By : C. Methas – Executive Editor
รถแข่งพลังงานไฮบริดจากค่ายสี่ห่วง “ออดี้” แห่งเยอรมนีรุ่น R18 E-Tron Quattro ที่เคยโด่งดังในศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงเนื่องจากเป็นรถแข่งไฮบริดยุคแรกที่สามารถคว้าแชมป์ได้ ก่อนหน้านี้ค่ายออดี้ประสบความสำเร็จด้วยการกวาดแชมป์ติดต่อกัน 3 สมัยในรายการ FIA World Endurance Championship (WEC) และคว้าแชมป์ในศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงด้วยรถแข่งพลังงานไฮบริดดีเซลเทอร์โบชาร์จและได้นำเทคโนโลยี่นวัตกรรมยานยนต์จากสนามแข่งฟอร์มูล่า-วันมาติดตั้งประกอบด้วยระบบ ERS-K(Energy Recovery System Kinetic และระบบ ERS-H(Energy Recovery System Heat ซึ่งสามารถนำพลังงานกลับมาจัดเก็บใหม่ได้มากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับรถแข่งของออดี้รุ่นก่อนหน้านี้
R18 E-Tron Quattro รหัสล่าสุดของรถแข่งจากทีมออดี้ที่มาคว้าแชมป์ที่ศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบที่พัฒนาต่อเนื่องจากรุ่นแรกที่เคยมาสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ในรายการนี้เป็นครั้งแรกของโลกด้วยรถแข่งที่วางเครื่องยนต์ดีเซลได้ในปี 2006 ส่วนรุ่น R18 E-Tron Quattro ส่งลงแข่งขันในศึกซิลเวอร์สโตน 6 ชั่วโมงเป็นครั้งแรกและลงแข่งในศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมง
ขุมพลังที่วางไว้กลางลำตัวของรหัส R18 E-Tron Quattro เป็นเครื่องยนต์แบบ วี-6 สูบ ทำมุม 120 องศา ขนาด 3.7 ลิตร ดีเซลติดเทอร์โบชาร์จ จำนวน 24 วาล์ว ระบบเพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ เสื้อสูบและฝาสูบผลิตจากอะลูมิเนียม ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิคส์ FSI เครื่องยนต์ปฏิบัติการร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ขับเคลื่อนล้อหลัง เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
รูปลักษณ์ภายนอกออกแบบเป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์ผ่านการทดสอบจากอุโมงค์ลม ตัวถังผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ คอมโพรไซท์และโครงสร้างแชสซีส์พัฒนาขึ้นใหม่แบบโมโนค็อคผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ คอมโพรไซท์และสานแบบรังผึ้งโมโนค็อค ตัวรถมีความสูงตัวรถ 1050 มิลลิเมตรซึ่งมีความสูงกว่ารุ่นก่อนหน้านี้อยู่ 20 มิลลิเมตร ติดตั้งยางของมิชิลินและกระทะล้อของ OZ
รถแข่งพลังงานไฮบริดโฉมใหม่ของออดี้รุ่นนี้ได้พัฒนาโดยอาศัยเทคโนโลยี่ด้านวัสดุศาสตร์ มีน้ำหนักประมาณ 870 กิโลกรัมซึ่งเบากว่ารุ่นก่อนที่มีน้ำหนัก 915 กิโลกรัม
By : C. Methas - Executive Editor
รถแข่งพลังงานไฮบริดจากค่ายสี่ห่วง “ออดี้” แห่งเยอรมนีรุ่น R18 E-Tron Quattro ที่เคยโด่งดังในศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงเนื่องจากเป็นรถแข่งไฮบริดยุคแรกที่สามารถคว้าแชมป์ได้ ก่อนหน้านี้ค่ายออดี้ประสบความสำเร็จด้วยการกวาดแชมป์ติดต่อกัน 3 สมัยในรายการ FIA World Endurance Championship (WEC) และคว้าแชมป์ในศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงด้วยรถแข่งพลังงานไฮบริดดีเซลเทอร์โบชาร์จและได้นำเทคโนโลยี่นวัตกรรมยานยนต์จากสนามแข่งฟอร์มูล่า-วันมาติดตั้งประกอบด้วยระบบ ERS-K(Energy Recovery System Kinetic และระบบ ERS-H(Energy Recovery System Heat ซึ่งสามารถนำพลังงานกลับมาจัดเก็บใหม่ได้มากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับรถแข่งของออดี้รุ่นก่อนหน้านี้
R18 E-Tron Quattro รหัสล่าสุดของรถแข่งจากทีมออดี้ที่มาคว้าแชมป์ที่ศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบที่พัฒนาต่อเนื่องจากรุ่นแรกที่เคยมาสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ในรายการนี้เป็นครั้งแรกของโลกด้วยรถแข่งที่วางเครื่องยนต์ดีเซลได้ในปี 2006 ส่วนรุ่น R18 E-Tron Quattro ส่งลงแข่งขันในศึกซิลเวอร์สโตน 6 ชั่วโมงเป็นครั้งแรกและลงแข่งในศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมง
ขุมพลังที่วางไว้กลางลำตัวของรหัส R18 E-Tron Quattro เป็นเครื่องยนต์แบบ วี-6 สูบ ทำมุม 120 องศา ขนาด 3.7 ลิตร ดีเซลติดเทอร์โบชาร์จ จำนวน 24 วาล์ว ระบบเพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ เสื้อสูบและฝาสูบผลิตจากอะลูมิเนียม ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิคส์ FSI เครื่องยนต์ปฏิบัติการร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ขับเคลื่อนล้อหลัง เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
รูปลักษณ์ภายนอกออกแบบเป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์ผ่านการทดสอบจากอุโมงค์ลม ตัวถังผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ คอมโพรไซท์และโครงสร้างแชสซีส์พัฒนาขึ้นใหม่แบบโมโนค็อคผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ คอมโพรไซท์และสานแบบรังผึ้งโมโนค็อค ตัวรถมีความสูงตัวรถ 1050 มิลลิเมตรซึ่งมีความสูงกว่ารุ่นก่อนหน้านี้อยู่ 20 มิลลิเมตร ติดตั้งยางของมิชิลินและกระทะล้อของ OZ
รถแข่งพลังงานไฮบริดโฉมใหม่ของออดี้รุ่นนี้ได้พัฒนาโดยอาศัยเทคโนโลยี่ด้านวัสดุศาสตร์ มีน้ำหนักประมาณ 870 กิโลกรัมซึ่งเบากว่ารุ่นก่อนที่มีน้ำหนัก 915 กิโลกรัม
