LEXUS GS350-Luxuryซีดานระดับหรูสายพันธ์ที่ 3 รุกตลาดรถชั้นสูงเสริมเทคโนโลยี่สื่อสาร เกียร์ออโต้ 8 จังหวะ


By : Preecha Bowornsatidya – Article Editor

สปอร์ตซีดานระดับหรูหราตระกูล GS 350 สายพันธ์ที่ 3 ของเล็กซัสแบรนด์เรมรถยนต์ระดับหรูหราในเครือข่ายของโตโยต้ายกระดับคุณภาพเสริมเทคโนโลยี่ระบบสื่อสารข้อมูลลิขสิทธิ์จากค่ายแอปเปิ้ลและระบบ Siri Eyes Free Mode ติดตั้งระบบถ่ายทอดกำลังที่พัฒนาขึ้นใหม่เป็นระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ

เล็กซัสได้เสริมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและเทคโนโลยี่ระบบสื่อสารข้อมูลและบันเทิงประกอบระบบนำร่องผ่านดาวเทียมแบบจอสัมผัสให้ความละเอียดสูงแบบโค้งต่อโค้งผ่านทาง Siri และ Apple maps

รูปทรงภายนอกสไตล์สปอร์ตออกแบบเป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์ ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ 0.26 แผงกระจังหน้าแนวนอน สปอยเลอร์หน้าติดตั้งไฟตัดหมอก กรอบไฟหน้ารูปทรงเหลี่ยมเรียวยาว ติดตั้งระบบปรับแสงอัตโนมัติ Adaptive Front Lighting System

กรอบไฟท้ายรูปทรงเหลี่ยม ฝากระโปรงท้ายออกแบบเป็นสปอยเลอร์ท้ายในตัว หลังคาซันรูฟบานใหญ่ควบคุมด้วยไฟฟ้า ปลายท่อไอเสียรูปทรงเหลี่ยมเรียว แยกซ้าย-ขวา ผลิตจากสแตนเลสติดตั้งระบบกล้องช่วยถอยเข้าจอดด้านท้าย กระทะล้อ ขนาด 17 นิ้ว ลวดลายหลายก้าน ติดแผงจัดระเบียบอากาศใต้พื้นรถ ยาง ขนาด 225/50R17 มีกระทะล้อ ขนาด 18 นิ้วให้เลือก

ห้องโดยสารออกแบบเน้นความหรูหรา พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน ติดตั้งชุดควบคุมการปรับเปลี่ยนเกียร์ ระบบปรับตั้งความเร็วคงที่ขณะเดินทางไกลแบบแอ็คทีฟ ระบบโทรศัพท์บลูธูทและชุดควบคุมระบบเครื่องเสียง ตกแต่งรอบคันด้วยหนังแท้เสริมด้วยลวดลายไม้และอะลูมิเนียม พวงมาลัยหุ้มหนังแท้ พร้อมกับระบบ Night Vision System และ Head-Up Display เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

สีสันภายในห้องโดยสารแบบทู-โทน เบาะที่นั่งแบบสปอร์ตมีระบบทำความอุ่นและระบบไหลเวียนอากาศเป็นอุปกรณ์ให้เลือก คอนโซลกลางมีจอมอนิเตอร์แบบมัลติฟังก์ชั่น ขนาด 12.3 นิ้วให้ความละเอียดสูง ระบบนำร่องผ่านดาวเทียมให้ความละเอียดสูง ระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูง ปรับระดับเสียงอัตโนมัติ

เครื่องยนต์ ขนาด 3.5 ลิตร แบบ วี-6 สูบ ระบบปรับวาล์วแปรผันคู่ ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิคส์ Sequential Multiport สามารถขับแรงม้าสูงสุด 306 แรงม้าที่ 6,200 รอบต่อนาทีและให้แรงบิดสูงสุด 274 ปอนด์-ฟุตที่ 3,600 รอบต่อนาที

