CHEVROLET IMPALA-สปอร์ตซีดานระดับหรูขนาดใหญ่สายพันธ์ที่ 10 ล้นนวัตกรรมความปลอดภัย


By : C. Methas – Executive Editor

Impala สปอร์ตซีดานระดับหรูขนาดใหญ่ของเชฟโรเลทที่มีประวัติความเป็นมายาวนานนับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 1957 ปัจจุบันยังคงได้รับการสืบตำนานของตระกูล Impala มาถึงสายพันธ์ที่ 10

ผลิตสร้างขึ้นบนโครงฐานแชสซีส์ของรหัส Epsilon II ซึ่งเป็นโครงฐานที่ใช้ร่วมกับรุ่น XTS ของค่ายแคดิลแลคที่ออกแบบสำหรับรถยนต์ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ

วางเครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นใหม่เน้นประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากเครื่องยนต์แบบ 4 สูบแถวเรียง เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะมีระบบชิฟท์เกียร์ที่พัฒนาประหยัดเชื้อเพลิงเช่นกัน โดยรถรุ่นนี้มีให้เลือก 3 เวอร์ชั่นด้วยกันประกอบด้วยรุ่น LS, LT และ LTZ

เครื่องยนต์ในรุ่นพื้นฐาน ขนาด 2.4 ลิตร แบบ 4 สูบแถวเรียง 182 แรงม้าที่ 6,200 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 172 ปอนด์-ฟุตที่ 4,900 รอบต่อนาที เครื่องยนต์รุ่นนี้มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสำหรับการขับขี่นอกเมือง 35 ไมล์ต่อแกลลอน

เครื่องยนต์ให้เลือก แบบ วี-6 สูบขนาด 3.6 ลิตร สามารถขับแรงม้าสูงสุด 303 แรงม้าที่ 6,800 รอบต่อนาทีและให้แรงบิดสูงสุด 264 ปอนด์-ฟุตที่ 5,300 รอบต่อนาที
เครื่องยนต์วางด้านหน้า ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดมีระบบชิฟท์เกียร์

แผงกระจังหน้าลวดลายแนวนอน กรอบไฟหน้ารูปทรงเหลี่ยมเรียวยาว ฝากระโปรงท้ายออกแบบเป็นสปอยเลอร์ท้ายในตัว ปลายท่อไอเสียรูปทรงเหลี่ยม กระทะล้อลวดลายหลายก้าน ขนาด 18 นิ้ว

ห้องโดยสารออกแบบสไตล์สปอร์ต พวงมาลัยแบบ 4 ก้านหุ้มหนังแท้ติดตั้งชุดควบคุมการปรับเปลี่ยนเกียร์และระบบควบคุมเครื่องเสียง เบาะที่นั่งด้านผู้ขับขี่และด้านผู้โดยสารมีระบบทำความอุ่นและปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยรีโมทและมีจอมอนิเตอร์สั่งการด้วยสัมผัสขนาด 8 นิ้ว

ระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูงของ Bose พร้อมลำโพงจำนวน 8 ตัว ระบบโทรศัพท์บลูธูทและวิทยุผ่านดาวเทียม XM Satellite และระบบนำร่องผ่านดาวเทียมติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานพร้อมกับติดตั้งระบบวัดแรงดันลมยางผ่านจอมอนิเตอร์

พัฒนาในส่วนของลดเสียงรบกวนและลดอาการสั่นสะเทือนของตัวรถและเครื่องยนต์ที่เล็ดลอดเข้าสู่ห้องโดยสาร นอกจากนี้ได้เน้นในเรื่องความปลอดภัยโดยติดตั้งระบบถุงลมนิรภัยจำนวน 10 ใบ คู่ด้านหน้าแบบมีเซ็นเซอร์สองระดับแรงดัน, ถุงลมนิรภัยบริเวณเหนือศีรษะและม่านนิรภัยด้านข้าง

นอกจากนี้ได้ติดตั้งระบบสัญญาณเตือนเพื่อให้รักษาตำแหน่งรถในเลน พร้อมกับระบบกล้องช่วยในมุมอับ, ระบบการเตือนการชนจากด้านท้าย, ระบบช่วยถอยเข้าจอดและระบบ Full speed range adaptive cruise control โดยใช้ระบบเรดาร์เซ็นเซอร์การจราจรด้านหน้าเพื่อควบคุมความเร็วอัตโนมัติและสามารถเบรกอัตโนมัติเมื่อการจราจรติดขัดพร้อมทั้งเร่งความเร็วอัตโนมัติเมื่อการจราจรเข้าสู่ปกติซึ่งทางเชฟโรเลทได้นำมาติดตั้งในรถรุ่นนี้เป็นครั้งแรก

