MERCEDES-BENZ E-CLASS-ซีดานสุดหรูล้นเทคโนโลยี่นวัตกรรมยานยนต์ล้ำอนาคต


By : C. Methas – Executive Editor

สปอร์ตซีดานของเมอเซเดส-เบนซ์สายพันธ์ อี-คลาส เสริมเทคโนโลยี่นวัตกรรมยานยนต์ไว้เต็มเปี่ยมทั้งในส่วนของความปลอดภัยและระบบสื่อสารข้อมูลล้ำสมัย ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาและมีเวอร์ชั่นพลังงานไฮบริดให้เลือก

สำหรับตลาดยุโรปรุ่น E200 วางเครื่องยนต์พัฒนาขึ้นใหม่เน้นประหยัดเชื้อเพลิงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แบบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 184 แรงม้าและให้แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร

รุ่น E220d เครื่องยนต์แบบ 4 สูบแถวเรียงดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร ขับแรงม้าสูงสุด 195 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร

รุ่น E350d วางเครื่องยนต์ 6 สูบดีเซล 258 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตร

และรุ่น E400 4MATIC วางเครื่องยนต์เบนซิน แบบ 6 สูบ 333 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร เครื่องยนต์วางด้านหน้า ระบบขับเคลื่อนล้อหลังโดยมีรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาให้เลือก เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะพัฒนาใหม่มีระบบชิฟท์เกียร์

ส่วนเวอร์ชั่นพลังงานไฮบริด รหัส E350e แบบ Plug-in Hybrid วางเครื่องยนต์แบบ 4 สูบแถวเรียง ปฏิบัติการร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ขับแรงม้ารวม 279 แรงม้าและให้แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร สามารถขับขี่ได้ระยะทางประมาณ 18.6 ไมล์หรือ 30 กิโลเมตรกรณีขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว

สำหรับตลาดในอเมริกาเหนือ วางเครื่องยนต์ แบบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตรติดเทอร์โบชาร์จ ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิคส์ สามารถขับแรงม้าสูงสุด 241 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 273 ปอนด์-ฟุต ส่วนรุ่นท็อปสุด เครื่องยนต์ แบบ วี-8 สูบ ขนาด 5.5 ลิตร ขับแรงม้าได้ 402 แรงม้า เครื่องยนต์ติดระบบสตาร์ท/สต็อป

ระบบกันสะเทือนด้านหน้า 3 ลิ้งค์ สปริงขด โช๊คอัพแก๊ส Antidive Control และเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบมัลติ-ลิ้งค์ Airmatic, Antisquat Control และเหล็กกันโคลง ติดตั้งระบบ Agility Control ให้ความนุ่มนวลมีโหมดสปอร์ตให้เลือก ความสูงพื้นรถต่ำกว่า 15 มิลลิเมตร สปริงขด โช๊คอัพแก๊สและเหล็กกันโคลงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

ระบบพวงมาลัยแบบฟันเฟืองและตัวหนอน มีเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรงแบบแปรผันตามความเร็ว รัศมีวงเลี้ยงแคบสุด 37.1 ฟุต

ระบบกันสะเทือนปรับมีโหมดให้เลือก 2 แบบ Comfort และ Sport เป็นแบบ Air Suspension นอกจากนี้ได้ติดตั้งระบบ AIR BODY CONTROL ปรับอัตโนมัติตามสภาพพื้นผิวถนนโดยมีโหมดให้เลือก 4 โหมดประกอบด้วย Comfort, ECO, Sport และ Sport+
ระบบเบรกติดตั้งระบบ Active Brake Assist เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนเทคโนโลยี่ขับขี่อัตโนมัติ Drive Pilot สามารถขับขี่บนมอเตอร์เวย์หรือเส้นทางในชนบทสามารถทำความเร็วถึง 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

รูปลักษณ์ภายนอกออกแบบใหม่ปราดเปรียวกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ กรอบไฟหน้ารูปทรงเหลี่ยมเรียว มีไฟแบบ LED โดยมีไฟแบบ Multibeam LED ให้เลือก ปลายท่อไอเสียรูปทรงโค้งเว้าแยกซ้าย-ขวา

ห้องโดยสารเน้นความหรูหรา คอนโซลกลางติดตั้งจอมอนิเตอร์แบบมัลติฟังก์ชั่นปรับพับเก็บได้ ขนาด 21.3 นิ้ว ระบบ Infotainment สั่งการแบบสัมผัสและสามารถสั่งการด้วยเสียง

แสงสีภายในห้องโดยสารแบบ LED เทคโนโลยี่สามารถปรับเปลี่ยนสีสันได้ 64 สีสัน ระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูงของ Burmester มีให้เลือก 2 เวอร์ชั่น รุ่นท็อประบบเสียง 3 มิติพร้อมลำโพงจำนวน 23 ตัว นอกจากนี้ได้ติดจอมอนิเตอร์ ขนาด 12.3 นิ้วจำนวน 2 ตัวผู้ขับขี่สามารถเลือกรูปแบบจอได้ 3 แบบ ประกอบด้วย Classic, Sport และ Progressive

เมอเซเดส-เบนซ์ได้นำระบบรีโมทจอดรถอัตโนมัติมาติดตั้งเป็นครั้งแรก สามารถเข้าจอดและออกจากที่จอดรถแบบอัตโนมัติด้วยการสั่งการจากสมาร์ทโฟน แอฟฯ ซึ่งทุกรุ่นติดตั้งระบบ ECO Start/Stop เครื่องยนต์ผ่านมาตรฐานไอเสียระดับยูโร 6