สมรรถนะ จาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงภายในเวลา 5.7 วินาที และความเร็วสูงสุดจำกัดด้วยอิเล็กทรอนิคส์ที่ 142 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือ 288.478 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เครื่องยนต์วางด้านหน้า ระบบขับเคลื่อนล้อหลังในรุ่นพื้นฐาน ส่วนรุ่นท็อประบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิคส์ ECT-i

มีโหมดให้เลือก 3 โหมดประกอบด้วย ECO ช่วยประหยัดเชื้อเพลิง โหมด Sport สนองตอบต่อการทำอัตราเร่งได้รวดเร็วและโหมด Sport S+ ช่วยเสริมการควบคุมการขับขี่ที่ดีกว่าด้วยการปรับระบบกันสะเทือน, ระบบพวงมาลัยและระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่พร้อมกับการทำอัตราเร่งได้รวดเร็ว

ระบบกันสะเทือนพัฒนาขึ้นใหม่ด้านหน้าแบบปีกนกคู่ แบบคอนโทรลอาร์มทั้งด้านบนและด้านล่างผลิตจากอะลูมิเนียม สปริงขด โช๊คอัพแก๊สและเหล็กกันโคลง ด้านาหลังแบบมัลติ-ลิ้งค์ สปริงขด โช๊คอัพแก๊สและเหล็กกันโคลงติดตั้งระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ Lexus Dynamic Handling System ประกอบด้วยระบบ Adaptive Variable Suspension, Dynamic Rear Steering และ Variable Gear Ratio Steering

มีชุดตกแต่งพิเศษ F-Sport ที่มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนปรับระดับแบบแปรผันโดยมีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหลังและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาติดตั้งดิฟเฟอร์เรนเชียลตรงกลางควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิคส์กระจายแรงบิดระหว่างหน้า-หลังเท่ากับ 50:50 ให้การควบคุมการขับขี่ที่มีเสถียรภาพสูงและการยึดเกาะถนนที่ดีกว่าขณะขับขี่บนเส้นทางลื่น

By : Preecha Bowornsatidya - Article Editor

สปอร์ตซีดานระดับหรูหราตระกูล GS 350 สายพันธ์ที่ 3 ของเล็กซัสแบรนด์เรมรถยนต์ระดับหรูหราในเครือข่ายของโตโยต้ายกระดับคุณภาพเสริมเทคโนโลยี่ระบบสื่อสารข้อมูลลิขสิทธิ์จากค่ายแอปเปิ้ลและระบบ Siri Eyes Free Mode ติดตั้งระบบถ่ายทอดกำลังที่พัฒนาขึ้นใหม่เป็นระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ

เล็กซัสได้เสริมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและเทคโนโลยี่ระบบสื่อสารข้อมูลและบันเทิงประกอบระบบนำร่องผ่านดาวเทียมแบบจอสัมผัสให้ความละเอียดสูงแบบโค้งต่อโค้งผ่านทาง Siri และ Apple maps

รูปทรงภายนอกสไตล์สปอร์ตออกแบบเป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์ ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ 0.26 แผงกระจังหน้าแนวนอน สปอยเลอร์หน้าติดตั้งไฟตัดหมอก กรอบไฟหน้ารูปทรงเหลี่ยมเรียวยาว ติดตั้งระบบปรับแสงอัตโนมัติ Adaptive Front Lighting System

กรอบไฟท้ายรูปทรงเหลี่ยม ฝากระโปรงท้ายออกแบบเป็นสปอยเลอร์ท้ายในตัว หลังคาซันรูฟบานใหญ่ควบคุมด้วยไฟฟ้า ปลายท่อไอเสียรูปทรงเหลี่ยมเรียว แยกซ้าย-ขวา ผลิตจากสแตนเลสติดตั้งระบบกล้องช่วยถอยเข้าจอดด้านท้าย กระทะล้อ ขนาด 17 นิ้ว ลวดลายหลายก้าน ติดแผงจัดระเบียบอากาศใต้พื้นรถ ยาง ขนาด 225/50R17 มีกระทะล้อ ขนาด 18 นิ้วให้เลือก

