2007 NEW ZEALAND RALLY (Round 11)-อีกหนึ่งสนามของ Loeb คว้าชัยเกินความคาดหมายและกวาดแชมป์ 3 สนามรวดหลังผ่านครึ่งฤดูกาลหลัง


By : C. Methas – Executive Editor

อีกหนึ่งสนามศึกแรลลี่โลกอมตะคลาสสิคในรายการนิวซีแลนด์ แรลลี่ Sebastien Loeb นักแข่งจากฝรั่งเศสเจ้าของสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์แรลลี่โลก 9 สมัยซ้อนช่วงระหว่างปี 2004-2012 สนามนี้โชว์ฟอร์มร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ด้วยการกวาดแชมป์ 3 สนามติดต่อกันหลังประเดิมครึ่งฤดูกาลหลังเมื่อปี 2007 ส่งผลให้อันดับขึ้นไปนำหัวแถว ทำเวลาเข้าเส้นชัยด้วยเวลานำห่างอันดับ 2 ถึง 17 วินาทีกว่า ซึ่งเป็นการขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดตั้งแต่ออกสตาร์ทจนกระทั่งจบการแข่งขันที่นักขับต่างผลัดกันขึ้นนำ

ทีม Citroen ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมอีกสนาม เป็นการเรียงแถวเข้าเส้นชัยในอันดับ 1-2 รวมสนามที่สองติดต่อกัน โดยสนามนี้ Daniel Sordo จากสเปนตามเข้าเส้นชัยในอันดับ 2 Mikko Hirvonen ทีม Ford เข้าเส้นชัยในอันดับ 3 แต่เวลาตามหลังถึง 41 วินาทีกว่า

New Zealand Rally ปี 2007 บรรจุเป็นสนามที่ 11 สนามที่ได้ชื่อว่าสนามทางฝุ่นที่นักแข่งสามารถทำความเร็วได้เร็วที่สุดในโลก สภาพเส้นทางลูกรังแบบเรียบที่คดเคี้ยวลัดเลาะไปตามท้องทุ่งกว้าง

ปีนั้นผู้จัดการแข่งขันได้ปรับเปลี่ยนเส้นทางการแข่งขัน 2 เส้นทางที่แตกต่างจากปีก่อนหน้านี้ ไปออกสตาร์ทจากเมือง Hamilton ห่างไปทางตอนใต้จากเมือง Auckland 130 กิโลเมตร เกาะทางตอนเหนือของนิวซีแลนด์

การแข่งขันปีนี้แบ่งออกเป็น 18 สเตจ ระยะทางจับเวลาพิเศษ รวม 353.04 กิโลเมตร ระยะทางรวม 1218.20 กิโลเมตร การแข่งขันปีนั้นขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดตั้งแต่เริ่มออกสตาร์ทจนกระทั่งจบการแข่งขัน มีการเปลี่ยนผลัดกันขึ้นไปนำหัวแถวเกือบตลอด

แชมป์สนามนี้ของ Loeb เป็นการคว้าแชมป์ในแบบไม่คาดว่าจะสามารถคว้าแชมป์ได้ เนื่องจากรถไปเจออุบัติเหต่ รถหมุนในสเตจที่ 12 ซึ่งเป็นสเตจแรกของวันสุดท้าย ส่งผลให้เวลาตามหลังอันดับหัวแถวถึง 17.7 วินาทีและตามหลังอันดับ 2 อยู่ 14.5 วินาที

Loeb ยังโชว์ฟอร์มได้ดุเดือด สามารถเร่งทำความเร็วขึ้นมาคว้าแชมป์ไปครองได้ในวันสุดท้ายของการแข่งขัน เป็นการทำเวลาได้เร็วที่สุดใน 2 สเตจก่อนจบการแข่งขัน และท้ายที่สุดสามารถคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ

