ส่วน Alonso ถือว่าโชคเข้าข้าง เลื่อนขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งที่ 4 และเมื่อเหลืออีกเพียง 10 รอบจะเข้าเส้นชัย Alonso เริ่มเลื่อนขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งคู่คี่กับ Roseberg
ในรอบสุดท้าย Button ยังคงนำ Hamilton อยู่เล็กน้อยเพียง 2.6 วินาที และในที่สุด Button และ Hamilton ก็คว้าแชมป์ครั้งแรกในฤดูกาลนี้มาให้ทีม McLaren Mercedesได้สำเร็จทั้งอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ โดยมี Roseberg นักขับทีม Mercedes GP ตามมาเป็นอันดับ 3 Kubica แห่งทีม Renault คว้าอันดับ 5 ไปตามโพล Vitaly Petrov เพื่อนร่วมทีมชาวรัสเซียคว้าอันดับ 6 ส่วน Felipe Massa และ Michael Schumacher ได้ 2 คะแนนสุดท้ายจากตำแหน่งที่ได้
เมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างชัยชนะของ Button ที่เมลเบอร์น ออสเตรเลีย ซึ่งในครั้งนั้นประสบปัญหายางเช่นเดียวกัน เขาไม่อาจจะบอกได้ว่า เขาชนะการแข่งขันครั้งนี้ได้อย่างไร
Button กล่าวว่า “การที่เราคว้าแชมป์ในวันนี้ ผมคิดว่าไม่ใช่โชคช่วย เราเลือกทำทุกสิ่งทุกอย่างได้ถูกต้องตามสภาพอากาศ และสถานะการณ์ เช่น การเลือกใช้ยางแบบอ่อน รถที่เราขับก็ปลอดภัย การที่ผมไม่ได้เข้าพิทเร็วกว่ากำหนดเหมือนนักแข่งคนอื่นๆ เมื่อตอนเกิดอุบัติเหตุ บางคนคิดว่าไม่ดี แต่ผลที่ออกมาคือ ผมได้แชมป์”
By : C. Methas - Executive Editor
ศึกฟอร์มูล่า-วันภาคพื้นแปซิฟิคได้เสร็จสิ้นลงจากรายการ Grang Prix of China Sunday ณ.สนามแข่ง The Shanghai International Speedway ประเทศจีนโดย Jenson Button และ Lewis Hamilton นักขับทีม McLaren Mercedes คว้าแชมป์ในอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับไปครอง ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์สมัยที่ 2 ของ Button ในปีนี้ หลังจากที่คว้าแชมป์มาแล้วสมัยหนึ่งในการแข่งที่เมลเบอร์น ประเทศออสเตรเลียที่ผ่านมา และยังได้พิสูจน์ให้เห็นอีกว่า การเป็นผู้ชนะในรอบควอลิฟายของทีม Red Bull ไม่ได้หมายความว่าในการแข่งจริงจะต้องชนะเสมอไป สนามนี้ Nico Rosberg นักขับทีม Mercedes GP เข้าเส้นชัยไปเป็นอันดับ 3
“มันเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม” Button กล่าว “ใครก็ตามที่ชนะ คงต้องพูดอย่างผมทุกคน เพราะสภาพอากาศทำให้การแข่งขันเต็มไปด้วยความยากลำบาก แต่ผมยังคงสามารถรักษาระดับความเร็วได้เป็นอย่างดี จนกระทั่งใกล้จบการแข่งขัน เรายังทำความเร็วได้เร็วกว่านักแข่งคนอื่นๆรอบละ 2 วินาที”
การแข่งขันท่ามกลางสายฝนเบาๆ เริ่มขึ้นด้วย Fernando Alonso แห่งทีม Ferrari ได้สร้างความกังวลใจให้กับทีม Red Bull ด้วยการออกสตาร์ทนำหน้า Sebastian Vettel และ Mark Webber ได้ตั้งแต่โค้งแรก แต่ความพยายามของเขากลับไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะได้เกิดอุบัติเหตุเสียก่อน โดยรถของVitantonio Liuzzi นักขับทีม Force India ประสานงาเข้ากับรถของ Kamui Kobayashi และ Sebastian Buemi แห่งทีม Sauber
อย่างไรก็ตาม Liuzzi อ้างภายหลังว่า เขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุครั้งนี้เลย นักแข่งชาวอิตาเลียนกล่าวว่า “ผมนั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสาร ไม่ได้เป็นคนขับ และไม่ได้เห็นอะไรมากนัก รู้แต่ว่าพอรถผมเข้ามาถึงโค้งที่5 เบรคเกิดลอค ทำให้รถผมลื่นไถลออกไปชนกับรถของนักแข่งทีม Sauber”
Alonso, Webber, Vettel และนักแข่งคนอื่นๆที่กำลังนำอยู่หัวแถว จึงถือโอกาสนำรถเข้าพิทเร็วกว่ากำหนด ในขณะที่รอเจ้าหน้าที่สนามเคลียร์พื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุ ซี่งนับว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะนักแข่งเหล่านี้เลื่อนอันดับในสนามขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ในรอบที่ 6 Roseberg ยังคงนำอยู่ สนามแข่งเริ่มแห้งหลังจากฝนหยุดตก นักแข่งหลายๆคนจึงเปลี่ยนมาใช้ slick tires ส่วนทีม Sauber ยังคงพบอุปสรรคในการแข่งครั้งนี้อย่างหนัก ตั้งแต่ Kobayashi ต้องออกจากการแข่งขันไปตั้งแต่รอบที่ 1จากอุบัติเหตุ เพื่อนร่วมทีม Pedro De La Rosa ก็ประสบปัญหาเครื่องยนต์ ต้องออกจากการแข่งขันไปอีกคนในรอบที่ 9
