“OMODA 7” ความลงตัวของดีไซน์ที่งดงามและนวัตกรรมอัจฉริยะ


หลังจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ “OMODA 7” ในงานแถลงข่าวที่เมืองอู๋หู ประเทศจีน ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ต่างได้รับความสนใจและเสียงตอบรับจากแขกผู้มีเกียรติที่ได้มาร่วมงานอย่างมาก โดยในงานนี้ยังได้โชว์สมรรถนะรถยนต์จาก OMODA 5 สู่ OMODA 7

เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลายค่ายรถยนต์ทยอยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่กลายเป็นกระแสหลัก ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงไปสู่ เทรนด์ยนตกรรมขับเคลื่อนไฟฟ้า สำหรับคลื่นลูกใหม่นี้ OMODA มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการพัฒนารถยนต์พลังงานใหม่และโซลูชันอัจฉริยะ ในงานแถลงข่าวที่ผ่านมานี้ OMODA ได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นที่ 2 “OMODA 7” สู่ชาวโลก ที่ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของวงการรถยนต์ที่เป็นการผสมผสานของสุนทรียภาพเข้ากับนวัตกรรมยานยนต์อัจฉริยะแห่งอนาคต

ยนตรกรรมที่สร้างสรรค์เพื่อคนรุ่นใหม่ทั่วโลก

ด้วยอายุเฉลี่ยของผู้ซื้อรถยนต์ลดลงอย่างต่อเนื่อง “ความทันสมัย” จึงกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นผู้ผลิตรถยนต์ต้องก้าวข้ามพัฒนาอยู่เสมอ ตั้งแต่หลังยุค 80 ยุค 90 ไปจนถึงเจเนอเรชัน Z ในปัจจุบัน ความชื่นชอบและต้องการของผู้ขับขี่ในแต่ละยุคแตกต่างกัน OMODA มุ่งเน้นตอบโจทย์ความต้องการของผู้ขับขี่รุ่นใหม่ ด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และยังมีการสำรวจความต้องการใช้งานรถยนต์จากคนรุ่นใหม่ประกอบการพัฒนาผลิตภัณฑ์อีกด้วย

ตั้งแต่เริ่มพัฒนา OMODA 7 แบรนด์ OMODA ได้เก็บข้อมูลและสร้างสรรค์ร่วมกับผู้ใช้งานจริงทั่วโลก โดยวิจัยเชิงลึกเกี่ยวกับความต้องการใช้รถยนต์จากผู้ขับขี่ในยุโรป อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ รวมไปถึง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียกลาง ซึ่งผู้ขับขี่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาในอนาคต ด้วยประสบการณ์และความสำเร็จที่มากมาย พร้อมเปิดรับและกระตือรือร้นกับสิ่งใหม่ ๆ เราเชื่อว่าผู้ขับขี่จริงคือ ผู้บุกเบิกเทคโนโลยีล้ำสมัย แสดงออกตัวตนและรสนิยมของผู้ขับขี่

ด้วยความเข้าใจผู้ขับขี่ของ OMODA ทำให้ OMODA 7 เป็นโมเดลกลุ่มคอรสโอเวอร์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั่วโลก โดยจุดเริ่มต้นในระดับโลกของ OMODA 7 เป็นไปตามมาตรฐานทางเทคนิคในระดับสากล มาตรฐานคุณภาพ และมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงตั้งแต่ต้น มุ่งสานต่อความเชื่อมั่นและชื่อเสียงของ OMODA & JAECOO กับกลุ่มลูกค้ากว่า 200,000 รายทั่วโลก

