จารึกตำนานดักการ์ แรลลี่ : 2017 Dakar Rally Stage 12-ย้อนรอยแรลลี่หฤโหด : สเตฟาน ปีเตอร์อองเซลปิดเกมส์ ตอกย้ำ…ตำนาน “มิสเตอร์ดักการ์”


By : C. Methas – Managing Editor

ศึกดักการ์ แรลลี่ประจำปี 2017 จบลงด้วยการคว้าแชมป์ไปครองของสเตฟาน ปีเตอร์อองเซลโดยเป็นการป้องกันแชมป์ไว้ได้จากปีที่แล้วและเป็นการมากวาดแชมป์ออกไปจาก “แรลลี่แห่งความตาย” เป็นสมัยที่ 7 ประเภทรถยนต์ ก่อนหน้านี้เคยกวาดแชมป์ประเภทมอเตอร์ไซค์ไป 6 สมัย

การคว้าแชมป์ครั้งล่าสุดเป็นไปในแบบไม่ต้องกดดันหลังจากทำเวลาทิ้งห่างผู้ตามก่อนออกสตาร์ทถึงกว่า 6 นาทีโดยกรรมการไม่หักเพิ่มเวลาในช่วงหยุดให้ความช่วยเหลือแก่ซิมอน มาร์ซิค นักบิดมอเตอร์ไซค์ที่ประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถของเขาจนได้รับบาดเจ็บขาหัก ปีเตอร์อองเซลให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นและประสานงานไปยังทีมฉุกเฉินจนนำเฮลิคอปเตอร์นำส่งโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อย

ทีมเปอโยต์ประสบความสำเร็จอย่างสูงในปีนี้ด้วยการเรียงแถวเข้าเส้นชัยในอันดับ 1-2-3 สเตฟาน ปีเตอร์อองเซลทำเวลารวมได้ 28 ชั่วโมง 49 นาที 30 วินาที เซบาสเตียง โล๊ปเวลาตามหลัง 5 นาที 13 วินาที อันดับ 3 เป็นของไซรีส เดเปรซและนานี่ โรม่าจากทีมโตโยต้าจบอันดับ 4 ตามมาด้วยจิเนียร์ เดอ วิลิเยรส์จากทีมโตโยต้า

ส่วนทีมมินิตามกันเข้าเส้นชัยอันดับ 6-7 ส่วนมิคโค ไฮร์โวเน่นรองแชมป์แรลลี่โลกหลายสมัยที่ติดอันดับหัวแถวมาตลอดในช่วงท้ายรถไปติดทางชันปีนขึ้นเนินทรายซึ่งเป็นทางรถบรรทุกขึ้นไปก่อนหน้านี้ ทำให้เสียเวลาไปติดเนินทรายอยู่นาน ท้ายที่สุดไปจบในอันดับ 13 ของตารางเวลาตามหลังปีเตอร์อองเซลห่างถึง 6 ชั่วโมง

สเตฟาน ปีเตอร์อองเซลเพียงคนเดียวในสังกัดทีมผู้ผลิตรถยนต์จากฝรั่งเศสที่จบบนโพเดี้ยมในปีนี้ เมื่อปีที่แล้วนักขับ 3 รายจากฝรั่งเศสจบบนโพเดี้ยม

ประเภทมอเตอร์ไซค์ แซม ซันเดอร์แลนด์คว้าแชมป์ไปตามคาดหมายในสังกัดทีม KTM กลายเป็นนักขับชาวอังกฤษรายแรกที่มาคว้าแชมป์ในศึกดักการ์ แรลลี่ ทำเวลาเร็วที่สุดได้ 5 สเตจ ทำเวลารวม 32 ชั่วโมง 06 นาที 22 วินาที ทีม KTM เรียงแถวเข้าเส้นชัยในอันดับ 1-2-3 ตามมาด้วยทีมยามาฮ่าและฮอนด้า

ประเภท Quad หรือ ATV ทีมยามาฮ่าครอง 6 อันดับแรกทั้งหมด เซอร์เกย์ คาร์ญาคินทำเวลารวม 39 ชั่วโมง 18 นาที 52 วินาทีและประเภทรถบรรทุก Eduard Nikolaev จากรัสเซียทีม Kamaz คว้าแชมป์ไปครอง