ในรอบที่ 19 Roseberg ยังคงนำ Button อยู่ 4 วินาที และนำ Robert Kubica นักขับทีม Renault ซึ่งไล่หลังมาติดๆในตำแหน่งที่ 3 11 วินาที เช่นเดียวกับนักแข่งคนอื่นๆที่อยู่ในระดับหัวแถว ก็กำลังไล่ตามมาติดๆ อย่างไม่สนใจกับฝนที่อาจจะตกลงมาอีกเมื่อใดก็ได้ แต่เพียงอีกหนึ่งรอบต่อมา Roseberg กลับประสบปัญหายางสึกอย่างหนัก ทำให้รถที่เขาขับเสียหลัก หมุนเข้าไปในโค้ง 11 ต้องเข้าพิทเพื่อเปลี่ยนยาง สูญเสียตำแหน่งผู้นำไปอย่างน่าเสียดาย “ผมทำตามคำแนะนำของทีมและวิศวกร ตัดสินใจปล่อยตำแหน่งที่ 1 ไป และอย่างที่คุณเห็น ผลลัพธ์ออกมาดี” Roseberg กล่าว
“ตอนนั้นอยากให้ฝนหยุดตก ผมยอมรับว่าผมพลาด ยางรถผมเสื่อมมากกว่าของ Jenson Button เปิดโอกาสให้ Jenson ขึ้นมานำหน้า แต่ผมก็มีความสุขในตำแหน่งที่ 3 ที่ผมได้รับ อย่างไรก็ตามผมรู้สึกดีที่นำนักขับคนอื่นอยู่เป็นเวลานาน เป็นก้าวที่ดีไปในทิศทางที่ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นผมอาจจะไม่ได้ตำแหน่งใดๆเลยก็ได้”
ฝนทำท่าจะตกลงมาอีก นักแข่งส่วนมากจีงนำรถเข้าพิทในรอบที่ 20 และอีก 2 รอบต่อมา หลังจากรถของ James Algusuari ประสบปัญหา broken nosecone ต้องนำรถเข้าพิทและหลังจากที่เคลียร์ชิ้นส่วนบางชิ้นส่วนของรถเขาที่กระจายอยู่ในสนามแข่งแล้ว การแข่งขันจึงดำเนินต่อไป
การแข่งขันดำเนินต่อไปโดย Button กลับมานำ Roseberg อยู่ 4 วินาที และนำ Kubica ซึ่งไล่ตามมาติดๆในตำแหน่งที่ 3 เพียง 6 วินาที และเนื่องจากเจ้าหน้าที่สนามต้องทำการเคลียร์ชิ้นส่วนรถของ James Algusuari ทำให้นักขับที่ตามหลังอยู่ ไล่ขึ้นมาทันนักขับหัวแถวทั้ง 3 คนนี้ ดังนั้นในรอบที่ 25 Hamilton จึงได้โอกาสแซง Kubica ขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งที่ 3แทน
ในรอบที่40 Button ยังคงนำต่อไป โดยนำ Hamilton เพื่อนร่วมทีมซึ่งตามมาเป็นอันดับ 2 เพียง 2.6 วินาที และต่อมานำเพียง 1 วินาที เมื่อ Hamilton พยายามไล่ตามขึ้นมา แต่เมื่อถึงรอบที่ 48 Hamilton เริ่มประสบปัญหาดอกยางสึกจนเกือบหมด เขาจึงไม่มีทางเลือกอย่างอื่น นอกจากคงความเร็วให้อยู่ในตำแหน่งที่ 2 ส่วน Alonso ถือว่าโชคเข้าข้าง เลื่อนขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งที่ 4 และเมื่อเหลืออีกเพียง 10 รอบจะเข้าเส้นชัย Alonso เริ่มเลื่อนขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งคู่คี่กับ Roseberg
ในรอบสุดท้าย Button ยังคงนำ Hamilton อยู่เล็กน้อยเพียง 2.6 วินาที และในที่สุด Button และ Hamilton ก็คว้าแชมป์ครั้งแรกในฤดูกาลนี้มาให้ทีม McLaren Mercedesได้สำเร็จทั้งอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ โดยมี Roseberg นักขับทีม Mercedes GP ตามมาเป็นอันดับ 3 Kubica แห่งทีม Renault คว้าอันดับ 5 ไปตามโพล Vitaly Petrov เพื่อนร่วมทีมชาวรัสเซียคว้าอันดับ 6 ส่วน Felipe Massa และ Michael Schumacher ได้ 2 คะแนนสุดท้ายจากตำแหน่งที่ได้
เมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างชัยชนะของ Button ที่เมลเบอร์น ออสเตรเลีย ซึ่งในครั้งนั้นประสบปัญหายางเช่นเดียวกัน เขาไม่อาจจะบอกได้ว่า เขาชนะการแข่งขันครั้งนี้ได้อย่างไร
Button กล่าวว่า “การที่เราคว้าแชมป์ในวันนี้ ผมคิดว่าไม่ใช่โชคช่วย เราเลือกทำทุกสิ่งทุกอย่างได้ถูกต้องตามสภาพอากาศ และสถานะการณ์ เช่น การเลือกใช้ยางแบบอ่อน รถที่เราขับก็ปลอดภัย การที่ผมไม่ได้เข้าพิทเร็วกว่ากำหนดเหมือนนักแข่งคนอื่นๆ เมื่อตอนเกิดอุบัติเหตุ บางคนคิดว่าไม่ดี แต่ผลที่ออกมาคือ ผมได้แชมป์”
