By : C. Methas – Executive Editor
เครื่องบินประจำกองเรือบรรทุกเครื่องบินของกองทัพเรือสหรัฐฯ และหน่วยนาวิกโยธินของสหรัฐฯ ประจำการอยู่ในปัจจุบันและพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของระบบการโจมตีด้วยขีปนาวุธและระเบิดทั้งจากอากาศสู่อากาศ จากอากาศสู่ภาคพื้น ระบบป้องกันรวมไปถึงระบบปฏิบัติทางอิเล็กทรอนิคส์ทางการป้องกันการถูกโจมตี อีกหนึ่งรุ่นของเครื่องบินรบที่เสืออากาศของสหรัฐฯ มีความชำนาญจากการที่เข้าประจำการและผ่านชั่วโมงการบินมาเป็นเวลายาวนาน
F/A 18 Hornet เป็นเครื่องบินโจมตีหลากภารกิจที่สามารถปฏิบัติการได้ทุกสภาพภูมิอากาศ
เครื่องยนต์ไอพ่น เทอร์โบแฟน F414 GE-400 จำนวน 2 เครื่อง ให้กำลังขับ 22,000 ปอนด์ต่อเครื่อง สมรรถนะการทำความเร็วสูงสุดที่ 1.8 มัค มีเพดานบินสูงเกินกว่า 50,000 ฟุต ศักยภาพอัตราไต่เพดานบินได้ 50,000 ฟุตภายใน 1 นาทีและมีพิสัยบินทางทะเล 1,275 ไมล์ สามารถแบกน้ำหนักติดขีปนาวุธ AIM -9S จำนวน 2 ชุด
เครื่องบินรุ่นนี้เข้าประจำการในกองเรือบรรทุกเครื่องบินของกองทัพเรือสหรัฐฯ ปัจจุบันพัฒนาต่อเนื่องออกมาหลายรุ่นด้วยกัน ทั้งขนาด 1 ที่นั่งและ 2 ที่นั่ง รุ่น A, C และ E ขนาด 1 ที่นั่ง รุ่น B, D และ F ขนาด 2 ที่นั่ง
F/A 18 Hornet ติดตั้งอาวุธประจำเครื่อง ประกอบด้วย ปืนกล ขนาด 20 มิลลิเมตร M61A1/A2 ขีปนาวุธจากอากาศสู่อากาศ ขีปนาวุธจากอากาศสู่ภาคพื้นและขีปนาวุธต่อต้านเรือ
อาวุธนอกเครื่อง ประกอบด้วย ขีปนาวุธ
Air-to-air: AIM-9 Sidewinder, AIM-120 AMRAAM, AIM-7 Sparrow, IRIS-T
Air-to-ground: AGM-45 Shrike, AGM-65 Maverick, AGM-88 HARM, SLAM-ER, JSOW, Taurus Missile
Anti-ship: AGM-84 Harpoon, Bombs: CBU-87 cluster, CBU-89 gator mine, CBU-97 CEM, Paveway, JDAM, Mk 80 series, nuclear bombs MK 20 Rockeye cluster, mines
นอกจากนี้สามารถติดตั้งระเบิดได้หลากหลายประเภทด้วยกัน รวมไปถึงระเบิดนิวเคลียร์
การออกแบบเริ่มต้นจาก Northrop YF-17 Cobra เป็นโปรแกรมการสร้างเครื่องบินโจมตีน้ำหนักเบาที่มีความคล่องตัวสูง เครื่องต้นแบบผลิตเมื่อปี 1974 เข้าประจำการในปี 1990 แทนเครื่องรุ่น A-6 Intruder , F-14 Tomcat และ EA-6 Prowler ที่ปลดประจำการออกไป
F/A 18 Hornet ได้เข้าร่วมปฏิบัติภารกิจที่แผนปฏิบัติการ Desert Storm ทั้งทิ้งระเบิดที่ตั้งทางทหารและสามารถโจมตีเครื่องบิน Mig-21 ของกองทัพอากาศอีรักร่วงไปสองลำ
ระบบควบคุมการบินดิจิตอล Fly-by-wire และระบบ LEX ควบคุมการปฏิบัติการรบระดับมุมสูง และเป็นเครื่องบินรบรุ่นแรกที่ได้รับการติดตั้งระบบ Multi-function displays ซึ่งมีสวิทช์ควบคุมในระหว่างการบินและการต่อสู้ หรือทั้งสองระบบไปพร้อมกัน นอกจากนี้ได้ติดตั้งระบบ Digital Multiplex avionics