Mikko Hirvonen สนามนี้เข้าเส้นชัยในอันดับ 3 โดยรถมีปัญหายางแตกในช่วงท้าย ส่วน Jari Latvala เพื่อนร่วมทีม Ford ไปเจออุบัติเหตุ รถไปชนข้างทาง ก้อนหินทะลุเข้าหม้อน้ำแตก ออกจากการแข่งขันไป โดยสนามนี้สามารถขึ้นไปนำโอเวอร์ออลได้หลายช่วง ส่งผลให้สองคู่หูจากทีม Citroen เรียงแถวคว้าแชมป์ในอันดับ 1-2

Loeb คว้าแชมป์สนามนี้ส่งผลให้แต้มสะสมขึ้นไปนำ Hirvonen อยู่ 8 แต้มและแต้มสะสมประเภททีมผู้ผลิตขึ้นนำห่างทีม Ford อยู่ 20 แต้ม โดยมี 141 แต้ม ท้ายที่สุดสามารถกวาดแชมป์แรลลี่โลก 4 สมัยซ้อน

Loeb ทำเวลาได้ดีที่สุดรวม 6 สเตจ โดย Henning Solberg ทีม Stobart เป็นนักขับที่สามารถทำเวลาในแต่ละสเตจได้มากที่สุดรวม 7 สเตจ Hirvonen ทำเวลาได้ดีที่สุดรวม 3 สเตจ และ Jari Latvala ทำเวลาได้เร็วที่สุดรวม 2 สเตจ

Petter Solberg ทีม Subaru เข้าเส้นชัยในอันดับ 4 หลังจากขับเคี่ยวกับ Francois Duval ท้ายที่สุด Duval ต้องออกจากการแข่งขันไป และ Urma Aava จาก Estonia ที่ลงแข่งขันเป็นการส่วนตัว เข้าเส้นชัยในอันดับ 5

ทีม Suzuki สนามนี้ทำผลงานได้ดี สามารถเก็บแต้มออกไปได้ทั้ง 2 คัน โดย Guunar Anderson เข้าเส้นชัยอันดับ 6 ตามมาด้วยเพื่อนร่วมทีม Toni Gardemeister และอันดับสุดท้ายที่มีแต้มเป็นของ Federico Villagra จากทีม Munchi

By : C. Methas - Executive Editor

อีกหนึ่งสนามศึกแรลลี่โลกอมตะคลาสสิคในรายการนิวซีแลนด์ แรลลี่ Sebastien Loeb นักแข่งจากฝรั่งเศสเจ้าของสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์แรลลี่โลก 9 สมัยซ้อนช่วงระหว่างปี 2004-2012 สนามนี้โชว์ฟอร์มร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ด้วยการกวาดแชมป์ 3 สนามติดต่อกันหลังประเดิมครึ่งฤดูกาลหลังเมื่อปี 2007 ส่งผลให้อันดับขึ้นไปนำหัวแถว ทำเวลาเข้าเส้นชัยด้วยเวลานำห่างอันดับ 2 ถึง 17 วินาทีกว่า ซึ่งเป็นการขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดตั้งแต่ออกสตาร์ทจนกระทั่งจบการแข่งขันที่นักขับต่างผลัดกันขึ้นนำ

ทีม Citroen ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมอีกสนาม เป็นการเรียงแถวเข้าเส้นชัยในอันดับ 1-2 รวมสนามที่สองติดต่อกัน โดยสนามนี้ Daniel Sordo จากสเปนตามเข้าเส้นชัยในอันดับ 2 Mikko Hirvonen ทีม Ford เข้าเส้นชัยในอันดับ 3 แต่เวลาตามหลังถึง 41 วินาทีกว่า

New Zealand Rally ปี 2007 บรรจุเป็นสนามที่ 11 สนามที่ได้ชื่อว่าสนามทางฝุ่นที่นักแข่งสามารถทำความเร็วได้เร็วที่สุดในโลก สภาพเส้นทางลูกรังแบบเรียบที่คดเคี้ยวลัดเลาะไปตามท้องทุ่งกว้าง

