MASERATI DRIVE & SAIL EXPERIENCE สัมผัสยนตรกรรมพันธุ์แรง พร้อมล่องเรือ Trimaran ผู้ท้าทายสถิติฮ่องกง-ลอนดอน แบบนอน-สต็อป


มาเซราติ จัดอีเวนท์สุดพิเศษ ‘Drive & Sail Experience’ สะท้อนความเชื่อมโยงกับมหาสมุทร ผสมผสานหลายการเดินทาง ทั้งการทดสอบรถยนต์พันธุ์แรงอย่างรุ่น เลอวานเต้ เอส และควอตโตรปอร์เต้ จีทีเอส บนเส้นทางอันงดงามเลียบชายฝั่งฮ่องกง พร้อมเพลิดเพลินกับการล่องเรือไตรมารานตัวแข่งของมาเซราติ ก่อนจะถึงภาระกิจบันทึกสถิติโลกต้นปีหน้า กับการเดินทางจากฮ่องกงสู่ลอนดอน

มาเซราติเป็นแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี และพิเศษยิ่งกว่า ด้วยการเริ่มต้นจากรถแข่ง แล้วจึงพัฒนาเป็นรถสำหรับขับบนถนน ต่างจากหลายแบรนด์ที่เริ่มผลิตรถทั่วไปก่อน แล้วจึงพัฒนาเป็นรถแข่ง ส่งผลให้รถยนต์มาเซราติ มีดีเอ็นเอของรถแข่งแทรกอยู่ทุกอณู และการที่ Mario Maserati นำสัญลักษณ์ตรีศูลของเนปจูน เทพแห่งท้องทะเล มาใช้เป็นโลโก้ ก็ได้กลายเป็นจุดกำเนิดของความสัมพันธ์กับมหาสมุทร รวมถึงสีน้ำเงินของมาเซราติก็ได้รับความนิยมสูงสุด

นับเป็นโอกาสดีที่ได้สัมผัสกับมาเซราติ 3 รุ่น ที่มาพร้อมสไตล์อันแตกต่าง คือ กิบลี่ (Ghibli) 350 แรงม้า ที่มีความโดดเด่น, เลอวานเต้ เอส (Levante S) 430 แรงม้า เอสยูวีพลังแรง และควอตโตรปอร์เต้ จีทีเอส (Quattroporte GTS) 530 แรงม้า ที่สุดแห่งซีดานพันธุ์หรู พร้อมสมรรถนะอันจัดจ้าน

ถนนเลียบชายฝั่งฮ่องกง เป็นเส้นทางคดเคี้ยวผสานทิวทัศน์อันงดงาม ซึ่งทั้ง เลอวานเต้ เอส และควอตโตรปอร์เต้ จีทีเอส ก็ทะยานไปข้างหน้าอย่างฉับไว ทันทีที่กดคันเร่ง เสียงเครื่องยนต์อันเป็นเอกลักษณ์ แผดสนั่นกึกก้องไปทั่วบริเวณ ขณะที่ช่วงล่างสไตล์สปอร์ต โอบกอดถนนไว้อย่างเหนียวแน่น แต่ยังมีความยืดหยุ่นเหมาะสม ช่วยให้ผู้โดยสารนั่งสบาย และควบคุมรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เรือไตรมาราน Maserati Multi70 ที่มี Giovanni Soldini ผู้บังคับการเรือชื่อดังชาวอิตาเลียนคอยควบคุม กับภาระกิจปฏิวัติการแข่งเรือในทะเล ผ่านสุนทรียะและความสมบูรณ์แบบของการแล่นเรือไตรมารานในมหาสมุทร

ก่อนที่เขาและทีมงานจะเริ่มพยายามทำลายสถิติจากฮ่องกงสู่ลอนดอน สถิติปัจจุบันคือ 41 วัน 21 ชั่วโมง 26 นาที 34 วินาที บันทึกไว้ช่วงปี 2008 โดย Lionel Lemonchois ชาวฝรั่งเศสและ 8 ลูกเรือ บนเรือคาทามาราน 100 ฟุต ‘Gitana 13’ ซึ่ง Giovanni จะเริ่มเดินทางเพื่อพยายามทำลายสถิติช่วงเดือนมกราคม 2018 บนเรือไตรมาราน Maserati Multi70 พร้อม 4 ลูกเรือยอดฝีมือ คือ S?bastien Audigane (ฝรั่งเศส), Guido Broggi (อิตาลี), Oliver Herrera (สเปน) และ Alex Pella (สเปน)

กิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ‘Drive & Sail Experience’ ทำให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสกับความเร็วและพละกำลังของ Maserati ทั้งบนถนนและในมหาสมุทร เปรียบเสมือนส่วนผสมที่ลงตัว ระหว่างการผจญภัยสุดท้าทายและการบันทึกประวัติศาสตร์ ซึ่งทางมาเซราติได้รวบรวมหลายคุณสมบัติเด่นของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นความหลงใหล, ความเร็ว, ความกล้า และการแชร์ประสบการณ์ มานำเสนอผ่านกิจกรรมสุดพิเศษครั้งนี้