By : C. Methas - Executive Editor
เครื่องบินประจำกองเรือบรรทุกเครื่องบินของกองทัพเรือสหรัฐฯ และหน่วยนาวิกโยธินของสหรัฐฯ ประจำการอยู่ในปัจจุบันและพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของระบบการโจมตีด้วยขีปนาวุธและระเบิดทั้งจากอากาศสู่อากาศ จากอากาศสู่ภาคพื้น ระบบป้องกันรวมไปถึงระบบปฏิบัติทางอิเล็กทรอนิคส์ทางการป้องกันการถูกโจมตี อีกหนึ่งรุ่นของเครื่องบินรบที่เสืออากาศของสหรัฐฯ มีความชำนาญจากการที่เข้าประจำการและผ่านชั่วโมงการบินมาเป็นเวลายาวนาน
F/A 18 Hornet เป็นเครื่องบินโจมตีหลากภารกิจที่สามารถปฏิบัติการได้ทุกสภาพภูมิอากาศ
เครื่องยนต์ไอพ่น เทอร์โบแฟน F414 GE-400 จำนวน 2 เครื่อง ให้กำลังขับ 22,000 ปอนด์ต่อเครื่อง สมรรถนะการทำความเร็วสูงสุดที่ 1.8 มัค มีเพดานบินสูงเกินกว่า 50,000 ฟุต ศักยภาพอัตราไต่เพดานบินได้ 50,000 ฟุตภายใน 1 นาทีและมีพิสัยบินทางทะเล 1,275 ไมล์ สามารถแบกน้ำหนักติดขีปนาวุธ AIM -9S จำนวน 2 ชุด
เครื่องบินรุ่นนี้เข้าประจำการในกองเรือบรรทุกเครื่องบินของกองทัพเรือสหรัฐฯ ปัจจุบันพัฒนาต่อเนื่องออกมาหลายรุ่นด้วยกัน ทั้งขนาด 1 ที่นั่งและ 2 ที่นั่ง รุ่น A, C และ E ขนาด 1 ที่นั่ง รุ่น B, D และ F ขนาด 2 ที่นั่ง
F/A 18 Hornet ติดตั้งอาวุธประจำเครื่อง ประกอบด้วย ปืนกล ขนาด 20 มิลลิเมตร M61A1/A2 ขีปนาวุธจากอากาศสู่อากาศ ขีปนาวุธจากอากาศสู่ภาคพื้นและขีปนาวุธต่อต้านเรือ
อาวุธนอกเครื่อง ประกอบด้วย ขีปนาวุธ
Air-to-air: AIM-9 Sidewinder, AIM-120 AMRAAM, AIM-7 Sparrow, IRIS-T
Air-to-ground: AGM-45 Shrike, AGM-65 Maverick, AGM-88 HARM, SLAM-ER, JSOW, Taurus Missile
Anti-ship: AGM-84 Harpoon, Bombs: CBU-87 cluster, CBU-89 gator mine, CBU-97 CEM, Paveway, JDAM, Mk 80 series, nuclear bombs MK 20 Rockeye cluster, mines
นอกจากนี้สามารถติดตั้งระเบิดได้หลากหลายประเภทด้วยกัน รวมไปถึงระเบิดนิวเคลียร์
การออกแบบเริ่มต้นจาก Northrop YF-17 Cobra เป็นโปรแกรมการสร้างเครื่องบินโจมตีน้ำหนักเบาที่มีความคล่องตัวสูง เครื่องต้นแบบผลิตเมื่อปี 1974 เข้าประจำการในปี 1990 แทนเครื่องรุ่น A-6 Intruder , F-14 Tomcat และ EA-6 Prowler ที่ปลดประจำการออกไป
F/A 18 Hornet ได้เข้าร่วมปฏิบัติภารกิจที่แผนปฏิบัติการ Desert Storm ทั้งทิ้งระเบิดที่ตั้งทางทหารและสามารถโจมตีเครื่องบิน Mig-21 ของกองทัพอากาศอีรักร่วงไปสองลำ
ระบบควบคุมการบินดิจิตอล Fly-by-wire และระบบ LEX ควบคุมการปฏิบัติการรบระดับมุมสูง และเป็นเครื่องบินรบรุ่นแรกที่ได้รับการติดตั้งระบบ Multi-function displays ซึ่งมีสวิทช์ควบคุมในระหว่างการบินและการต่อสู้ หรือทั้งสองระบบไปพร้อมกัน นอกจากนี้ได้ติดตั้งระบบ Digital Multiplex avionics
