LOTUS EVORA S-สปอร์ตโรดสเตอร์สมรรถนะสูงตระกูล S ผลิตจำนวน 2,000 คัน


By : Saksithi Chompaisal – Foreign Editor

สปอร์ตโรดสเตอร์เปี่ยมสมรรถนะของโลตัสวางเครื่อง V-6 สูบ รุ่น Evora S หลังจากก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวสปอร์ตสายพันธ์ Evora พลังงานไฮบริด พัฒนาเน้นความร้อนแรง เครื่องยนต์พัฒนาขึ้นใหม่และระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต

Lotus Evora S สปอร์ตโรดสเตอร์ออกแบบรูปทรงภายนอกปราดเปรียว ขนาดกะทัดรัด ภายในห้องโดยสารหรูหรา วางรูปแบบเน้นเพื่อผลทางด้านการกระจายน้ำหนักระหว่างด้านหน้าและด้านหลัง ให้เสถียรภาพการควบคุมการขับขี่ที่ดีกว่า เครื่องยนต์กลางลำ ขับเคลื่อนล้อหลัง

เครื่องยนต์ ขนาด 3.5 ลิตร แบบ วี-6 สูบ 345 แรงม้าที่ 7,000 รอบต่อนาทีและให้แรงบิดสูงสุด 295 ปอนด์-ฟุตที่ 4,500 รอบต่อนาที เฉลี่ยให้แรงม้าต่อลิตร 98.6 แรงม้าต่อลิตร และเฉลี่ยให้กำลังต่อน้ำหนัก 9.2 ปอนด์ต่อแรงม้า โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสำหรับการขับขี่ในเมือง 14.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร นอกเมือง 7.4 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ปล่อยคาร์บอนมอน็อกไซด์เฉลี่ย 235 กรัมต่อกิโลเมตร

สมรรถนะการทำความเร็วสูงสุดทำได้ที่ 172 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือ 276.748 257.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เกียร์ธรรมดา 6 สปีด มีเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดให้เลือก

ระบบพวงมาลัยเป็นแบบฟันเฟืองและตัวหนอน มีเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรงควบคุมด้วยไฮดรอลิค และระบบเบรกเป็นแบบดิสก์มีร่องระบายความร้อนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ระบบกันสะเทือนเป็นแบบปีกนกคู่อะลูมิเนียม โช๊คอัพแก๊สของ Bilstein และสปริงขดของ Eibach

รูปลักษณ์ภายนอกออกแบบโค้งมนต่อเนื่องตั้งแต่ด้านหน้าจดด้านท้าย กรอบไฟหน้ารูปทรงเรียวยาวเข้ากับฝากระโปรงหน้ามีช่องระบายอากาศ ฝากระโปรงท้ายออกแบบเป็นสปอยเลอร์ท้ายในตัว ติดสัญญานไฟเบรกดวงที่สาม ปลายท่อไอเสียรูปทางเหลี่ยมติดตั้งบริเวณตรงกลาง ติดตั้งแผงจัดระเบียบอากาศใต้พื้นรถด้านท้าย กระทะล้อลวดลายหลายก้านขนาด 19 นิ้ว มีน้ำหนักรถเปล่า 3,168 ปอนด์

By : Saksithi Chompaisal - Foreign Editor

สปอร์ตโรดสเตอร์เปี่ยมสมรรถนะของโลตัสวางเครื่อง V-6 สูบ รุ่น Evora S หลังจากก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวสปอร์ตสายพันธ์ Evora พลังงานไฮบริด พัฒนาเน้นความร้อนแรง เครื่องยนต์พัฒนาขึ้นใหม่และระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต

Lotus Evora S สปอร์ตโรดสเตอร์ออกแบบรูปทรงภายนอกปราดเปรียว ขนาดกะทัดรัด ภายในห้องโดยสารหรูหรา วางรูปแบบเน้นเพื่อผลทางด้านการกระจายน้ำหนักระหว่างด้านหน้าและด้านหลัง ให้เสถียรภาพการควบคุมการขับขี่ที่ดีกว่า เครื่องยนต์กลางลำ ขับเคลื่อนล้อหลัง

เครื่องยนต์ ขนาด 3.5 ลิตร แบบ วี-6 สูบ 345 แรงม้าที่ 7,000 รอบต่อนาทีและให้แรงบิดสูงสุด 295 ปอนด์-ฟุตที่ 4,500 รอบต่อนาที เฉลี่ยให้แรงม้าต่อลิตร 98.6 แรงม้าต่อลิตร และเฉลี่ยให้กำลังต่อน้ำหนัก 9.2 ปอนด์ต่อแรงม้า โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสำหรับการขับขี่ในเมือง 14.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร นอกเมือง 7.4 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ปล่อยคาร์บอนมอน็อกไซด์เฉลี่ย 235 กรัมต่อกิโลเมตร

สมรรถนะการทำความเร็วสูงสุดทำได้ที่ 172 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือ 276.748 257.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เกียร์ธรรมดา 6 สปีด มีเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดให้เลือก

ระบบพวงมาลัยเป็นแบบฟันเฟืองและตัวหนอน มีเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรงควบคุมด้วยไฮดรอลิค และระบบเบรกเป็นแบบดิสก์มีร่องระบายความร้อนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ระบบกันสะเทือนเป็นแบบปีกนกคู่อะลูมิเนียม โช๊คอัพแก๊สของ Bilstein และสปริงขดของ Eibach

รูปลักษณ์ภายนอกออกแบบโค้งมนต่อเนื่องตั้งแต่ด้านหน้าจดด้านท้าย กรอบไฟหน้ารูปทรงเรียวยาวเข้ากับฝากระโปรงหน้ามีช่องระบายอากาศ ฝากระโปรงท้ายออกแบบเป็นสปอยเลอร์ท้ายในตัว ติดสัญญานไฟเบรกดวงที่สาม ปลายท่อไอเสียรูปทางเหลี่ยมติดตั้งบริเวณตรงกลาง ติดตั้งแผงจัดระเบียบอากาศใต้พื้นรถด้านท้าย กระทะล้อลวดลายหลายก้านขนาด 19 นิ้ว มีน้ำหนักรถเปล่า 3,168 ปอนด์

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!