By : Saksithi Chompaisal – Foreign Editor
เกีย มอเตอร์เผยโฉมสปอร์ตซีดานขนาดกลางพลังงานไฮบริดรุ่นแรกเวอร์ชั่นยุโรปของตระกูล Optima Plug-in Hybrid เป็นรถยนต์ในกลุ่มดี-เซ็กเม้นท์มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงประหยัดกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ 25 เปอร์เซ็นต์และขับเคลื่อนด้วยโหมดมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ระยะทาง 33 ไมล์ที่ความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
รูปทรงภายนอกออกแบบเป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์ ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ 0.24 สปอยเลอร์หน้ามีช่องดักอากาศ กรอบไฟหน้ารูปทรงเหลี่ยมเรียว มีระบบไฟกลางวันแบบ LED
ห้องโดยสารออกแบบเน้นความหรูหรากว้างขวางเนื้อที่ห้องบรรจุสัมภาระ 307 ลิตร จอมอนิเตอร์แบบสั่งการด้วยสัมผัสแบบ TFT LCD ขนาด 8 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูงพร้อมลำโพง 6 ตัวมีเครื่องเสียงของ Harman Kardon QuantumLogic พร้อมลำโพง 10 ตัวเป็นอุปกรณ์ให้เลือก นอกจากนี้ติดตั้งระบบ Infotainment, Android Auto และ Apple CarPlay ระบบกล้องช่วยถอยเข้าจอด
เครื่องยนต์ ขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบแถวเรียง 156 แรงม้าที่ 6000 รอบต่อนาทีและให้แรงบิดสูงสุด 189 นิวตันเมตรที่ 5000 รอบต่อนาทีปฏิบัติการร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 50 กิโลวัตต์ แบตเตอรี่แบบลิเธี่ยม-โพลีเมอร์วางไว้ใต้เบาะที่นั่งด้านท้ายให้กำลังไฟฟ้า 9.8 kWh ให้แรงม้ารวม 205 แรงม้าที่ 6000 รอบต่อนาทีและให้แรงบิดสูงสุดรวม 375 นิวตันเมตรที่ 2300 รอบต่อนาที
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 40 ไมล์ต่อแกลลอนและปล่อยคาร์บอนมอน็อกไซด์เฉลี่ย 37 กรัมต่อกิโลเมตรโดยถังน้ำมันเชื้อเพลิงออกแบบเล็กกว่ารุ่นก่อนจากขนาด 65 ลิตรเป็น 55 ลิตร สมรรถนะการทำความเร็ว จาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลา 9.4 วินาที เครื่องยนต์วางด้านหน้า ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า โดยระบบถ่ายทอดกำลังเป็นแบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ Sportmatic
By : Saksithi Chompaisal - Foreign Editor
เกีย มอเตอร์เผยโฉมสปอร์ตซีดานขนาดกลางพลังงานไฮบริดรุ่นแรกเวอร์ชั่นยุโรปของตระกูล Optima Plug-in Hybrid เป็นรถยนต์ในกลุ่มดี-เซ็กเม้นท์มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงประหยัดกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ 25 เปอร์เซ็นต์และขับเคลื่อนด้วยโหมดมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ระยะทาง 33 ไมล์ที่ความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
รูปทรงภายนอกออกแบบเป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์ ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ 0.24 สปอยเลอร์หน้ามีช่องดักอากาศ กรอบไฟหน้ารูปทรงเหลี่ยมเรียว มีระบบไฟกลางวันแบบ LED
ห้องโดยสารออกแบบเน้นความหรูหรากว้างขวางเนื้อที่ห้องบรรจุสัมภาระ 307 ลิตร จอมอนิเตอร์แบบสั่งการด้วยสัมผัสแบบ TFT LCD ขนาด 8 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูงพร้อมลำโพง 6 ตัวมีเครื่องเสียงของ Harman Kardon QuantumLogic พร้อมลำโพง 10 ตัวเป็นอุปกรณ์ให้เลือก นอกจากนี้ติดตั้งระบบ Infotainment, Android Auto และ Apple CarPlay ระบบกล้องช่วยถอยเข้าจอด
เครื่องยนต์ ขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบแถวเรียง 156 แรงม้าที่ 6000 รอบต่อนาทีและให้แรงบิดสูงสุด 189 นิวตันเมตรที่ 5000 รอบต่อนาทีปฏิบัติการร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 50 กิโลวัตต์ แบตเตอรี่แบบลิเธี่ยม-โพลีเมอร์วางไว้ใต้เบาะที่นั่งด้านท้ายให้กำลังไฟฟ้า 9.8 kWh ให้แรงม้ารวม 205 แรงม้าที่ 6000 รอบต่อนาทีและให้แรงบิดสูงสุดรวม 375 นิวตันเมตรที่ 2300 รอบต่อนาที
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 40 ไมล์ต่อแกลลอนและปล่อยคาร์บอนมอน็อกไซด์เฉลี่ย 37 กรัมต่อกิโลเมตรโดยถังน้ำมันเชื้อเพลิงออกแบบเล็กกว่ารุ่นก่อนจากขนาด 65 ลิตรเป็น 55 ลิตร สมรรถนะการทำความเร็ว จาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลา 9.4 วินาที เครื่องยนต์วางด้านหน้า ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า โดยระบบถ่ายทอดกำลังเป็นแบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ Sportmatic