ห้องโดยสารออกแบบเน้นความหรูหรา พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน ติดตั้งชุดควบคุมการปรับเปลี่ยนเกียร์ ระบบปรับตั้งความเร็วคงที่ขณะเดินทางไกลแบบแอ็คทีฟ ระบบโทรศัพท์บลูธูทและชุดควบคุมระบบเครื่องเสียง ตกแต่งรอบคันด้วยหนังแท้เสริมด้วยลวดลายไม้และอะลูมิเนียม พวงมาลัยหุ้มหนังแท้ พร้อมกับระบบ Night Vision System และ Head-Up Display เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

สีสันภายในห้องโดยสารแบบทู-โทน เบาะที่นั่งแบบสปอร์ตมีระบบทำความอุ่นและระบบไหลเวียนอากาศเป็นอุปกรณ์ให้เลือก คอนโซลกลางมีจอมอนิเตอร์แบบมัลติฟังก์ชั่น ขนาด 12.3 นิ้วให้ความละเอียดสูง ระบบนำร่องผ่านดาวเทียมให้ความละเอียดสูง ระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูง ปรับระดับเสียงอัตโนมัติ

เครื่องยนต์ ขนาด 3.5 ลิตร แบบ วี-6 สูบ ระบบปรับวาล์วแปรผันคู่ ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิคส์ Sequential Multiport สามารถขับแรงม้าสูงสุด 306 แรงม้าที่ 6,200 รอบต่อนาทีและให้แรงบิดสูงสุด 274 ปอนด์-ฟุตที่ 3,600 รอบต่อนาที

สมรรถนะ จาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงภายในเวลา 5.7 วินาที และความเร็วสูงสุดจำกัดด้วยอิเล็กทรอนิคส์ที่ 142 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือ 288.478 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เครื่องยนต์วางด้านหน้า ระบบขับเคลื่อนล้อหลังในรุ่นพื้นฐาน ส่วนรุ่นท็อประบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิคส์ ECT-i

มีโหมดให้เลือก 3 โหมดประกอบด้วย ECO ช่วยประหยัดเชื้อเพลิง โหมด Sport สนองตอบต่อการทำอัตราเร่งได้รวดเร็วและโหมด Sport S+ ช่วยเสริมการควบคุมการขับขี่ที่ดีกว่าด้วยการปรับระบบกันสะเทือน, ระบบพวงมาลัยและระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่พร้อมกับการทำอัตราเร่งได้รวดเร็ว

ระบบกันสะเทือนพัฒนาขึ้นใหม่ด้านหน้าแบบปีกนกคู่ แบบคอนโทรลอาร์มทั้งด้านบนและด้านล่างผลิตจากอะลูมิเนียม สปริงขด โช๊คอัพแก๊สและเหล็กกันโคลง ด้านาหลังแบบมัลติ-ลิ้งค์ สปริงขด โช๊คอัพแก๊สและเหล็กกันโคลงติดตั้งระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ Lexus Dynamic Handling System ประกอบด้วยระบบ Adaptive Variable Suspension, Dynamic Rear Steering และ Variable Gear Ratio Steering

มีชุดตกแต่งพิเศษ F-Sport ที่มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนปรับระดับแบบแปรผันโดยมีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหลังและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาติดตั้งดิฟเฟอร์เรนเชียลตรงกลางควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิคส์กระจายแรงบิดระหว่างหน้า-หลังเท่ากับ 50:50 ให้การควบคุมการขับขี่ที่มีเสถียรภาพสูงและการยึดเกาะถนนที่ดีกว่าขณะขับขี่บนเส้นทางลื่น

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!