By : C. Methas - Managing Editor

ศึกดักการ์ แรลลี่ประจำปี 2017 จบลงด้วยการคว้าแชมป์ไปครองของสเตฟาน ปีเตอร์อองเซลโดยเป็นการป้องกันแชมป์ไว้ได้จากปีที่แล้วและเป็นการมากวาดแชมป์ออกไปจาก “แรลลี่แห่งความตาย” เป็นสมัยที่ 7 ประเภทรถยนต์ ก่อนหน้านี้เคยกวาดแชมป์ประเภทมอเตอร์ไซค์ไป 6 สมัย

การคว้าแชมป์ครั้งล่าสุดเป็นไปในแบบไม่ต้องกดดันหลังจากทำเวลาทิ้งห่างผู้ตามก่อนออกสตาร์ทถึงกว่า 6 นาทีโดยกรรมการไม่หักเพิ่มเวลาในช่วงหยุดให้ความช่วยเหลือแก่ซิมอน มาร์ซิค นักบิดมอเตอร์ไซค์ที่ประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถของเขาจนได้รับบาดเจ็บขาหัก ปีเตอร์อองเซลให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นและประสานงานไปยังทีมฉุกเฉินจนนำเฮลิคอปเตอร์นำส่งโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อย

ทีมเปอโยต์ประสบความสำเร็จอย่างสูงในปีนี้ด้วยการเรียงแถวเข้าเส้นชัยในอันดับ 1-2-3 สเตฟาน ปีเตอร์อองเซลทำเวลารวมได้ 28 ชั่วโมง 49 นาที 30 วินาที เซบาสเตียง โล๊ปเวลาตามหลัง 5 นาที 13 วินาที อันดับ 3 เป็นของไซรีส เดเปรซและนานี่ โรม่าจากทีมโตโยต้าจบอันดับ 4 ตามมาด้วยจิเนียร์ เดอ วิลิเยรส์จากทีมโตโยต้า

ส่วนทีมมินิตามกันเข้าเส้นชัยอันดับ 6-7 ส่วนมิคโค ไฮร์โวเน่นรองแชมป์แรลลี่โลกหลายสมัยที่ติดอันดับหัวแถวมาตลอดในช่วงท้ายรถไปติดทางชันปีนขึ้นเนินทรายซึ่งเป็นทางรถบรรทุกขึ้นไปก่อนหน้านี้ ทำให้เสียเวลาไปติดเนินทรายอยู่นาน ท้ายที่สุดไปจบในอันดับ 13 ของตารางเวลาตามหลังปีเตอร์อองเซลห่างถึง 6 ชั่วโมง

สเตฟาน ปีเตอร์อองเซลเพียงคนเดียวในสังกัดทีมผู้ผลิตรถยนต์จากฝรั่งเศสที่จบบนโพเดี้ยมในปีนี้ เมื่อปีที่แล้วนักขับ 3 รายจากฝรั่งเศสจบบนโพเดี้ยม

ประเภทมอเตอร์ไซค์ แซม ซันเดอร์แลนด์คว้าแชมป์ไปตามคาดหมายในสังกัดทีม KTM กลายเป็นนักขับชาวอังกฤษรายแรกที่มาคว้าแชมป์ในศึกดักการ์ แรลลี่ ทำเวลาเร็วที่สุดได้ 5 สเตจ ทำเวลารวม 32 ชั่วโมง 06 นาที 22 วินาที ทีม KTM เรียงแถวเข้าเส้นชัยในอันดับ 1-2-3 ตามมาด้วยทีมยามาฮ่าและฮอนด้า

ประเภท Quad หรือ ATV ทีมยามาฮ่าครอง 6 อันดับแรกทั้งหมด เซอร์เกย์ คาร์ญาคินทำเวลารวม 39 ชั่วโมง 18 นาที 52 วินาทีและประเภทรถบรรทุก Eduard Nikolaev จากรัสเซียทีม Kamaz คว้าแชมป์ไปครอง

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!