มาเซราติ จัดอีเวนท์สุดพิเศษ ‘Drive & Sail Experience’ สะท้อนความเชื่อมโยงกับมหาสมุทร ผสมผสานหลายการเดินทาง ทั้งการทดสอบรถยนต์พันธุ์แรงอย่างรุ่น เลอวานเต้ เอส และควอตโตรปอร์เต้ จีทีเอส บนเส้นทางอันงดงามเลียบชายฝั่งฮ่องกง พร้อมเพลิดเพลินกับการล่องเรือไตรมารานตัวแข่งของมาเซราติ ก่อนจะถึงภาระกิจบันทึกสถิติโลกต้นปีหน้า กับการเดินทางจากฮ่องกงสู่ลอนดอน

มาเซราติเป็นแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี และพิเศษยิ่งกว่า ด้วยการเริ่มต้นจากรถแข่ง แล้วจึงพัฒนาเป็นรถสำหรับขับบนถนน ต่างจากหลายแบรนด์ที่เริ่มผลิตรถทั่วไปก่อน แล้วจึงพัฒนาเป็นรถแข่ง ส่งผลให้รถยนต์มาเซราติ มีดีเอ็นเอของรถแข่งแทรกอยู่ทุกอณู และการที่ Mario Maserati นำสัญลักษณ์ตรีศูลของเนปจูน เทพแห่งท้องทะเล มาใช้เป็นโลโก้ ก็ได้กลายเป็นจุดกำเนิดของความสัมพันธ์กับมหาสมุทร รวมถึงสีน้ำเงินของมาเซราติก็ได้รับความนิยมสูงสุด

นับเป็นโอกาสดีที่ได้สัมผัสกับมาเซราติ 3 รุ่น ที่มาพร้อมสไตล์อันแตกต่าง คือ กิบลี่ (Ghibli) 350 แรงม้า ที่มีความโดดเด่น, เลอวานเต้ เอส (Levante S) 430 แรงม้า เอสยูวีพลังแรง และควอตโตรปอร์เต้ จีทีเอส (Quattroporte GTS) 530 แรงม้า ที่สุดแห่งซีดานพันธุ์หรู พร้อมสมรรถนะอันจัดจ้าน

ถนนเลียบชายฝั่งฮ่องกง เป็นเส้นทางคดเคี้ยวผสานทิวทัศน์อันงดงาม ซึ่งทั้ง เลอวานเต้ เอส และควอตโตรปอร์เต้ จีทีเอส ก็ทะยานไปข้างหน้าอย่างฉับไว ทันทีที่กดคันเร่ง เสียงเครื่องยนต์อันเป็นเอกลักษณ์ แผดสนั่นกึกก้องไปทั่วบริเวณ ขณะที่ช่วงล่างสไตล์สปอร์ต โอบกอดถนนไว้อย่างเหนียวแน่น แต่ยังมีความยืดหยุ่นเหมาะสม ช่วยให้ผู้โดยสารนั่งสบาย และควบคุมรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เรือไตรมาราน Maserati Multi70 ที่มี Giovanni Soldini ผู้บังคับการเรือชื่อดังชาวอิตาเลียนคอยควบคุม กับภาระกิจปฏิวัติการแข่งเรือในทะเล ผ่านสุนทรียะและความสมบูรณ์แบบของการแล่นเรือไตรมารานในมหาสมุทร

ก่อนที่เขาและทีมงานจะเริ่มพยายามทำลายสถิติจากฮ่องกงสู่ลอนดอน สถิติปัจจุบันคือ 41 วัน 21 ชั่วโมง 26 นาที 34 วินาที บันทึกไว้ช่วงปี 2008 โดย Lionel Lemonchois ชาวฝรั่งเศสและ 8 ลูกเรือ บนเรือคาทามาราน 100 ฟุต ‘Gitana 13’ ซึ่ง Giovanni จะเริ่มเดินทางเพื่อพยายามทำลายสถิติช่วงเดือนมกราคม 2018 บนเรือไตรมาราน Maserati Multi70 พร้อม 4 ลูกเรือยอดฝีมือ คือ S?bastien Audigane (ฝรั่งเศส), Guido Broggi (อิตาลี), Oliver Herrera (สเปน) และ Alex Pella (สเปน)

กิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ‘Drive & Sail Experience’ ทำให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสกับความเร็วและพละกำลังของ Maserati ทั้งบนถนนและในมหาสมุทร เปรียบเสมือนส่วนผสมที่ลงตัว ระหว่างการผจญภัยสุดท้าทายและการบันทึกประวัติศาสตร์ ซึ่งทางมาเซราติได้รวบรวมหลายคุณสมบัติเด่นของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นความหลงใหล, ความเร็ว, ความกล้า และการแชร์ประสบการณ์ มานำเสนอผ่านกิจกรรมสุดพิเศษครั้งนี้

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!