MERCEDES-BENZ S-CLASS-สปอร์ตซีดานระดับหรูเต็มเปี่ยมนวัตกรรมยานยนต์มีเครื่องให้เลือกหลากหลายขนาด


By : Preecha Bowornsatidya – Article Editor

สปอร์ตซีดานระดับหรูหราสูงสุดของสายพันธ์ เอส.-คลาสเปิดตัวที่ศูนย์ส่งมอบเครื่องบิน Airbus A380 ในเมืองฮัมบูร์ก เยอรมนีเป็นรุ่นปี 2014 อีกหนึ่งตำนานจากค่ายดาวสามแฉกโดยรูปลักษณ์ภายนอกออกแบบใหม่ทั้งหมดเน้นด้านหลักอากาศพลศาสตร์เป็นพิเศษซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศเท่ากับ 0.24 ค่าใกล้เคียงกับสปอร์ตคูเป้รุ่น CLA ที่มีตัวเลข 0.23 และมีให้เลือก 2 เวอร์ชั่นด้วยกัน รุ่นพื้นฐานและรุ่นฐานล้อยาวพิเศษ

วางโครงสร้างตั้งแต่พื้นฐานทั้งในส่วนของโครงสร้างแชสซีส์, เครื่องยนต์, ระบบกันสะเทือน,ตัวถังและระบบเบรก โดยเน้นในเรื่องการลดน้ำหนักเป็นพิเศษและภายในห้องโดยสารออกแบบเน้นความหรูหราพร้อมกับเสริมเทคโนโลยี่ระบบสื่อสารข้อมูลไว้เต็มเปี่ยมโดยมีจอมอนิเตอร์ความละเอียดสูง ขนาด 12.3 นิ้วจำนวน 2 จอ ส่วนระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูงพร้อมลำโพงจำนวน 10 ตัวพร้อมกับระบบ Burmester Surround Sound

แผงสปอยเลอร์หน้ามีช่องดักอากาศ กรอบไฟหน้ารูปทรงเรียวยาว สปอยเลอร์หน้ามีช่องดักอากาศ ติดตั้งไฟแบบ LED

ฝากระโปรงท้ายออกแบบเป็นสปอยเลอร์ท้ายในตัว กระทะล้อลวดลาย 5 ก้านคู่ผลิตจากอะลูมิเนียม กระทะล้อ ขนาด 20 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารออกแบบหรูหราตกแต่งรอบคันด้วยหนังแท้คุณภาพสูงเสริมด้วยลวดลายไม้ พวงมาลัยแบบ 3 ก้านติดตั้งชุดควบคุมการปรับเปลี่ยนเกียร์ เบาะที่นั่งด้านท้ายมีระบบนวดแบ่งออกเป็น 6 ฟังก์ชั่นโดยมีชุดตกแต่งพิเศษให้เลือก ประกอบด้วยระบบทำความอุ่นและความเย็นสำหรับแก้วเครื่องดื่ม พวงมาลัยมีระบบทำความอุ่น เบาะที่นั่งมีระบบทำความอุ่นและระบบไหลเวียนอากาศ

เครื่องยนต์มีให้เลือก 4 ขนาด รุ่นพื้นฐาน ขนาด 3.0 ลิตร แบบ วี-6 สูบดีเซล BlueTEC ส่วนเครื่องเบนซิน เครื่องขนาด 4.7 ลิตรและขนาด 5.5 ลิตร ส่วนรุ่นพลังงานไฮบริด รหัส S300 BlueTEC Hybrid วางเครื่องยนต์ ขนาด 2.1 ลิตร แบบ 4 สูบแถวเรียงและมีรุ่นไฮบริด S400 Hybrid วางเครื่องยนต์ แบบ วี-6 สูบ ขนาด 3.5 ลิตร รีดแรงม้าได้ 306 แรงม้า
เครื่องยนต์แบบ วี-8 สูบ เทอร์โบชาร์จคู่ ร ทำมุม 90 องศา ขนาด 5.5 ลิตร อัตราส่วนกำลังอัดเท่ากับ 10.5:1 สามารถขับแรงม้าสูงสุด 449 แรงม้าที่ 5,250 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 516 ปอนด์-ฟุตที่ 1,800-3,500 รอบต่อนาที เฉลี่ยให้แรงม้าต่อลิตร 96 แรงม้าต่อลิตร
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 10.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรหรือ 22.4 ไมล์ต่อแกลลอน และปล่อยคาร์บอนมอน็อกไซด์เฉลี่ย 246 กรัมต่อกิโลเมตร สามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้มากกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ 25 เปอร์เซ็นต์

รุ่นวางเครื่องยนต์ ขนาด 5.5 ลิตรมีสมรรถนะ จาก 0-100 กิโลเมตรชั่วโมงได้ภายในเวลา 4.8 วินาที และความเร็วสูงสุดจำกัดด้วยอิเล็กทรอนิคส์ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือ 155 ไมล์ต่อชั่วโมง เครื่องยนต์ด้านหน้า ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ระบบชิฟท์เกียร์ 7G-Tronic Plus 7MCT 7

ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบ 4-ลิ้งค์ Air Spring โช๊คอัพและเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบมัลติ-ลิ้งค์ Air Spring โช๊คอัพและเหล็กกันโคลงมีระบบสแกนสภาพพื้นผิวถนนโดยผ่านกล้อง

ด้านความปลอดภัยได้ติดตั้งเทคโนโลยี่ล่าสุดประกอบด้วย ระบบเสริมแรงเบรก, ระบบสัญญาณเตือนเมื่อรถเปลี่ยนช่องทางแบบแอ็คทีฟ, ระบบไฟสูงปรับอัตโนมัติ, Night View Assist Plus

