AUDI R18 TDI-รถแข่งเครื่องดีเซลคว้าแชมป์ศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมง


ทีมแข่งในศึกทางเรียบหฤโหด เลอ มังส์ 24 ชั่วโมงของออดี้ประสบความสำเร็จอีกครั้งด้วยการคว้าแชมป์ไปครองอีกสมัยเป็นสมัยที่ 10 หลังจากได้ส่งทีมแข่งลงแข่งขันเมื่อปี 1999 ไปสูญเสียแชมป์ให้กับทีมเปอโยต์เพียงครั้งเดียวเมื่อปี 2009
R18 TDI รถแข่งจากทีมออดี้คว้าแชมป์อีกสมัยที่ศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงวางเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบพัฒนาต่อเนื่องจากรุ่นแรกที่เคยมาสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ในรายการนี้เป็นครั้งแรกของโลกด้วยรถแข่งที่วางเครื่องยนต์ดีเซลได้ในปี 2006

การแข่งขันศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมง ทีมออดี้ประสบปัญหาตั้งแต่ชั่วโมงแรก ขับโดยอลัน แมคนิชไปเฉี่ยวกับรถของทีมเฟอร์รารี่จนหลุดโค้งไปพุ่งชนกำแพงอย่างรุนแรง รถเสียหายพังยับ แต่ผู้ขับสามารถออกมาจากรถได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ ทำให้ทีมแข่งของออดี้มีรถแข่งอยู่ในสนามเพียง 2 คันเท่านั้นในปี 2011
รถแข่งคันที่ 2 ของทีมออดี้ต้องออกจากสนามไปอีกคันในชั่วโมงที่ 8 แต่นักขับไม่ได้รับบาดเจ็บเช่นกันจากอุบัติเหตุเฉี่ยวกับรถของทีมเฟอร์รารี่ ท้ายที่สุดเหลือรถแข่งอยู่ในสนามเพียงคันเดียวและมาคว้าแชมป์ได้ในที่สุด

ขุมพลังที่วางไว้กลางลำตัวของรหัส R18 TDI เป็นเครื่องยนต์ ขนาด 3.7 ลิตร ดีเซล วี-6 สูบ ทำมุม 120 องศา ติดเทอร์โบชาร์จคู่ จ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิคส์ FSI 553 แรงม้า เฉลี่ยให้แรงม้าต่อลิตร 148.6 แรงม้าต่อลิตร และเฉลี่ยให้กำลังต่อน้ำหนัก 0.6 แรงม้าต่อกิโลกรัม
R18 TDI วางเครื่องกลางลำตัว ขับเคลื่อนล้อหลัง เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะพัฒนาขึ้นใหม่แบบ 6 สปีดสำหรับใช้กับเครื่องยนต์ขนาดเล็กที่มีน้ำหนักเบาพิเศษ ระบบกันสะเทือนแบบปีกนกคู่ ทอร์ชั่นบาร์ สปริงขดและโช๊คอัพทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ระบบเบรกแบบดิสก์มีร่องระบายความร้อนผลิตจากคาร์บอน เซรามิค
รูปลักษณ์ภายนอกออกแบบเป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์ผ่านการทดสอบจากอุโมงค์ลม ตัวถังผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ คอมโพรไซท์และโครงสร้างแชสซีส์ผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ คอมโพรไซท์สานแบบรังผึ้งโมโนค็อค น้ำหนักรถ 1,984.2 ปอนด์

ทีมแข่งในศึกทางเรียบหฤโหด เลอ มังส์ 24 ชั่วโมงของออดี้ประสบความสำเร็จอีกครั้งด้วยการคว้าแชมป์ไปครองอีกสมัยเป็นสมัยที่ 10 หลังจากได้ส่งทีมแข่งลงแข่งขันเมื่อปี 1999 ไปสูญเสียแชมป์ให้กับทีมเปอโยต์เพียงครั้งเดียวเมื่อปี 2009 R18 TDI รถแข่งจากทีมออดี้คว้าแชมป์อีกสมัยที่ศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมงวางเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบพัฒนาต่อเนื่องจากรุ่นแรกที่เคยมาสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ในรายการนี้เป็นครั้งแรกของโลกด้วยรถแข่งที่วางเครื่องยนต์ดีเซลได้ในปี 2006 การแข่งขันศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมง ทีมออดี้ประสบปัญหาตั้งแต่ชั่วโมงแรก ขับโดยอลัน แมคนิชไปเฉี่ยวกับรถของทีมเฟอร์รารี่จนหลุดโค้งไปพุ่งชนกำแพงอย่างรุนแรง รถเสียหายพังยับ แต่ผู้ขับสามารถออกมาจากรถได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ ทำให้ทีมแข่งของออดี้มีรถแข่งอยู่ในสนามเพียง 2 คันเท่านั้นในปี 2011 รถแข่งคันที่ 2 ของทีมออดี้ต้องออกจากสนามไปอีกคันในชั่วโมงที่ 8 แต่นักขับไม่ได้รับบาดเจ็บเช่นกันจากอุบัติเหตุเฉี่ยวกับรถของทีมเฟอร์รารี่ ท้ายที่สุดเหลือรถแข่งอยู่ในสนามเพียงคันเดียวและมาคว้าแชมป์ได้ในที่สุด ขุมพลังที่วางไว้กลางลำตัวของรหัส R18 TDI เป็นเครื่องยนต์ ขนาด 3.7 ลิตร ดีเซล วี-6 สูบ ทำมุม 120 องศา ติดเทอร์โบชาร์จคู่ จ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิคส์ FSI 553 แรงม้า เฉลี่ยให้แรงม้าต่อลิตร 148.6 แรงม้าต่อลิตร และเฉลี่ยให้กำลังต่อน้ำหนัก 0.6 แรงม้าต่อกิโลกรัม R18 TDI วางเครื่องกลางลำตัว ขับเคลื่อนล้อหลัง เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะพัฒนาขึ้นใหม่แบบ 6 สปีดสำหรับใช้กับเครื่องยนต์ขนาดเล็กที่มีน้ำหนักเบาพิเศษ ระบบกันสะเทือนแบบปีกนกคู่ ทอร์ชั่นบาร์ สปริงขดและโช๊คอัพทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ระบบเบรกแบบดิสก์มีร่องระบายความร้อนผลิตจากคาร์บอน เซรามิค รูปลักษณ์ภายนอกออกแบบเป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์ผ่านการทดสอบจากอุโมงค์ลม ตัวถังผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ คอมโพรไซท์และโครงสร้างแชสซีส์ผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ คอมโพรไซท์สานแบบรังผึ้งโมโนค็อค น้ำหนักรถ 1,984.2 ปอนด์

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!