ปีนั้นผู้จัดการแข่งขันได้ปรับเปลี่ยนเส้นทางการแข่งขัน 2 เส้นทางที่แตกต่างจากปีก่อนหน้านี้ ไปออกสตาร์ทจากเมือง Hamilton ห่างไปทางตอนใต้จากเมือง Auckland 130 กิโลเมตร เกาะทางตอนเหนือของนิวซีแลนด์

การแข่งขันปีนี้แบ่งออกเป็น 18 สเตจ ระยะทางจับเวลาพิเศษ รวม 353.04 กิโลเมตร ระยะทางรวม 1218.20 กิโลเมตร การแข่งขันปีนั้นขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดตั้งแต่เริ่มออกสตาร์ทจนกระทั่งจบการแข่งขัน มีการเปลี่ยนผลัดกันขึ้นไปนำหัวแถวเกือบตลอด

แชมป์สนามนี้ของ Loeb เป็นการคว้าแชมป์ในแบบไม่คาดว่าจะสามารถคว้าแชมป์ได้ เนื่องจากรถไปเจออุบัติเหต่ รถหมุนในสเตจที่ 12 ซึ่งเป็นสเตจแรกของวันสุดท้าย ส่งผลให้เวลาตามหลังอันดับหัวแถวถึง 17.7 วินาทีและตามหลังอันดับ 2 อยู่ 14.5 วินาที

Loeb ยังโชว์ฟอร์มได้ดุเดือด สามารถเร่งทำความเร็วขึ้นมาคว้าแชมป์ไปครองได้ในวันสุดท้ายของการแข่งขัน เป็นการทำเวลาได้เร็วที่สุดใน 2 สเตจก่อนจบการแข่งขัน และท้ายที่สุดสามารถคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ

Mikko Hirvonen สนามนี้เข้าเส้นชัยในอันดับ 3 โดยรถมีปัญหายางแตกในช่วงท้าย ส่วน Jari Latvala เพื่อนร่วมทีม Ford ไปเจออุบัติเหตุ รถไปชนข้างทาง ก้อนหินทะลุเข้าหม้อน้ำแตก ออกจากการแข่งขันไป โดยสนามนี้สามารถขึ้นไปนำโอเวอร์ออลได้หลายช่วง ส่งผลให้สองคู่หูจากทีม Citroen เรียงแถวคว้าแชมป์ในอันดับ 1-2

Loeb คว้าแชมป์สนามนี้ส่งผลให้แต้มสะสมขึ้นไปนำ Hirvonen อยู่ 8 แต้มและแต้มสะสมประเภททีมผู้ผลิตขึ้นนำห่างทีม Ford อยู่ 20 แต้ม โดยมี 141 แต้ม ท้ายที่สุดสามารถกวาดแชมป์แรลลี่โลก 4 สมัยซ้อน

Loeb ทำเวลาได้ดีที่สุดรวม 6 สเตจ โดย Henning Solberg ทีม Stobart เป็นนักขับที่สามารถทำเวลาในแต่ละสเตจได้มากที่สุดรวม 7 สเตจ Hirvonen ทำเวลาได้ดีที่สุดรวม 3 สเตจ และ Jari Latvala ทำเวลาได้เร็วที่สุดรวม 2 สเตจ

Petter Solberg ทีม Subaru เข้าเส้นชัยในอันดับ 4 หลังจากขับเคี่ยวกับ Francois Duval ท้ายที่สุด Duval ต้องออกจากการแข่งขันไป และ Urma Aava จาก Estonia ที่ลงแข่งขันเป็นการส่วนตัว เข้าเส้นชัยในอันดับ 5

ทีม Suzuki สนามนี้ทำผลงานได้ดี สามารถเก็บแต้มออกไปได้ทั้ง 2 คัน โดย Guunar Anderson เข้าเส้นชัยอันดับ 6 ตามมาด้วยเพื่อนร่วมทีม Toni Gardemeister และอันดับสุดท้ายที่มีแต้มเป็นของ Federico Villagra จากทีม Munchi

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!