จารึกตำนานรถแข่งสูตร 1 : ประวัติศึกฟอร์มูล่า-วันยุคใหม่ช่วงแรกปีที่ 2 ค.ศ. 1952 (ตอนที่ 2) – Alfa Romeo คว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้สองสมัยซ้อนโดย Juan Manuel Fangio


By : C. Methas – Managing Edition

1racing_flag

Alfa Romeo คว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้สองสมัยซ้อนโดย Juan Manuel Fangio

alberto-ascari3

ศึกฟอร์มูล่า-วันยุคใหม่ได้เริ่มทำการแข่งขันเป็นครั้งแรกในปีค.ศ. 1950 จัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการโดยสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติหรือ FIA ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Federation Internationale de l’Automobile ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ปีค.ศ. 1904 ใช้ชื่อว่า The Association Internationale des Automobile Clubs Reconnus(AIACR) มีสำนักงานใหญ่อยู่เลขที่ 8, Place de la Concorde, Paris ปัจจุบัน Jean Todt เป็นประธาน 2 สมัยซ้อนซึ่งเป็นอดีตผู้อำนวยการทีมเฟอร์รารี่

ในปีแรกของการแข่งขันฟอร์มูล่า-วันยุคใหม่ Giuseppe Nino Farina เป็นนักขับที่คว้าแชมป์ไปครองในสังกัดทีม Alfa Romeo เขาเป็นนักแข่งชาวอิตาลีลงแข่งขันช่วงระหว่างปีค.ศ. 1950-1955 สังกัดทีม Alfa Romeo และ Ferrari ลงแข่งขันทั้งหมดรวม 34 สนามแต่ออกสตาร์ท 33 สนาม สามารถคว้าแชมป์ได้ทั้งหมด 5 สนามและคว้าแชมป์โลกได้ 1 ครั้งโดยเป็นนักแข่งคนแรกของโลกที่คว้าแชมป์โลกฟอร์มูล่า-วัน

ทีม Alfa Romeo คว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้สองสมัยซ้อน Juan Manuel Fangio ลงแข่งขันในสังกัดทีม Alfa Romeo ด้วยรถแข่งรุ่น Type 159 เริ่มทำการแข่งขันสนามแรกที่ศึกสวิสเซอร์แลนด์ กรังด์ปรีซ์ในวันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม ปีค.ศ. 1951 และสนามปิดฉากฤดูกาลที่ศึกสเปนีซ กรังด์ปรีซ์ในวันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคมปีเดียวกัน ส่วนทีม Ferrari ที่ส่งลงแข่งแบบเต็มฤดูกาลเป็นปีแรกสามารถคว้าแชมป์ไปได้ 3 สนามนับว่าเป็นผลงานที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

nino-farina-on-his-way-to-victory-british-grand-prix-silverstone-may-13-1950

การแข่งขันในปีที่สองนี้มีนักขับและทีมแข่งส่งรถเข้าร่วมแข่งขันเพิ่มมากกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีแรก ในเรื่องของการให้คะแนนในปีนี้ได้ให้คะแนนสำหรับ 5 อันดับแรกแบ่งออกเป็น 8, 6, 4, 3, 2 ส่วนอีก 1 แต้มให้กับนักขับที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุด

สนามเปิดฤดูกาลศึกสวิสเซอร์แลนด์ กรังด์ปรีซ์ Juan Manuel Fangio เป็นนักขับที่ทำผลงานได้ดีที่สุดรวมทั้งหมดตั้งแต่การคว้าโพล โพสิชั่นไปครอง, นักขับที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุดและคว้าแชมป์ประจำรายการไปครอง อันดับสองเป็นของ Piero Taruffi จากทีมเฟอร์รารี่และ Giuseppe Nino Farina เข้าเส้นชัยในอันดับ 3

สนามที่ 2 ไปแข่งขันที่ศึกอินเดียน่าโปลีสที่สหรัฐอเมริกาในวันที่ 30 พฤษภาคม ทีมแข่งจากยุโรปไม่ได้เข้าร่วมแข่งขัน นักขับจากสหรัฐฯ Lee Wallard คว้าแชมป์ไปครองและเป็นนักขับที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุด

สนามต่อมาที่ศึกเบลเยี่ยน กรังด์ปรีซ์ แข่งขันที่สปา ฟรังโกชองป์ส เซอร์กิต ในวันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน Juan Manuel Fangio เป็นนักขับที่คว้าโพล โพสิชั่นและเป็นนักขับที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุด ส่วนแชมป์ตกเป็นของ Giuseppe Nino Farina หลังจากแข่งขันครบ 36 รอบสนามและออกสตาร์ทจากอันดับ 2 ส่วนอันดับ 2 เป็นของ Alberto Ascari จากทีมเฟอร์รารี่ ลงแข่งขันด้วยรถแข่งรหัส Ferrari375 โดยออกสตาร์ทจากอันดับ 4 ทำเวลาตามหลังแชมป์อยู่ 2 นาที 51.0 วินาที

8281

สนามที่ 4 รายการฝรั่งเศส กรังด์ปรีซ์ มีแชมป์ประจำรายการ 2 ราย Luigi Fagioli คว้าแชมป์แรกในชีวิตได้ที่สนามแข่งในเมือง Reims ในสังกัดทีม Alfa Romeo โดยลงแข่งแบบผลัดกันขับกับ Juan Manuel Fangio ออกสตาร์ทจากอันดับ 7 Fagioli ลงขับรวม 20 รอบสนามและที่เหลืออีก 57 รอบเป็นการขับโดย Fangio ซึ่งเป็นนักขับที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุดในรอบที่ 32

ส่วนอันดับ 2 เป็นของทีม Ferrari ขับโดย Jose Froilan Gonzalez นักขับจากอาร์เจนติน่าร่วมกับ Alberto Ascari ทำเวลาตามหลัง 58.2 วินาที ตามมาด้วยรถแข่งของทีม Ferrari อีก 2 คันแต่เวลาทิ้งห่าง 3-4 รอบตามลำดับ

gigi-villoresi-takes-the-plaudits-after-his-win-british-grand-prix-silverstone-october-2-1948

Ferrari มาคว้าแชมป์แรกในปีนี้ได้หลังจากผ่านไป 4 สนาม ศึกอังกฤษ กรังด์ปรีซ์ สนามที่ 5 Jose Froilan Gonzalez คว้าแชมป์แรกในชีวิตเอฟ-วันได้สำเร็จหลังจากลงขับรวม 90 รอบสนามซิลเวอร์สโตนหลังจากออกสตาร์ทจากโพล โพสิชั่น Juan Manuel Fangio ตามเข้าเส้นชัยในอันดับ 2 หลังจากออกสตาร์ทจากอันดับ 2 ทำเวลาตามหลัง 51 วินาที

และ Gigi Villoresi ทีม Ferrari เข้าเส้นชัยในอันดับ 3 แต่ตามหลังห่างถึง 2 รอบ ส่วน Giuseppe Nino Farina เป็นนักขับที่ทำเวลาต่อรอบได้เร็วที่สุดในรอบที่ 38 ต้องออกจากการแข่งขันไปเนื่องจากระบบคลัทช์มีปัญหาในรอบที่ 75 และ Alberto Ascari ทีม Ferrari ออกจากสนามไปเช่นกันหลังจากรถมีปัญหาระบบเกียร์

11

Alberto Ascari ทีม Ferrari คว้าแชมป์แรกประจำปีนี้ได้เป็นสนามแรกหลังจากคว้าโพล โพสิชั่นไปครองเป็นสนามแรกเช่นกันที่สนามที่ 6 รายการเยอรมนี กรังด์ปรีซ์ ทำการแข่งขันที่นัวบวร์กริ่ง เซอร์กิตเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมปีเดียวกันทำการแข่งขันรวม 20 รอบ

