By : C. Methas – Managing Editor
หลังจากการก่อตั้งบริษัทผลิตรถยนต์ Rheinische Gasmotorenfabrik Benz & Cie เพื่อจำหน่ายเป็นครั้งแรกโดยรถยนต์รุ่น Victoria เป็นรุ่นแรก ส่วนรุ่น Velo เป็นรุ่นที่ 2 มีขบวนการผลิตที่เป็นแบบสายพานการผลิตเป็นครั้งแรกและมีมาตรฐานมากขึ้น
ต่อมา Karl Benz ได้ออกแบบรถบรรทุกติดเครื่องยนต์ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1895 ซึ่งเป็นรถบรรทุกคันแรกของโลก นอกจากนี้ทาง Rheinische Gasmotorenfabrik Benz & Cie ได้สร้างรถยนต์โดยสารค่ายแรกของโลกแต่ไม่ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ บริษัท Netphener Company ได้นำไปปรับแต่งพัฒนาใหม่เป็นรถยนต์โดยสารจนกลายเป็นรถยนต์โดยสารคันแรกของโลก
โรงงานผลิตรถยนต์ของ Karl Benz แห่งแรกที่เมือง Mannheim ไม่สามารถรองรับการผลิตรถยนต์ที่มีจำนวนมากขึ้นและได้ย้ายไปที่เมือง Waldhofstrasse ในปี ค.ศ. 1886 พนักงานมีเพิ่มขึ้นจากปี ค.ศ. 1889 ที่มีจำนวน 50 คนเพิ่มขึ้นเป็น 430 คนในปี ค.ศ. 1899 ช่วงปีสุดท้ายของศตวรรษที่ 19 บริษัทผลิตรถยนต์ Benz & Cie. มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วและได้กลายเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สามารถผลิตรถยนต์ได้ 572 คันในปี ค.ศ. 1899
เนื่องจากกิจการของ Benz & Cie. เติบโตอย่างรวดเร็วและมีขนาดใหญ่ขึ้น ต่อมาได้กลายเป็นบริษัทร่วมหุ้นโดย Friedrich von Fischer และ Julius GanB ได้เข้ามาเป็นคณะกรรมการบริหาร Julius GanB เข้ามาทำหน้าที่ฝ่ายการค้าซึ่งคล้ายกับการตลาดในสมัยนี้และได้มีการเสนอว่าทาง Benz ควรจะผลิตรถยนต์ราคาถูกเพื่อการผลิตในแบบสายพานการผลิต
รถยนต์รุ่น Velo ได้ส่งลงแข่งขันในรายการแข่งรถครั้งแรกของโลกเมื่อปี ค.ศ. 1894 เส้นทางจากกรุง Paris ไปยังเมือง Rouen ขับโดย Emile Roger เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 14 ระยะทางการแข่งขัน 127 กิโลเมตรหรือ 79 ไมล์ ทำเวลาได้ 10 ชั่วโมง 01 นาทีที่ความเร็วเฉลี่ย 12.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือ 7.9 ไมล์ต่อชั่วโมง
ปี ค.ศ. 1986 Karl Benz ได้รับสิทธิบัตรสำหรับการออกแบบเครื่องยนต์แบบบ๊อกเซอร์ ลูกสูบแนวนอนที่ออกแบบเพื่อผลทางด้านจุดศูนย์ถ่วงต่ำ เครื่องยนต์แบบ 4 สูบนอนยัน ปัจจุบันทางค่าย ปอร์เช่และซูบารุมีความโดดเด่นในการผลิตเครื่องยนต์แบบนอนยันโดยเฉพาะที่เน้นสมรรถนะสูงและได้นำไปติดตั้งสำหรับรถแข่งหลายรุ่น
ส่วนโฟลค์สวาเก้นรุ่น “เต่าทอง” ยุคแรกวางเครื่องยนต์แบบบ๊อกเซอร์ที่พัฒนาและออกแบบโดยเฟอร์ดินัน ปอร์เช่ผู้ก่อตั้งค่ายสปอร์ตปอร์เช่จากแนวความคิดของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์เพื่อให้เป็นรถยนต์สำหรับประชาชน ราคาถูก บำรุงรักษาง่ายและมีความทนทาน
เครื่องยนต์แบบนอนยันที่โด่งดังและมีชื่อเสียงมากเป็นเครื่องของ BMW นำไปติดตั้งในมอเตอร์ไซค์ ปัจจุบันเครื่องยนต์แบบนี้ได้ออกแบบนำไปติดตั้งในรถยนต์หลายรุ่นด้วยกัน ประกอบด้วย Zundapp, Wooler, Douglas Dragonfly, Ratier, Univeersal, IMZ-Ural, Dnepr, Gnome et Rhone, Chang Jiang, Marusho และ Honda Gold Wing
ความสำเร็จของ Karl Benz เริ่มถูกท้าทายเมื่อนักออกแบบอุตสาหกรรมหลักของ Daimler Motoren Gesellschaft (DMG) ได้ก่อตัวขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 1900 เมื่อ Wilhelm Maybach ได้สร้างเครื่องยนต์สำหรับรถแข่งได้สำเร็จจากการแนะนำของ Emil Jellinek ต้นตำนานของยี่ห้อ “เมอเซเดส” ที่มีความสนใจในเรื่องรถแข่งจนก่อกำเนิดรถแข่งรุ่นแรก Mercedes 35hp ที่เขาประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์หลายรายการ ต่อมาได้ทำสัญญาซื้อรถยนต์ 36 คันจาก Wilhelm Maybach เนื่องจากกิจการตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ของ Emil Jellinek เริ่มโด่งดังและขยายไปทั่วยุโรป