I

By : C. Methas - Executive Editor

สปอร์ตซีดานของเมอเซเดส-เบนซ์สายพันธ์ อี-คลาส เสริมเทคโนโลยี่นวัตกรรมยานยนต์ไว้เต็มเปี่ยมทั้งในส่วนของความปลอดภัยและระบบสื่อสารข้อมูลล้ำสมัย ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาและมีเวอร์ชั่นพลังงานไฮบริดให้เลือก

สำหรับตลาดยุโรปรุ่น E200 วางเครื่องยนต์พัฒนาขึ้นใหม่เน้นประหยัดเชื้อเพลิงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แบบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 184 แรงม้าและให้แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร

รุ่น E220d เครื่องยนต์แบบ 4 สูบแถวเรียงดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร ขับแรงม้าสูงสุด 195 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร

รุ่น E350d วางเครื่องยนต์ 6 สูบดีเซล 258 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตร

และรุ่น E400 4MATIC วางเครื่องยนต์เบนซิน แบบ 6 สูบ 333 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร เครื่องยนต์วางด้านหน้า ระบบขับเคลื่อนล้อหลังโดยมีรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาให้เลือก เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะพัฒนาใหม่มีระบบชิฟท์เกียร์

ส่วนเวอร์ชั่นพลังงานไฮบริด รหัส E350e แบบ Plug-in Hybrid วางเครื่องยนต์แบบ 4 สูบแถวเรียง ปฏิบัติการร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ขับแรงม้ารวม 279 แรงม้าและให้แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร สามารถขับขี่ได้ระยะทางประมาณ 18.6 ไมล์หรือ 30 กิโลเมตรกรณีขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว

สำหรับตลาดในอเมริกาเหนือ วางเครื่องยนต์ แบบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตรติดเทอร์โบชาร์จ ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิคส์ สามารถขับแรงม้าสูงสุด 241 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 273 ปอนด์-ฟุต ส่วนรุ่นท็อปสุด เครื่องยนต์ แบบ วี-8 สูบ ขนาด 5.5 ลิตร ขับแรงม้าได้ 402 แรงม้า เครื่องยนต์ติดระบบสตาร์ท/สต็อป

ระบบกันสะเทือนด้านหน้า 3 ลิ้งค์ สปริงขด โช๊คอัพแก๊ส Antidive Control และเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบมัลติ-ลิ้งค์ Airmatic, Antisquat Control และเหล็กกันโคลง ติดตั้งระบบ Agility Control ให้ความนุ่มนวลมีโหมดสปอร์ตให้เลือก ความสูงพื้นรถต่ำกว่า 15 มิลลิเมตร สปริงขด โช๊คอัพแก๊สและเหล็กกันโคลงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

ระบบพวงมาลัยแบบฟันเฟืองและตัวหนอน มีเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรงแบบแปรผันตามความเร็ว รัศมีวงเลี้ยงแคบสุด 37.1 ฟุต

ระบบกันสะเทือนปรับมีโหมดให้เลือก 2 แบบ Comfort และ Sport เป็นแบบ Air Suspension นอกจากนี้ได้ติดตั้งระบบ AIR BODY CONTROL ปรับอัตโนมัติตามสภาพพื้นผิวถนนโดยมีโหมดให้เลือก 4 โหมดประกอบด้วย Comfort, ECO, Sport และ Sport+ ระบบเบรกติดตั้งระบบ Active Brake Assist เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนเทคโนโลยี่ขับขี่อัตโนมัติ Drive Pilot สามารถขับขี่บนมอเตอร์เวย์หรือเส้นทางในชนบทสามารถทำความเร็วถึง 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

รูปลักษณ์ภายนอกออกแบบใหม่ปราดเปรียวกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ กรอบไฟหน้ารูปทรงเหลี่ยมเรียว มีไฟแบบ LED โดยมีไฟแบบ Multibeam LED ให้เลือก ปลายท่อไอเสียรูปทรงโค้งเว้าแยกซ้าย-ขวา

ห้องโดยสารเน้นความหรูหรา คอนโซลกลางติดตั้งจอมอนิเตอร์แบบมัลติฟังก์ชั่นปรับพับเก็บได้ ขนาด 21.3 นิ้ว ระบบ Infotainment สั่งการแบบสัมผัสและสามารถสั่งการด้วยเสียง

แสงสีภายในห้องโดยสารแบบ LED เทคโนโลยี่สามารถปรับเปลี่ยนสีสันได้ 64 สีสัน ระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูงของ Burmester มีให้เลือก 2 เวอร์ชั่น รุ่นท็อประบบเสียง 3 มิติพร้อมลำโพงจำนวน 23 ตัว นอกจากนี้ได้ติดจอมอนิเตอร์ ขนาด 12.3 นิ้วจำนวน 2 ตัวผู้ขับขี่สามารถเลือกรูปแบบจอได้ 3 แบบ ประกอบด้วย Classic, Sport และ Progressive

เมอเซเดส-เบนซ์ได้นำระบบรีโมทจอดรถอัตโนมัติมาติดตั้งเป็นครั้งแรก สามารถเข้าจอดและออกจากที่จอดรถแบบอัตโนมัติด้วยการสั่งการจากสมาร์ทโฟน แอฟฯ ซึ่งทุกรุ่นติดตั้งระบบ ECO Start/Stop เครื่องยนต์ผ่านมาตรฐานไอเสียระดับยูโร 6

[caption id="attachment_18653" align="alignnone" width="1600"] I[/caption]

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!