By : Preecha Bowornsatidya - Article Editor

สปอร์ตซีดานระดับหรูหราสูงสุดของสายพันธ์ เอส.-คลาสเปิดตัวที่ศูนย์ส่งมอบเครื่องบิน Airbus A380 ในเมืองฮัมบูร์ก เยอรมนีเป็นรุ่นปี 2014 อีกหนึ่งตำนานจากค่ายดาวสามแฉกโดยรูปลักษณ์ภายนอกออกแบบใหม่ทั้งหมดเน้นด้านหลักอากาศพลศาสตร์เป็นพิเศษซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศเท่ากับ 0.24 ค่าใกล้เคียงกับสปอร์ตคูเป้รุ่น CLA ที่มีตัวเลข 0.23 และมีให้เลือก 2 เวอร์ชั่นด้วยกัน รุ่นพื้นฐานและรุ่นฐานล้อยาวพิเศษ

วางโครงสร้างตั้งแต่พื้นฐานทั้งในส่วนของโครงสร้างแชสซีส์, เครื่องยนต์, ระบบกันสะเทือน,ตัวถังและระบบเบรก โดยเน้นในเรื่องการลดน้ำหนักเป็นพิเศษและภายในห้องโดยสารออกแบบเน้นความหรูหราพร้อมกับเสริมเทคโนโลยี่ระบบสื่อสารข้อมูลไว้เต็มเปี่ยมโดยมีจอมอนิเตอร์ความละเอียดสูง ขนาด 12.3 นิ้วจำนวน 2 จอ ส่วนระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูงพร้อมลำโพงจำนวน 10 ตัวพร้อมกับระบบ Burmester Surround Sound

แผงสปอยเลอร์หน้ามีช่องดักอากาศ กรอบไฟหน้ารูปทรงเรียวยาว สปอยเลอร์หน้ามีช่องดักอากาศ ติดตั้งไฟแบบ LED

ฝากระโปรงท้ายออกแบบเป็นสปอยเลอร์ท้ายในตัว กระทะล้อลวดลาย 5 ก้านคู่ผลิตจากอะลูมิเนียม กระทะล้อ ขนาด 20 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารออกแบบหรูหราตกแต่งรอบคันด้วยหนังแท้คุณภาพสูงเสริมด้วยลวดลายไม้ พวงมาลัยแบบ 3 ก้านติดตั้งชุดควบคุมการปรับเปลี่ยนเกียร์ เบาะที่นั่งด้านท้ายมีระบบนวดแบ่งออกเป็น 6 ฟังก์ชั่นโดยมีชุดตกแต่งพิเศษให้เลือก ประกอบด้วยระบบทำความอุ่นและความเย็นสำหรับแก้วเครื่องดื่ม พวงมาลัยมีระบบทำความอุ่น เบาะที่นั่งมีระบบทำความอุ่นและระบบไหลเวียนอากาศ

เครื่องยนต์มีให้เลือก 4 ขนาด รุ่นพื้นฐาน ขนาด 3.0 ลิตร แบบ วี-6 สูบดีเซล BlueTEC ส่วนเครื่องเบนซิน เครื่องขนาด 4.7 ลิตรและขนาด 5.5 ลิตร ส่วนรุ่นพลังงานไฮบริด รหัส S300 BlueTEC Hybrid วางเครื่องยนต์ ขนาด 2.1 ลิตร แบบ 4 สูบแถวเรียงและมีรุ่นไฮบริด S400 Hybrid วางเครื่องยนต์ แบบ วี-6 สูบ ขนาด 3.5 ลิตร รีดแรงม้าได้ 306 แรงม้า เครื่องยนต์แบบ วี-8 สูบ เทอร์โบชาร์จคู่ ร ทำมุม 90 องศา ขนาด 5.5 ลิตร อัตราส่วนกำลังอัดเท่ากับ 10.5:1 สามารถขับแรงม้าสูงสุด 449 แรงม้าที่ 5,250 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 516 ปอนด์-ฟุตที่ 1,800-3,500 รอบต่อนาที เฉลี่ยให้แรงม้าต่อลิตร 96 แรงม้าต่อลิตร อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 10.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรหรือ 22.4 ไมล์ต่อแกลลอน และปล่อยคาร์บอนมอน็อกไซด์เฉลี่ย 246 กรัมต่อกิโลเมตร สามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้มากกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ 25 เปอร์เซ็นต์

รุ่นวางเครื่องยนต์ ขนาด 5.5 ลิตรมีสมรรถนะ จาก 0-100 กิโลเมตรชั่วโมงได้ภายในเวลา 4.8 วินาที และความเร็วสูงสุดจำกัดด้วยอิเล็กทรอนิคส์ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือ 155 ไมล์ต่อชั่วโมง เครื่องยนต์ด้านหน้า ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ระบบชิฟท์เกียร์ 7G-Tronic Plus 7MCT 7

ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบ 4-ลิ้งค์ Air Spring โช๊คอัพและเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบมัลติ-ลิ้งค์ Air Spring โช๊คอัพและเหล็กกันโคลงมีระบบสแกนสภาพพื้นผิวถนนโดยผ่านกล้อง

ด้านความปลอดภัยได้ติดตั้งเทคโนโลยี่ล่าสุดประกอบด้วย ระบบเสริมแรงเบรก, ระบบสัญญาณเตือนเมื่อรถเปลี่ยนช่องทางแบบแอ็คทีฟ, ระบบไฟสูงปรับอัตโนมัติ, Night View Assist Plus

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!