ส่วน Juan Manuel Fangio เป็นนักขับที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุดเป็นสนามที่ 4 โดยสนามนี้ทำได้ในรอบที่ 12 หลังจากออกสตาร์ทจากอันดับ 3 และตามเข้าเส้นชัยในอันดับ 2

alberto-ascari2

สนามรองสุดท้าย รายการอิตาเลี่ยน กรังด์ปรีซ์ ทำการแข่งขันที่มอนซ่า เซอร์กิตเมื่อวันที่ 16 กันยายนปีเดียวกัน Alberto Ascari คว้าแชมป์เป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้ ส่วน Juan Manuel Fangio เป็นนักขับที่คว้าโพล โพสิชั่นไปครองแต่ต้องออกจากสนามไปหลังจากเครื่องยนต์มีปัญหาในรอบที่ 39 และ Giuseepe Nino Farina ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุดแต่ต้องออกจากสนามไปเนื่องจากเครื่องยนต์มีปัญหาในรอบที่ 6

juan-manuel-fangio-at-swiss-1951

สนามปิดฉากฤดูกาล 1951 ของศึกฟอร์มูล่า-วัน รายการสเปนีช กรังด์ปรีซ์ Juan Manuel Fangio คว้าแชมป์ไปครองและคว้าแชมป์โลกได้สำเร็จเป็นสมัยแรกพร้อมกับเป็นนักขับที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุดรวม 5 สนาม ส่วน Alberto Ascari คว้าโพล โพสิชั่นแต่ไปจบการแข่งขันในอันดับ 4 เวลาตามหลังถึง 2 รอบ ขณะที่ Jose Froilan Gonzalez จากทีม Ferrari เข้าเส้นชัยในอันดับ 2 ตามมาด้วย Giuseppe Nino Farina

nino-farina-on-his-way-to-victory-british-grand-prix-silverstone-may-13-1950

ปีค.ศ. 1951 สมัยที่สองของศึกฟอร์มูล่า-วันยุคใหม่ทำการแข่งขันรวม 8 สนาม Juan Manuel Fangio นักขับจากอาร์เจนติน่าคว้าแชมป์โลกไปครองหลังจากคว้าแชมป์ได้รวม 4 สนาม เก็บคะแนนได้รวม 31 แต้ม อันดับรองแชมป์เป็นของ Alberto Ascari คว้าแชมป์ได้ 2 สนามเก็บแต้มได้รวม 25 แต้มและอันดับ 3 เป็นของ Jose Froilan Gonzalez คว้าแชมป์ได้ 1 สนามเก็บแต้มได้รวม 24 แต้ม ส่วนแชมป์คนแรก Giuseppe Nino Farina ติดอันดับ 4 คว้าแชมป์ได้ 1 สนามเก็บแต้มได้รวม 19 แต้ม

By : C. Methas - Managing Edition

1racing_flag

Alfa Romeo คว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้สองสมัยซ้อนโดย Juan Manuel Fangio

alberto-ascari3

ศึกฟอร์มูล่า-วันยุคใหม่ได้เริ่มทำการแข่งขันเป็นครั้งแรกในปีค.ศ. 1950 จัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการโดยสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติหรือ FIA ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Federation Internationale de l’Automobile ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ปีค.ศ. 1904 ใช้ชื่อว่า The Association Internationale des Automobile Clubs Reconnus(AIACR) มีสำนักงานใหญ่อยู่เลขที่ 8, Place de la Concorde, Paris ปัจจุบัน Jean Todt เป็นประธาน 2 สมัยซ้อนซึ่งเป็นอดีตผู้อำนวยการทีมเฟอร์รารี่

ในปีแรกของการแข่งขันฟอร์มูล่า-วันยุคใหม่ Giuseppe Nino Farina เป็นนักขับที่คว้าแชมป์ไปครองในสังกัดทีม Alfa Romeo เขาเป็นนักแข่งชาวอิตาลีลงแข่งขันช่วงระหว่างปีค.ศ. 1950-1955 สังกัดทีม Alfa Romeo และ Ferrari ลงแข่งขันทั้งหมดรวม 34 สนามแต่ออกสตาร์ท 33 สนาม สามารถคว้าแชมป์ได้ทั้งหมด 5 สนามและคว้าแชมป์โลกได้ 1 ครั้งโดยเป็นนักแข่งคนแรกของโลกที่คว้าแชมป์โลกฟอร์มูล่า-วัน

