GREECE-แหล่งอารยธรรมโลกตะวันตกอันยิ่งใหญ่ในอดีตแผ่อิทธิพลไปยัง 3 ทวีป (ตอนที่ 1)


By : C. Methas – Managing Editor

ประเทศกรีซเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานและเป็นแหล่งอารยะธรรมที่มีมาตั้งแต่อดีตในหลายด้านด้วยกัน มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก ขณะเดียวกันก็ประสบความเสื่อมสลายเช่นกัน

ประวัติศาสตร์ของกรีซมีมายาวนานตั้งแต่ 3,000-2,000 ปีก่อนคริสต์ศักราชซึ่งเคยรุ่งเรืองมากและได้เสื่อมสลายลง และช่วง 800 ปีก่อนคริสตกาล ได้กลับมารุ่งเรื่องมากอีกครั้ง นับว่าเป็นยุคคลาสสิค และในยุคนี้เองนักปราชญ์ เพเรอคลิส ทำให้วิหารพาร์เธนอนเป็นที่รู้จักของชาวโลก

โสคราติสได้สอนให้ชาวเอเธนส์เรียนรู้วิชาตรรกวิทยาและประชาธิปไตย มหากาพย์โออีดิเพิสถูกเขียนในยุคนี้โดย ซาเฟอคลิส

ประเทศกรีซแหล่งอารยะธรรมโลกที่มีบทบาทอย่างสูงต่อศิลปวัฒนธรรม วิชาการต่าง ๆ ต่อยุโรป ซึ่งยังคงเต็มไปด้วยธรรมชาติที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี

ประเทศกรีซได้รับการประกาศเป็นเอกราชจากจักรวรรดิออตโตมัน เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ปี พ.ศ. 2363 เป็นแหล่งอารยธรรมตะวันตกที่ยิ่งใหญ่ซึ่งได้แผ่อิทธิพลไปยัง 3 ทวีป

ศิลปะของกรีซถือว่าเป็นต้นแบบของงานสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและสง่างาม เสาหินแบบวิหารพาร์เธนอน ได้รับการตกแต่งหัวเสาด้วยศิลปะแบบกรีก 3 แบบด้วยกัน ดอริก, ไอโอนิกและคอรินเธียน

ปัจจุบันอาคารสำคัญต่าง ๆ ที่เป็นสถาปัตยกรรมชั้นแนวหน้าของโลกที่ตั้งอยู่ทั้งในยุโรป อเมริกาและออสเตรเลีย จะมีสถาปัตยกรรมศิลปะของกรีซเข้าไปผสมผสาน

ส่วนผลงานจิตรกรรมและประติมากรรมของกรีซที่เป็นมรดกล้ำค่าของโลก และนักปรัชญาที่ถือว่าเป็นเสาหลักของปรัชญาตะวันตกเป็นชาวกรีซด้วยกันทั้งสิ้น ประกอบด้วย โสคราติส, เพลโตและอริสโตเติล

ส่วนกวีโบราณอันยิ่งใหญ่ชาวกรีซผู้เขียนมหากาพย์ไว้หลายเรื่อง รวมไปถึงเรื่องกรุงทรอย คือโฮเมอร์และฮีเสียด ซึ่งอยู่ในยุคอาณาจักรมาซิเนียน

ประวัติศาสตร์ของกรีซมีทั้งยุครุ่งโรจน์และสู่จุดเสื่อมสลายหลายครั้งด้วยกัน เคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรไบแซนไทน์

ดินแดนกรีซในปัจจุบันเคยเป็นศูนย์กลางการค้าทางเรือของยุโรปตอนกลางและเป็นที่ชุมนุมของเหล่าบรรดานักปราชญ์และศิลปินระดับโลก นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านกรีกที่มีประเพณีและวัฒนธรรมกรีกออร์โธดอกซ์

By : C. Methas - Managing Editor

ประเทศกรีซเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานและเป็นแหล่งอารยะธรรมที่มีมาตั้งแต่อดีตในหลายด้านด้วยกัน มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก ขณะเดียวกันก็ประสบความเสื่อมสลายเช่นกัน

ประวัติศาสตร์ของกรีซมีมายาวนานตั้งแต่ 3,000-2,000 ปีก่อนคริสต์ศักราชซึ่งเคยรุ่งเรืองมากและได้เสื่อมสลายลง และช่วง 800 ปีก่อนคริสตกาล ได้กลับมารุ่งเรื่องมากอีกครั้ง นับว่าเป็นยุคคลาสสิค และในยุคนี้เองนักปราชญ์ เพเรอคลิส ทำให้วิหารพาร์เธนอนเป็นที่รู้จักของชาวโลก

โสคราติสได้สอนให้ชาวเอเธนส์เรียนรู้วิชาตรรกวิทยาและประชาธิปไตย มหากาพย์โออีดิเพิสถูกเขียนในยุคนี้โดย ซาเฟอคลิส

ประเทศกรีซแหล่งอารยะธรรมโลกที่มีบทบาทอย่างสูงต่อศิลปวัฒนธรรม วิชาการต่าง ๆ ต่อยุโรป ซึ่งยังคงเต็มไปด้วยธรรมชาติที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี

ประเทศกรีซได้รับการประกาศเป็นเอกราชจากจักรวรรดิออตโตมัน เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ปี พ.ศ. 2363 เป็นแหล่งอารยธรรมตะวันตกที่ยิ่งใหญ่ซึ่งได้แผ่อิทธิพลไปยัง 3 ทวีป

ศิลปะของกรีซถือว่าเป็นต้นแบบของงานสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและสง่างาม เสาหินแบบวิหารพาร์เธนอน ได้รับการตกแต่งหัวเสาด้วยศิลปะแบบกรีก 3 แบบด้วยกัน ดอริก, ไอโอนิกและคอรินเธียน

ปัจจุบันอาคารสำคัญต่าง ๆ ที่เป็นสถาปัตยกรรมชั้นแนวหน้าของโลกที่ตั้งอยู่ทั้งในยุโรป อเมริกาและออสเตรเลีย จะมีสถาปัตยกรรมศิลปะของกรีซเข้าไปผสมผสาน

ส่วนผลงานจิตรกรรมและประติมากรรมของกรีซที่เป็นมรดกล้ำค่าของโลก และนักปรัชญาที่ถือว่าเป็นเสาหลักของปรัชญาตะวันตกเป็นชาวกรีซด้วยกันทั้งสิ้น ประกอบด้วย โสคราติส, เพลโตและอริสโตเติล

ส่วนกวีโบราณอันยิ่งใหญ่ชาวกรีซผู้เขียนมหากาพย์ไว้หลายเรื่อง รวมไปถึงเรื่องกรุงทรอย คือโฮเมอร์และฮีเสียด ซึ่งอยู่ในยุคอาณาจักรมาซิเนียน

ประวัติศาสตร์ของกรีซมีทั้งยุครุ่งโรจน์และสู่จุดเสื่อมสลายหลายครั้งด้วยกัน เคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรไบแซนไทน์

ดินแดนกรีซในปัจจุบันเคยเป็นศูนย์กลางการค้าทางเรือของยุโรปตอนกลางและเป็นที่ชุมนุมของเหล่าบรรดานักปราชญ์และศิลปินระดับโลก นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านกรีกที่มีประเพณีและวัฒนธรรมกรีกออร์โธดอกซ์

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!