หลังจากผ่านการทดสอบ รถยนต์คันแรกของ Wilhelm Maybach ถูกส่งไปให้กับ Emil Jellinek เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ปี ค.ศ. 1900 เขาได้ให้คำแนะนำกับ Wilhelm Maybach เกี่ยวกับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรูปแบบและส่งผลที่ดีกว่าสำหรับการแข่งรถในไม่กี่ปีต่อมาซึ่งมีผลต่อกำลังใจกับ Wilhelm Maybach ที่ได้เข้าร่วมผลิตรถยนต์ในเชิงพาณิชย์ในปี ค.ศ. 1902
ปี ค.ศ. 1903 Karl Benz ได้สร้างเครื่องยนต์แนวตั้ง แบบ 2 ลูกสูบและนำไปติดตั้งในรถยนต์สามารถทำความเร็วสูงสุด 37 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในปีนี้เอง Karl Benz เกิดความขัดแย้งกับคณะกรรมการบริหาร หลังจากได้รับการว่าจ้างจากนักออกแบบชาวฝรั่งเศสโดยไม่ปรึกษากับทางคณะกรรมการบริหาร ประเทศฝรั่งเศสในช่วงนั้นเป็นฐานอุตสาหกรรมรถยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดภายใต้การสร้างสรรของ Maybach
จากความขัดแย้งนี้ หลังการอธิบายในสิ่งที่ยากยิ่ง Karl Benz ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายออกแบบเมื่อวันที่ 24 มกราคม ปี ค.ศ. 1903 แม้ว่าเขายังคงดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการคณะกรรมการบริหารของ DMG ในปี ค.ศ. 1926 และยังเป็นกรรมการบริหารของ Daimler-Benz หลังการควบกิจการระหว่าง Daimler กับ Benz จนกระทั่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1929
Eugen และ Richard ได้ออกจาก Benz & Cie. เมื่อปี ค.ศ. 1903 แต่ Richard ได้กลับเขามาทำงานในปีต่อมาในตำแหน่งนักออกแบบรถยนต์โดยสาร ในปีนั้นเอง Benz & Cie. สามารถทำยอดจำหน่ายรถยนต์ได้มากถึง 3,408 คันซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ที่ทำยอดจำหน่ายได้สูงที่สุดของอุตสาหกรรมรถยนต์ในยุคนั้น
ส่วนรถแข่งรุ่น Blitzen Benz สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1909 ที่โรงงานในเมือง Mannheim โดย Benz & Cie. วางเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ มีความจุมากถึง 21.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 200 แรงม้า เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1909 ทำสถิติความเร็วสูงสุดที่ Brooklands ด้วยตัวเลข 226.91 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือ 141.94 ไมล์ต่อชั่วโมง ขับโดย Victor Hemery ชาวฝรั่งเศส
การทำสถิติความเร็วสูงสุดทางรถยนต์ครั้งนี้เป็นความเร็วสูงสุดของโลกที่เร็วกว่าเครื่องบิน, เร็วกว่ารถไฟและเร็วกว่ารถยนต์ทุกรุ่น
รถแข่งที่ Karl Benz สร้างขึ้นได้ส่งลงแข่งขันในรายการยูโรเปี้ยน กรังด์ปรีซ์ ปี ค.ศ. 1923 รุ่น Tropfenwagen ตัวถังออกแบบเป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่เรียกว่า Teardrop เป็นรถแข่งรุ่นแรกที่วางเครื่องยนต์กลางลำ
ตอนต่อไปเป็นเรื่องราวของ Rudolf Diesel ผู้คิดค้นสร้างเครื่องยนต์ดีเซลได้สำเร็จเป็คนแรกของโลกเมื่อปี ค.ศ. 1897
By : C. Methas - Managing Editor
หลังจากการก่อตั้งบริษัทผลิตรถยนต์ Rheinische Gasmotorenfabrik Benz & Cie เพื่อจำหน่ายเป็นครั้งแรกโดยรถยนต์รุ่น Victoria เป็นรุ่นแรก ส่วนรุ่น Velo เป็นรุ่นที่ 2 มีขบวนการผลิตที่เป็นแบบสายพานการผลิตเป็นครั้งแรกและมีมาตรฐานมากขึ้น