การผสมผสานของสุนทรียภาพแห่งอนาคตและเทคโนโลยีดิจิทัลอัจฉริยะ

เพื่อดึงดูดผู้ขับขี่คนรุ่นใหม่ แบรนด์จำเป็นต้องเข้าใจความต้องการของพวกเขาอย่างลึกซึ้ง ส่งต่อความเข้าใจนี้ผ่านผลิตภัณฑ์ที่จับต้องต้องได้ สะท้อนผ่านตลอดเส้นทางการพัฒนา OMODA 7 ในทุกมิติ อาทิ ห้องโดยสารอัจฉริยะ สมรรถนะไดนามิก และระบบความปลอดภัยสูงสุด ในตลาดยานยนต์ OMODA ได้สร้างการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของ OMODA 7 ให้น่าหลงใหลตั้งแต่แรกเห็น โดยได้ใช้แนวคิด “Stylish 360°” มาออกแบบรถยนต์อย่างพิถีพิถันสะท้อนสไตล์ของผู้ขับขี่อย่างลงตัว ด้วยสัดส่วนไดนามิกที่สมบูรณ์แบบ มีรูปทรงโค้งต่ำผสานกับรูปทรงฟาสต์แบ็คที่ซับซ้อน สะท้อนรสนิยมด้านสุนทรียภาพของคนรุ่นใหม่ได้อย่างชัดเจน

OMODA 7 ประกอบด้วยฟีเจอร์สำคัญ อาทิ ห้องโดยสารอัจฉริยะความเร็วสูงแบบพิเศษ พร้อมด้วยหน้าจอเลื่อนขนาด 15.6 นิ้ว ที่จะทำให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสประสบการณ์ขั้นสุด ระบบเสียงแบบสมจริงพาโนรามาพร้อมลำโพง 12+2 ตัว และการปรับแต่งไฟระดับล้านเลเวล ที่จะมอบประสบการณ์เสียงคุณภาพเสมือนอยู่ในคอนเสิร์ตฮอลล์ มีการโต้ตอบด้วยเสียงทั้งสี่โซนเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารที่ครอบคลุมและแม่นยำ มีระบบกลิ่นหอมอัจฉริยะที่จับคู่กับระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ ENC ที่จะสร้างบรรยากาศการเดินทางให้สดชื่น ราบรื่น และสะดวกสบายได้อย่างสมบูรณ์แบบ

สำหรับคนรุ่นใหม่ที่หลงใหลในความเร็ว ต้องชื่นชอบสมรรถนะของระบบไดนามิกของ OMODA 7 อย่างแน่นอน ด้วยการออกแบบด้านสถาปัตยกรรมระบบส่งกำลังไฮบริดล่าสุด สามารถสร้างสมดุลระหว่างอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงกับประสบการณ์การขับขี่ได้อย่างลงตัว โดยมีโหมดประหยัดพลังงานขั้นสุด ที่ช่วยให้ OMODA 7 วิ่งได้ไกลถึง 1,200 กิโลเมตร เมื่อใช้น้ำมันและแบตเตอรี่เต็มประสิทธิภาพ สามารถพาผู้ขับขี่ไปถึงจุดหมายโดยไม่ต้องแวะชาร์จ ช่วยคลายความกังวลในการเดินทางลง นอกจากนี้ ยังมีนวัตกรรมระบบดูดซับพลังงาน เทคโนโลยีถุงลมนิรภัยแบบ 6S และความแข็งแรงของตัวถังที่ 25,000 นิวตันเมตรองศา (N·m/deg) ตรงตามมาตรฐานความปลอดภัย 5 ดาวระดับโลก ทำให้ผู้ขับขี่รุ่นใหม่มั่นใจได้ว่าจะสนุกกับการขับ OMODA 7 พร้อมกับได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่

เห็นได้ชัดเจนว่า OMODA 7 ถือเป็นยนตรกรรมที่ถูกพัฒนาและสร้างสรรค์ให้เป็นผลิตภัณฑ์แฟลกชิปสำคัญของ OMODA หลังจากการสำรวจประเด็นความต้องการของผู้ใช้งานคนรุ่นใหม่จริงอย่างแม่นยำแล้ว ได้นำมาพัฒนาสู่รถยนต์ที่มีสไตล์ล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น ผ่านห้องโดยสารอัจฉริยะ โหมดการควบคุมการขับขี่แบบเอ็กซ์ตรีม และระบบความปลอดภัยขั้นสูง พร้อมสร้างสรรค์ประสบการณ์การเดินทางที่ให้ความรู้สึกสัมผัสแห่งอนาคตแก่ผู้ขับขี่ สำหรับ OMODA 7 วางแผนจะเริ่มเปิดตัวทั่วโลกในปี 2025 ที่จะถึงนี้ โดย OMODA 7 นี้ จะมาเติมเต็มการขยายฐานผลิตภัณฑ์ของ OMODA เพื่อปูทางไปสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ขับเคลื่อนอนาคต และบรรลุมาตรฐานอุตสาหกรรมที่สูงขึ้นต่อไป

หลังจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ “OMODA 7” ในงานแถลงข่าวที่เมืองอู๋หู ประเทศจีน ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ต่างได้รับความสนใจและเสียงตอบรับจากแขกผู้มีเกียรติที่ได้มาร่วมงานอย่างมาก โดยในงานนี้ยังได้โชว์สมรรถนะรถยนต์จาก OMODA 5 สู่ OMODA 7

เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลายค่ายรถยนต์ทยอยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่กลายเป็นกระแสหลัก ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงไปสู่ เทรนด์ยนตกรรมขับเคลื่อนไฟฟ้า สำหรับคลื่นลูกใหม่นี้ OMODA มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการพัฒนารถยนต์พลังงานใหม่และโซลูชันอัจฉริยะ ในงานแถลงข่าวที่ผ่านมานี้ OMODA ได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นที่ 2 “OMODA 7” สู่ชาวโลก ที่ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของวงการรถยนต์ที่เป็นการผสมผสานของสุนทรียภาพเข้ากับนวัตกรรมยานยนต์อัจฉริยะแห่งอนาคต

ยนตรกรรมที่สร้างสรรค์เพื่อคนรุ่นใหม่ทั่วโลก

ด้วยอายุเฉลี่ยของผู้ซื้อรถยนต์ลดลงอย่างต่อเนื่อง “ความทันสมัย” จึงกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นผู้ผลิตรถยนต์ต้องก้าวข้ามพัฒนาอยู่เสมอ ตั้งแต่หลังยุค 80 ยุค 90 ไปจนถึงเจเนอเรชัน Z ในปัจจุบัน ความชื่นชอบและต้องการของผู้ขับขี่ในแต่ละยุคแตกต่างกัน OMODA มุ่งเน้นตอบโจทย์ความต้องการของผู้ขับขี่รุ่นใหม่ ด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และยังมีการสำรวจความต้องการใช้งานรถยนต์จากคนรุ่นใหม่ประกอบการพัฒนาผลิตภัณฑ์อีกด้วย

ตั้งแต่เริ่มพัฒนา OMODA 7 แบรนด์ OMODA ได้เก็บข้อมูลและสร้างสรรค์ร่วมกับผู้ใช้งานจริงทั่วโลก โดยวิจัยเชิงลึกเกี่ยวกับความต้องการใช้รถยนต์จากผู้ขับขี่ในยุโรป อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ รวมไปถึง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียกลาง ซึ่งผู้ขับขี่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาในอนาคต ด้วยประสบการณ์และความสำเร็จที่มากมาย พร้อมเปิดรับและกระตือรือร้นกับสิ่งใหม่ ๆ เราเชื่อว่าผู้ขับขี่จริงคือ ผู้บุกเบิกเทคโนโลยีล้ำสมัย แสดงออกตัวตนและรสนิยมของผู้ขับขี่

ด้วยความเข้าใจผู้ขับขี่ของ OMODA ทำให้ OMODA 7 เป็นโมเดลกลุ่มคอรสโอเวอร์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั่วโลก โดยจุดเริ่มต้นในระดับโลกของ OMODA 7 เป็นไปตามมาตรฐานทางเทคนิคในระดับสากล มาตรฐานคุณภาพ และมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงตั้งแต่ต้น มุ่งสานต่อความเชื่อมั่นและชื่อเสียงของ OMODA & JAECOO กับกลุ่มลูกค้ากว่า 200,000 รายทั่วโลก

การผสมผสานของสุนทรียภาพแห่งอนาคตและเทคโนโลยีดิจิทัลอัจฉริยะ

เพื่อดึงดูดผู้ขับขี่คนรุ่นใหม่ แบรนด์จำเป็นต้องเข้าใจความต้องการของพวกเขาอย่างลึกซึ้ง ส่งต่อความเข้าใจนี้ผ่านผลิตภัณฑ์ที่จับต้องต้องได้ สะท้อนผ่านตลอดเส้นทางการพัฒนา OMODA 7 ในทุกมิติ อาทิ ห้องโดยสารอัจฉริยะ สมรรถนะไดนามิก และระบบความปลอดภัยสูงสุด ในตลาดยานยนต์ OMODA ได้สร้างการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของ OMODA 7 ให้น่าหลงใหลตั้งแต่แรกเห็น โดยได้ใช้แนวคิด “Stylish 360°” มาออกแบบรถยนต์อย่างพิถีพิถันสะท้อนสไตล์ของผู้ขับขี่อย่างลงตัว ด้วยสัดส่วนไดนามิกที่สมบูรณ์แบบ มีรูปทรงโค้งต่ำผสานกับรูปทรงฟาสต์แบ็คที่ซับซ้อน สะท้อนรสนิยมด้านสุนทรียภาพของคนรุ่นใหม่ได้อย่างชัดเจน

