By : Preecha Bowornsatidya – Article Editor
สปอร์ตแฮทชแบ็คขนาดคอมแพคท์จากค่าย “จ่าโท” พัฒนาจากรถต้นแบบที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ รหัสรุ่น DS5 ตัวรถมีขนาดกะทัดรัดให้ความคล่องตัวสูงสำหรับการขับขี่ในเมืองและสามารถขับขี่ท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ด้วยการติดตั้งระบบ Hill-start assist สำหรับบนเส้นทางลาดชันมีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งแบบเบนซินและดีเซล นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชั่นพลังงานไฮบริดระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์พัฒนาขึ้นใหม่ เน้นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด ผ่านมาตรฐานไอเสียระดับยูโร 5
เครื่องยนต์แบบเบนซิน รหัส THP 165 แรงม้าและให้แรงบิดสูงสุด 177 ปอนด์-ฟุต เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร 180 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 295 ปอนด์-ฟุต มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 4.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรและปล่อยคาร์บอนมอน็อกไซด์ 99 กรัมต่อกิโลเมตร เครื่องยนต์วางด้านหน้า ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะมีเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะให้เลือก
ส่วนเวอร์ชั่นพลังงานไฮบริด วางเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร 163 แรงม้าปฏิบัติการร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ชุด วางด้านท้ายโดยมอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังขับสูงสุด 37 แรงม้า รวมแรงม้าสูงสุด 200 แรงม้าเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
รูปลักษณ์ภายนอกของสปอร์ตแฮทชแบ็คขนาดคอมแพคท์แบบ 5 ประตู ขนาด 5 ที่นั่ง การออกแบบนำแนวคิดจากรถต้นแบบ เส้นสายโค้งมนต่อเนื่องตั้งแต่ด้านหน้าจดด้านท้าย ไฟหน้าแบบซีนอนคู่มีไฟกลางวันแบบ LED และมีระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
กระจกด้านท้ายโค้งต่อเนื่องเสา B-Pillar
ภายในห้องโดยสารออกแบบสไตล์สปอร์ตตกแต่งรอบคันด้วยหนังแท้ พวงมาลัยแบบ 4 ก้านหุ้มหนังแท้ เบาะที่นั่งด้านท้ายปรับพับแยกส่วนได้หลากหลายรูปแบบเพื่อขยายเนื้อที่บรรจุสัมภาระด้านท้าย คอนโซลกลางติดตั้งจอมอนิเตอร์แบบมัลติฟังก์ชั่น ขนาด 7.0 นิ้ว
เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน ใบปัดน้ำฝนมีเซ็นเซอร์ติดตั้งระบบ Head-up display ระบบนำร่องผ่านดาวเทียม กล้องช่วยถอยเข้าจอด เบาะที่นั่งคู่หน้ามีระบบทำความอุ่นมีระบบนวดและปรับไฟฟ้า ซันรูฟแบบแยก 3 ส่วนควบคุมการปรับด้วยไฟฟ้า
DS5 สปอร์ตแฮทชแบ็คคอมแพคท์ของซีตรอง ยานยนต์ที่พัฒนาจากรถต้นแบบสำหรับวิถีชีวิตสมัยใหม่เพื่อการขับขี่ในเมืองที่เน้นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเสริมความปลอดภัยด้วยการติดตั้งระบบควบคุมการยึดเกาะถนนอัจฉริยะ, ระบบกล้องช่วยถอย, ไฟหน้าอัตโนมัติ, ระบบ Hill-start assist และระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่
By : Preecha Bowornsatidya - Article Editor
สปอร์ตแฮทชแบ็คขนาดคอมแพคท์จากค่าย “จ่าโท” พัฒนาจากรถต้นแบบที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ รหัสรุ่น DS5 ตัวรถมีขนาดกะทัดรัดให้ความคล่องตัวสูงสำหรับการขับขี่ในเมืองและสามารถขับขี่ท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ด้วยการติดตั้งระบบ Hill-start assist สำหรับบนเส้นทางลาดชันมีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งแบบเบนซินและดีเซล นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชั่นพลังงานไฮบริดระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์พัฒนาขึ้นใหม่ เน้นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด ผ่านมาตรฐานไอเสียระดับยูโร 5
เครื่องยนต์แบบเบนซิน รหัส THP 165 แรงม้าและให้แรงบิดสูงสุด 177 ปอนด์-ฟุต เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร 180 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 295 ปอนด์-ฟุต มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 4.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรและปล่อยคาร์บอนมอน็อกไซด์ 99 กรัมต่อกิโลเมตร เครื่องยนต์วางด้านหน้า ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะมีเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะให้เลือก
ส่วนเวอร์ชั่นพลังงานไฮบริด วางเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร 163 แรงม้าปฏิบัติการร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ชุด วางด้านท้ายโดยมอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังขับสูงสุด 37 แรงม้า รวมแรงม้าสูงสุด 200 แรงม้าเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
รูปลักษณ์ภายนอกของสปอร์ตแฮทชแบ็คขนาดคอมแพคท์แบบ 5 ประตู ขนาด 5 ที่นั่ง การออกแบบนำแนวคิดจากรถต้นแบบ เส้นสายโค้งมนต่อเนื่องตั้งแต่ด้านหน้าจดด้านท้าย ไฟหน้าแบบซีนอนคู่มีไฟกลางวันแบบ LED และมีระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กระจกด้านท้ายโค้งต่อเนื่องเสา B-Pillar
ภายในห้องโดยสารออกแบบสไตล์สปอร์ตตกแต่งรอบคันด้วยหนังแท้ พวงมาลัยแบบ 4 ก้านหุ้มหนังแท้ เบาะที่นั่งด้านท้ายปรับพับแยกส่วนได้หลากหลายรูปแบบเพื่อขยายเนื้อที่บรรจุสัมภาระด้านท้าย คอนโซลกลางติดตั้งจอมอนิเตอร์แบบมัลติฟังก์ชั่น ขนาด 7.0 นิ้ว
เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน ใบปัดน้ำฝนมีเซ็นเซอร์ติดตั้งระบบ Head-up display ระบบนำร่องผ่านดาวเทียม กล้องช่วยถอยเข้าจอด เบาะที่นั่งคู่หน้ามีระบบทำความอุ่นมีระบบนวดและปรับไฟฟ้า ซันรูฟแบบแยก 3 ส่วนควบคุมการปรับด้วยไฟฟ้า
DS5 สปอร์ตแฮทชแบ็คคอมแพคท์ของซีตรอง ยานยนต์ที่พัฒนาจากรถต้นแบบสำหรับวิถีชีวิตสมัยใหม่เพื่อการขับขี่ในเมืองที่เน้นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเสริมความปลอดภัยด้วยการติดตั้งระบบควบคุมการยึดเกาะถนนอัจฉริยะ, ระบบกล้องช่วยถอย, ไฟหน้าอัตโนมัติ, ระบบ Hill-start assist และระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่