ทีม Alfa Romeo คว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้สองสมัยซ้อน Juan Manuel Fangio ลงแข่งขันในสังกัดทีม Alfa Romeo ด้วยรถแข่งรุ่น Type 159 เริ่มทำการแข่งขันสนามแรกที่ศึกสวิสเซอร์แลนด์ กรังด์ปรีซ์ในวันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม ปีค.ศ. 1951 และสนามปิดฉากฤดูกาลที่ศึกสเปนีซ กรังด์ปรีซ์ในวันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคมปีเดียวกัน ส่วนทีม Ferrari ที่ส่งลงแข่งแบบเต็มฤดูกาลเป็นปีแรกสามารถคว้าแชมป์ไปได้ 3 สนามนับว่าเป็นผลงานที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

nino-farina-on-his-way-to-victory-british-grand-prix-silverstone-may-13-1950

การแข่งขันในปีที่สองนี้มีนักขับและทีมแข่งส่งรถเข้าร่วมแข่งขันเพิ่มมากกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีแรก ในเรื่องของการให้คะแนนในปีนี้ได้ให้คะแนนสำหรับ 5 อันดับแรกแบ่งออกเป็น 8, 6, 4, 3, 2 ส่วนอีก 1 แต้มให้กับนักขับที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุด

สนามเปิดฤดูกาลศึกสวิสเซอร์แลนด์ กรังด์ปรีซ์ Juan Manuel Fangio เป็นนักขับที่ทำผลงานได้ดีที่สุดรวมทั้งหมดตั้งแต่การคว้าโพล โพสิชั่นไปครอง, นักขับที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุดและคว้าแชมป์ประจำรายการไปครอง อันดับสองเป็นของ Piero Taruffi จากทีมเฟอร์รารี่และ Giuseppe Nino Farina เข้าเส้นชัยในอันดับ 3

สนามที่ 2 ไปแข่งขันที่ศึกอินเดียน่าโปลีสที่สหรัฐอเมริกาในวันที่ 30 พฤษภาคม ทีมแข่งจากยุโรปไม่ได้เข้าร่วมแข่งขัน นักขับจากสหรัฐฯ Lee Wallard คว้าแชมป์ไปครองและเป็นนักขับที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุด

สนามต่อมาที่ศึกเบลเยี่ยน กรังด์ปรีซ์ แข่งขันที่สปา ฟรังโกชองป์ส เซอร์กิต ในวันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน Juan Manuel Fangio เป็นนักขับที่คว้าโพล โพสิชั่นและเป็นนักขับที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุด ส่วนแชมป์ตกเป็นของ Giuseppe Nino Farina หลังจากแข่งขันครบ 36 รอบสนามและออกสตาร์ทจากอันดับ 2 ส่วนอันดับ 2 เป็นของ Alberto Ascari จากทีมเฟอร์รารี่ ลงแข่งขันด้วยรถแข่งรหัส Ferrari375 โดยออกสตาร์ทจากอันดับ 4 ทำเวลาตามหลังแชมป์อยู่ 2 นาที 51.0 วินาที

8281

สนามที่ 4 รายการฝรั่งเศส กรังด์ปรีซ์ มีแชมป์ประจำรายการ 2 ราย Luigi Fagioli คว้าแชมป์แรกในชีวิตได้ที่สนามแข่งในเมือง Reims ในสังกัดทีม Alfa Romeo โดยลงแข่งแบบผลัดกันขับกับ Juan Manuel Fangio ออกสตาร์ทจากอันดับ 7 Fagioli ลงขับรวม 20 รอบสนามและที่เหลืออีก 57 รอบเป็นการขับโดย Fangio ซึ่งเป็นนักขับที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุดในรอบที่ 32

ส่วนอันดับ 2 เป็นของทีม Ferrari ขับโดย Jose Froilan Gonzalez นักขับจากอาร์เจนติน่าร่วมกับ Alberto Ascari ทำเวลาตามหลัง 58.2 วินาที ตามมาด้วยรถแข่งของทีม Ferrari อีก 2 คันแต่เวลาทิ้งห่าง 3-4 รอบตามลำดับ

gigi-villoresi-takes-the-plaudits-after-his-win-british-grand-prix-silverstone-october-2-1948

Ferrari มาคว้าแชมป์แรกในปีนี้ได้หลังจากผ่านไป 4 สนาม ศึกอังกฤษ กรังด์ปรีซ์ สนามที่ 5 Jose Froilan Gonzalez คว้าแชมป์แรกในชีวิตเอฟ-วันได้สำเร็จหลังจากลงขับรวม 90 รอบสนามซิลเวอร์สโตนหลังจากออกสตาร์ทจากโพล โพสิชั่น Juan Manuel Fangio ตามเข้าเส้นชัยในอันดับ 2 หลังจากออกสตาร์ทจากอันดับ 2 ทำเวลาตามหลัง 51 วินาที

