By : C. Methas – Managing Editor
“รถยนต์คันแรกของโลก” ซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันในแวดวงบรรดา “กุนซือของซือแป๋” มากว่า 1 ศตวรรษจนถึงทุกวันนี้ว่า Gottlieb Daimler หรือ Karl Benz ประดิษฐ์สร้างรถยนต์สำเร็จเป็นคนแรก กันแน่ เนื่องจากการสื่อสารในช่วงปี ค.ศ. 1885 ยังไม่แพร่หลายและไม่มีการจดบันทึกอย่างเป็นระบบ
ก่อนจะมาเป็นรถยนต์ได้มีการสร้างเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบเบนซินขึ้นมาก่อนโดย Gottlieb Daimler และ Wilhelm Maybach ได้เริ่มคิดค้นพัฒนามาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1882 หลังจากประสบความสำเร็จในการประดิษฐ์สร้างเครื่องยนต์ที่มีน้ำหนักเบา, ขนาดเล็กกะทัดรัดและความเร็วรอบเครื่องยนต์สูงเป็นเครื่องแบบลูกสูบเดี่ยวและนำไปจดลิขสิทธิ์เมื่อวันที่ 3 เมษายน ปี ค.ศ. 1885 เครื่องรุ่นนี้ได้ชื่อว่า “Grandfather clock engine”
เครื่องยนต์ที่สร้างสำเร็จได้นำไปติดตั้งในรถแบบ 2 ล้อที่ปัจจุบันเรียกว่ามอเตอร์ไซค์ ซึ่งได้มีการบันทึกหลักฐานอย่างเป็นทางการว่าเป็นมอเตอร์ไซค์คันแรกของโลก ประดิษฐ์สร้างขึ้นที่เมืองสตุ๊ตการ์ตในเยอรมนีเมื่อปี ค.ศ. 1885 โดย Gottlieb Daimler (ได้รับสมญานามว่า “บิดาแห่งมอเตอร์ไซค์”) และ Wilhelm Maybach รถคันนี้ได้ชื่อว่า Reitwagen โดยมีชื่อเรียกอื่น ๆ เช่น Einspur, Fahrzeug mit gas bezw, Petroleum Kraftmaschine (รถสองล้อคันนี้ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่พิพิทธภัณฑ์ของเมอเซเดส-เบนซ์)
Reitwagen (Riding Car ในภาษาอังกฤษ) มอเตอร์ไซค์คันแรกของโลก รถสองล้อคันแรกของโลกที่ใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนเป็นเครื่องเบนซิน 4 จังหวะ ขนาด 264 ซีซี. แบบ 1 ลูกสูบ ความกว้างกระบอกสูบ 58 มิลลิเมตร ช่วงชัก 100 มิลลิเมตร ให้แรงม้าสูงสุด 0.5 แรงม้าหรือ 0.37 กิโลวัตต์ที่ 600 รอบต่อนาที
ระบบจุดระเบิดแบบ Hot tube ซึ่งมีปัญหาค่อนข้างมาก(ต่อมาได้มีการพัฒนาเป็นหัวเทียน) ระบบเกียร์แบบ 1 จังหวะ ส่งกำลังด้วยสายพาน ระบบจ่ายน้ำมันแบบคาร์บูเรเตอร์ ระบบวาล์วไอดีแบบหัวเห็ด ต่อมาได้พัฒนาเป็นระบบเกียร์ 2 จังหวะในปี ค.ศ. 1886 โดยมีเฟืองท้ายขับเคลื่อน
โครงสร้างตัวรถผลิตจากไม้และล้อผลิตจากไม้มีเหล็กครอบด้านนอกวงล้อและซี่ล้อทำจากไม้ รถสองล้อคันแรกนี้มีน้ำหนักรถ 198 ปอนด์หรือ 90 กิโลกรัม รถสองล้อคันนี้ติดเครื่องยนต์เบนซินที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องยนต์ที่ประดิษฐ์ขึ้นนี้ถือได้ว่าเป็นเครื่องยนต์ต้นแบบมาถึงทุกวันนี้ แต่ไม่มีขนาดความจุมากที่สามารถนำไปติดตั้งในสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า “รถยนต์” อันเนื่องมาจากการพัฒนาเครื่องยนต์จากแนวคิดให้มีขนาดกะทัดรัดให้เหมาะสมกับการนำไปใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
รถมอเตอร์ไซค์คันแรกของโลกได้ขับขี่โดย Paul Daimler บุตรชายของ Gottlieb Daimler วัย 17 ปีเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1885 เป็นระยะทาง 5-12 กิโลเมตรหรือ 3.1-7.5 ไมล์จากอู่ของ Gottlieb Daimler ที่เมือง Cannstatt ไปยังเมือง Unterturkheim ในสตุ๊ตการ์ต ทำความเร็วได้ประมาณ 7 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือ 11 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและเจอปัญหาเบาะที่นั่งเกิดไฟไหม้เนื่องจากระบบจุดระเบิดแบบ Hot Tube ติดตั้งไว้ใต้เบาะที่นั่ง
ในส่วนของแฮนด์หรือที่บังคับเลี้ยวได้พัฒนามีก้านเบรกซึ่งยังคงนำมาใช้จนถึงทุกวันนี้ ยุคแรกของแฮนด์หรือพวงมาลัยบังคับเลี้ยวสามารถบังคับเลี้ยวในระดับองศาที่จำกัดเนื่องจากมีข้อจำกัดในเรื่องของตัวถังรถและอุปกรณ์ชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่มีขนาดใหญ่ ต่อมาได้พัฒนาในสามารถบังคับเลี้ยวได้องศามากขึ้น