OMODA 7 ประกอบด้วยฟีเจอร์สำคัญ อาทิ ห้องโดยสารอัจฉริยะความเร็วสูงแบบพิเศษ พร้อมด้วยหน้าจอเลื่อนขนาด 15.6 นิ้ว ที่จะทำให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสประสบการณ์ขั้นสุด ระบบเสียงแบบสมจริงพาโนรามาพร้อมลำโพง 12+2 ตัว และการปรับแต่งไฟระดับล้านเลเวล ที่จะมอบประสบการณ์เสียงคุณภาพเสมือนอยู่ในคอนเสิร์ตฮอลล์ มีการโต้ตอบด้วยเสียงทั้งสี่โซนเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารที่ครอบคลุมและแม่นยำ มีระบบกลิ่นหอมอัจฉริยะที่จับคู่กับระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ ENC ที่จะสร้างบรรยากาศการเดินทางให้สดชื่น ราบรื่น และสะดวกสบายได้อย่างสมบูรณ์แบบ

สำหรับคนรุ่นใหม่ที่หลงใหลในความเร็ว ต้องชื่นชอบสมรรถนะของระบบไดนามิกของ OMODA 7 อย่างแน่นอน ด้วยการออกแบบด้านสถาปัตยกรรมระบบส่งกำลังไฮบริดล่าสุด สามารถสร้างสมดุลระหว่างอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงกับประสบการณ์การขับขี่ได้อย่างลงตัว โดยมีโหมดประหยัดพลังงานขั้นสุด ที่ช่วยให้ OMODA 7 วิ่งได้ไกลถึง 1,200 กิโลเมตร เมื่อใช้น้ำมันและแบตเตอรี่เต็มประสิทธิภาพ สามารถพาผู้ขับขี่ไปถึงจุดหมายโดยไม่ต้องแวะชาร์จ ช่วยคลายความกังวลในการเดินทางลง นอกจากนี้ ยังมีนวัตกรรมระบบดูดซับพลังงาน เทคโนโลยีถุงลมนิรภัยแบบ 6S และความแข็งแรงของตัวถังที่ 25,000 นิวตันเมตรองศา (N·m/deg) ตรงตามมาตรฐานความปลอดภัย 5 ดาวระดับโลก ทำให้ผู้ขับขี่รุ่นใหม่มั่นใจได้ว่าจะสนุกกับการขับ OMODA 7 พร้อมกับได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่

เห็นได้ชัดเจนว่า OMODA 7 ถือเป็นยนตรกรรมที่ถูกพัฒนาและสร้างสรรค์ให้เป็นผลิตภัณฑ์แฟลกชิปสำคัญของ OMODA หลังจากการสำรวจประเด็นความต้องการของผู้ใช้งานคนรุ่นใหม่จริงอย่างแม่นยำแล้ว ได้นำมาพัฒนาสู่รถยนต์ที่มีสไตล์ล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น ผ่านห้องโดยสารอัจฉริยะ โหมดการควบคุมการขับขี่แบบเอ็กซ์ตรีม และระบบความปลอดภัยขั้นสูง พร้อมสร้างสรรค์ประสบการณ์การเดินทางที่ให้ความรู้สึกสัมผัสแห่งอนาคตแก่ผู้ขับขี่ สำหรับ OMODA 7 วางแผนจะเริ่มเปิดตัวทั่วโลกในปี 2025 ที่จะถึงนี้ โดย OMODA 7 นี้ จะมาเติมเต็มการขยายฐานผลิตภัณฑ์ของ OMODA เพื่อปูทางไปสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ขับเคลื่อนอนาคต และบรรลุมาตรฐานอุตสาหกรรมที่สูงขึ้นต่อไป

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!