และ Gigi Villoresi ทีม Ferrari เข้าเส้นชัยในอันดับ 3 แต่ตามหลังห่างถึง 2 รอบ ส่วน Giuseppe Nino Farina เป็นนักขับที่ทำเวลาต่อรอบได้เร็วที่สุดในรอบที่ 38 ต้องออกจากการแข่งขันไปเนื่องจากระบบคลัทช์มีปัญหาในรอบที่ 75 และ Alberto Ascari ทีม Ferrari ออกจากสนามไปเช่นกันหลังจากรถมีปัญหาระบบเกียร์

11

Alberto Ascari ทีม Ferrari คว้าแชมป์แรกประจำปีนี้ได้เป็นสนามแรกหลังจากคว้าโพล โพสิชั่นไปครองเป็นสนามแรกเช่นกันที่สนามที่ 6 รายการเยอรมนี กรังด์ปรีซ์ ทำการแข่งขันที่นัวบวร์กริ่ง เซอร์กิตเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมปีเดียวกันทำการแข่งขันรวม 20 รอบ

ส่วน Juan Manuel Fangio เป็นนักขับที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุดเป็นสนามที่ 4 โดยสนามนี้ทำได้ในรอบที่ 12 หลังจากออกสตาร์ทจากอันดับ 3 และตามเข้าเส้นชัยในอันดับ 2

alberto-ascari2

สนามรองสุดท้าย รายการอิตาเลี่ยน กรังด์ปรีซ์ ทำการแข่งขันที่มอนซ่า เซอร์กิตเมื่อวันที่ 16 กันยายนปีเดียวกัน Alberto Ascari คว้าแชมป์เป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้ ส่วน Juan Manuel Fangio เป็นนักขับที่คว้าโพล โพสิชั่นไปครองแต่ต้องออกจากสนามไปหลังจากเครื่องยนต์มีปัญหาในรอบที่ 39 และ Giuseepe Nino Farina ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุดแต่ต้องออกจากสนามไปเนื่องจากเครื่องยนต์มีปัญหาในรอบที่ 6

juan-manuel-fangio-at-swiss-1951

สนามปิดฉากฤดูกาล 1951 ของศึกฟอร์มูล่า-วัน รายการสเปนีช กรังด์ปรีซ์ Juan Manuel Fangio คว้าแชมป์ไปครองและคว้าแชมป์โลกได้สำเร็จเป็นสมัยแรกพร้อมกับเป็นนักขับที่ทำความเร็วต่อรอบได้เร็วที่สุดรวม 5 สนาม ส่วน Alberto Ascari คว้าโพล โพสิชั่นแต่ไปจบการแข่งขันในอันดับ 4 เวลาตามหลังถึง 2 รอบ ขณะที่ Jose Froilan Gonzalez จากทีม Ferrari เข้าเส้นชัยในอันดับ 2 ตามมาด้วย Giuseppe Nino Farina

nino-farina-on-his-way-to-victory-british-grand-prix-silverstone-may-13-1950

ปีค.ศ. 1951 สมัยที่สองของศึกฟอร์มูล่า-วันยุคใหม่ทำการแข่งขันรวม 8 สนาม Juan Manuel Fangio นักขับจากอาร์เจนติน่าคว้าแชมป์โลกไปครองหลังจากคว้าแชมป์ได้รวม 4 สนาม เก็บคะแนนได้รวม 31 แต้ม อันดับรองแชมป์เป็นของ Alberto Ascari คว้าแชมป์ได้ 2 สนามเก็บแต้มได้รวม 25 แต้มและอันดับ 3 เป็นของ Jose Froilan Gonzalez คว้าแชมป์ได้ 1 สนามเก็บแต้มได้รวม 24 แต้ม ส่วนแชมป์คนแรก Giuseppe Nino Farina ติดอันดับ 4 คว้าแชมป์ได้ 1 สนามเก็บแต้มได้รวม 19 แต้ม

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!