By : C. Methas - Executive Editor

Impala สปอร์ตซีดานระดับหรูขนาดใหญ่ของเชฟโรเลทที่มีประวัติความเป็นมายาวนานนับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 1957 ปัจจุบันยังคงได้รับการสืบตำนานของตระกูล Impala มาถึงสายพันธ์ที่ 10

ผลิตสร้างขึ้นบนโครงฐานแชสซีส์ของรหัส Epsilon II ซึ่งเป็นโครงฐานที่ใช้ร่วมกับรุ่น XTS ของค่ายแคดิลแลคที่ออกแบบสำหรับรถยนต์ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ

วางเครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นใหม่เน้นประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากเครื่องยนต์แบบ 4 สูบแถวเรียง เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะมีระบบชิฟท์เกียร์ที่พัฒนาประหยัดเชื้อเพลิงเช่นกัน โดยรถรุ่นนี้มีให้เลือก 3 เวอร์ชั่นด้วยกันประกอบด้วยรุ่น LS, LT และ LTZ

เครื่องยนต์ในรุ่นพื้นฐาน ขนาด 2.4 ลิตร แบบ 4 สูบแถวเรียง 182 แรงม้าที่ 6,200 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 172 ปอนด์-ฟุตที่ 4,900 รอบต่อนาที เครื่องยนต์รุ่นนี้มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสำหรับการขับขี่นอกเมือง 35 ไมล์ต่อแกลลอน

เครื่องยนต์ให้เลือก แบบ วี-6 สูบขนาด 3.6 ลิตร สามารถขับแรงม้าสูงสุด 303 แรงม้าที่ 6,800 รอบต่อนาทีและให้แรงบิดสูงสุด 264 ปอนด์-ฟุตที่ 5,300 รอบต่อนาที เครื่องยนต์วางด้านหน้า ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดมีระบบชิฟท์เกียร์

แผงกระจังหน้าลวดลายแนวนอน กรอบไฟหน้ารูปทรงเหลี่ยมเรียวยาว ฝากระโปรงท้ายออกแบบเป็นสปอยเลอร์ท้ายในตัว ปลายท่อไอเสียรูปทรงเหลี่ยม กระทะล้อลวดลายหลายก้าน ขนาด 18 นิ้ว

ห้องโดยสารออกแบบสไตล์สปอร์ต พวงมาลัยแบบ 4 ก้านหุ้มหนังแท้ติดตั้งชุดควบคุมการปรับเปลี่ยนเกียร์และระบบควบคุมเครื่องเสียง เบาะที่นั่งด้านผู้ขับขี่และด้านผู้โดยสารมีระบบทำความอุ่นและปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยรีโมทและมีจอมอนิเตอร์สั่งการด้วยสัมผัสขนาด 8 นิ้ว

ระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูงของ Bose พร้อมลำโพงจำนวน 8 ตัว ระบบโทรศัพท์บลูธูทและวิทยุผ่านดาวเทียม XM Satellite และระบบนำร่องผ่านดาวเทียมติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานพร้อมกับติดตั้งระบบวัดแรงดันลมยางผ่านจอมอนิเตอร์

พัฒนาในส่วนของลดเสียงรบกวนและลดอาการสั่นสะเทือนของตัวรถและเครื่องยนต์ที่เล็ดลอดเข้าสู่ห้องโดยสาร นอกจากนี้ได้เน้นในเรื่องความปลอดภัยโดยติดตั้งระบบถุงลมนิรภัยจำนวน 10 ใบ คู่ด้านหน้าแบบมีเซ็นเซอร์สองระดับแรงดัน, ถุงลมนิรภัยบริเวณเหนือศีรษะและม่านนิรภัยด้านข้าง

นอกจากนี้ได้ติดตั้งระบบสัญญาณเตือนเพื่อให้รักษาตำแหน่งรถในเลน พร้อมกับระบบกล้องช่วยในมุมอับ, ระบบการเตือนการชนจากด้านท้าย, ระบบช่วยถอยเข้าจอดและระบบ Full speed range adaptive cruise control โดยใช้ระบบเรดาร์เซ็นเซอร์การจราจรด้านหน้าเพื่อควบคุมความเร็วอัตโนมัติและสามารถเบรกอัตโนมัติเมื่อการจราจรติดขัดพร้อมทั้งเร่งความเร็วอัตโนมัติเมื่อการจราจรเข้าสู่ปกติซึ่งทางเชฟโรเลทได้นำมาติดตั้งในรถรุ่นนี้เป็นครั้งแรก

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!