By : C. Methas - Managing Editor
“รถยนต์คันแรกของโลก” ซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันในแวดวงบรรดา "กุนซือของซือแป๋” มากว่า 1 ศตวรรษจนถึงทุกวันนี้ว่า Gottlieb Daimler หรือ Karl Benz ประดิษฐ์สร้างรถยนต์สำเร็จเป็นคนแรก กันแน่ เนื่องจากการสื่อสารในช่วงปี ค.ศ. 1885 ยังไม่แพร่หลายและไม่มีการจดบันทึกอย่างเป็นระบบ
ก่อนจะมาเป็นรถยนต์ได้มีการสร้างเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบเบนซินขึ้นมาก่อนโดย Gottlieb Daimler และ Wilhelm Maybach ได้เริ่มคิดค้นพัฒนามาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1882 หลังจากประสบความสำเร็จในการประดิษฐ์สร้างเครื่องยนต์ที่มีน้ำหนักเบา, ขนาดเล็กกะทัดรัดและความเร็วรอบเครื่องยนต์สูงเป็นเครื่องแบบลูกสูบเดี่ยวและนำไปจดลิขสิทธิ์เมื่อวันที่ 3 เมษายน ปี ค.ศ. 1885 เครื่องรุ่นนี้ได้ชื่อว่า “Grandfather clock engine”
เครื่องยนต์ที่สร้างสำเร็จได้นำไปติดตั้งในรถแบบ 2 ล้อที่ปัจจุบันเรียกว่ามอเตอร์ไซค์ ซึ่งได้มีการบันทึกหลักฐานอย่างเป็นทางการว่าเป็นมอเตอร์ไซค์คันแรกของโลก ประดิษฐ์สร้างขึ้นที่เมืองสตุ๊ตการ์ตในเยอรมนีเมื่อปี ค.ศ. 1885 โดย Gottlieb Daimler (ได้รับสมญานามว่า “บิดาแห่งมอเตอร์ไซค์”) และ Wilhelm Maybach รถคันนี้ได้ชื่อว่า Reitwagen โดยมีชื่อเรียกอื่น ๆ เช่น Einspur, Fahrzeug mit gas bezw, Petroleum Kraftmaschine (รถสองล้อคันนี้ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่พิพิทธภัณฑ์ของเมอเซเดส-เบนซ์)
Reitwagen (Riding Car ในภาษาอังกฤษ) มอเตอร์ไซค์คันแรกของโลก รถสองล้อคันแรกของโลกที่ใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนเป็นเครื่องเบนซิน 4 จังหวะ ขนาด 264 ซีซี. แบบ 1 ลูกสูบ ความกว้างกระบอกสูบ 58 มิลลิเมตร ช่วงชัก 100 มิลลิเมตร ให้แรงม้าสูงสุด 0.5 แรงม้าหรือ 0.37 กิโลวัตต์ที่ 600 รอบต่อนาที
ระบบจุดระเบิดแบบ Hot tube ซึ่งมีปัญหาค่อนข้างมาก(ต่อมาได้มีการพัฒนาเป็นหัวเทียน) ระบบเกียร์แบบ 1 จังหวะ ส่งกำลังด้วยสายพาน ระบบจ่ายน้ำมันแบบคาร์บูเรเตอร์ ระบบวาล์วไอดีแบบหัวเห็ด ต่อมาได้พัฒนาเป็นระบบเกียร์ 2 จังหวะในปี ค.ศ. 1886 โดยมีเฟืองท้ายขับเคลื่อน
โครงสร้างตัวรถผลิตจากไม้และล้อผลิตจากไม้มีเหล็กครอบด้านนอกวงล้อและซี่ล้อทำจากไม้ รถสองล้อคันแรกนี้มีน้ำหนักรถ 198 ปอนด์หรือ 90 กิโลกรัม รถสองล้อคันนี้ติดเครื่องยนต์เบนซินที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องยนต์ที่ประดิษฐ์ขึ้นนี้ถือได้ว่าเป็นเครื่องยนต์ต้นแบบมาถึงทุกวันนี้ แต่ไม่มีขนาดความจุมากที่สามารถนำไปติดตั้งในสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า “รถยนต์” อันเนื่องมาจากการพัฒนาเครื่องยนต์จากแนวคิดให้มีขนาดกะทัดรัดให้เหมาะสมกับการนำไปใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
รถมอเตอร์ไซค์คันแรกของโลกได้ขับขี่โดย Paul Daimler บุตรชายของ Gottlieb Daimler วัย 17 ปีเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1885 เป็นระยะทาง 5-12 กิโลเมตรหรือ 3.1-7.5 ไมล์จากอู่ของ Gottlieb Daimler ที่เมือง Cannstatt ไปยังเมือง Unterturkheim ในสตุ๊ตการ์ต ทำความเร็วได้ประมาณ 7 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือ 11 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและเจอปัญหาเบาะที่นั่งเกิดไฟไหม้เนื่องจากระบบจุดระเบิดแบบ Hot Tube ติดตั้งไว้ใต้เบาะที่นั่ง
ในส่วนของแฮนด์หรือที่บังคับเลี้ยวได้พัฒนามีก้านเบรกซึ่งยังคงนำมาใช้จนถึงทุกวันนี้ ยุคแรกของแฮนด์หรือพวงมาลัยบังคับเลี้ยวสามารถบังคับเลี้ยวในระดับองศาที่จำกัดเนื่องจากมีข้อจำกัดในเรื่องของตัวถังรถและอุปกรณ์ชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่มีขนาดใหญ่ ต่อมาได้พัฒนาในสามารถบังคับเลี้ยวได้องศามากขึ้น