ต่อมา Karl Benz ได้ออกแบบรถบรรทุกติดเครื่องยนต์ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1895 ซึ่งเป็นรถบรรทุกคันแรกของโลก นอกจากนี้ทาง Rheinische Gasmotorenfabrik Benz & Cie ได้สร้างรถยนต์โดยสารค่ายแรกของโลกแต่ไม่ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ บริษัท Netphener Company ได้นำไปปรับแต่งพัฒนาใหม่เป็นรถยนต์โดยสารจนกลายเป็นรถยนต์โดยสารคันแรกของโลก
โรงงานผลิตรถยนต์ของ Karl Benz แห่งแรกที่เมือง Mannheim ไม่สามารถรองรับการผลิตรถยนต์ที่มีจำนวนมากขึ้นและได้ย้ายไปที่เมือง Waldhofstrasse ในปี ค.ศ. 1886 พนักงานมีเพิ่มขึ้นจากปี ค.ศ. 1889 ที่มีจำนวน 50 คนเพิ่มขึ้นเป็น 430 คนในปี ค.ศ. 1899 ช่วงปีสุดท้ายของศตวรรษที่ 19 บริษัทผลิตรถยนต์ Benz & Cie. มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วและได้กลายเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สามารถผลิตรถยนต์ได้ 572 คันในปี ค.ศ. 1899
เนื่องจากกิจการของ Benz & Cie. เติบโตอย่างรวดเร็วและมีขนาดใหญ่ขึ้น ต่อมาได้กลายเป็นบริษัทร่วมหุ้นโดย Friedrich von Fischer และ Julius GanB ได้เข้ามาเป็นคณะกรรมการบริหาร Julius GanB เข้ามาทำหน้าที่ฝ่ายการค้าซึ่งคล้ายกับการตลาดในสมัยนี้และได้มีการเสนอว่าทาง Benz ควรจะผลิตรถยนต์ราคาถูกเพื่อการผลิตในแบบสายพานการผลิต
รถยนต์รุ่น Velo ได้ส่งลงแข่งขันในรายการแข่งรถครั้งแรกของโลกเมื่อปี ค.ศ. 1894 เส้นทางจากกรุง Paris ไปยังเมือง Rouen ขับโดย Emile Roger เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 14 ระยะทางการแข่งขัน 127 กิโลเมตรหรือ 79 ไมล์ ทำเวลาได้ 10 ชั่วโมง 01 นาทีที่ความเร็วเฉลี่ย 12.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือ 7.9 ไมล์ต่อชั่วโมง
ปี ค.ศ. 1986 Karl Benz ได้รับสิทธิบัตรสำหรับการออกแบบเครื่องยนต์แบบบ๊อกเซอร์ ลูกสูบแนวนอนที่ออกแบบเพื่อผลทางด้านจุดศูนย์ถ่วงต่ำ เครื่องยนต์แบบ 4 สูบนอนยัน ปัจจุบันทางค่าย ปอร์เช่และซูบารุมีความโดดเด่นในการผลิตเครื่องยนต์แบบนอนยันโดยเฉพาะที่เน้นสมรรถนะสูงและได้นำไปติดตั้งสำหรับรถแข่งหลายรุ่น
ส่วนโฟลค์สวาเก้นรุ่น “เต่าทอง” ยุคแรกวางเครื่องยนต์แบบบ๊อกเซอร์ที่พัฒนาและออกแบบโดยเฟอร์ดินัน ปอร์เช่ผู้ก่อตั้งค่ายสปอร์ตปอร์เช่จากแนวความคิดของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์เพื่อให้เป็นรถยนต์สำหรับประชาชน ราคาถูก บำรุงรักษาง่ายและมีความทนทาน
เครื่องยนต์แบบนอนยันที่โด่งดังและมีชื่อเสียงมากเป็นเครื่องของ BMW นำไปติดตั้งในมอเตอร์ไซค์ ปัจจุบันเครื่องยนต์แบบนี้ได้ออกแบบนำไปติดตั้งในรถยนต์หลายรุ่นด้วยกัน ประกอบด้วย Zundapp, Wooler, Douglas Dragonfly, Ratier, Univeersal, IMZ-Ural, Dnepr, Gnome et Rhone, Chang Jiang, Marusho และ Honda Gold Wing
ความสำเร็จของ Karl Benz เริ่มถูกท้าทายเมื่อนักออกแบบอุตสาหกรรมหลักของ Daimler Motoren Gesellschaft (DMG) ได้ก่อตัวขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 1900 เมื่อ Wilhelm Maybach ได้สร้างเครื่องยนต์สำหรับรถแข่งได้สำเร็จจากการแนะนำของ Emil Jellinek ต้นตำนานของยี่ห้อ “เมอเซเดส” ที่มีความสนใจในเรื่องรถแข่งจนก่อกำเนิดรถแข่งรุ่นแรก Mercedes 35hp ที่เขาประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์หลายรายการ ต่อมาได้ทำสัญญาซื้อรถยนต์ 36 คันจาก Wilhelm Maybach เนื่องจากกิจการตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ของ Emil Jellinek เริ่มโด่งดังและขยายไปทั่วยุโรป
หลังจากผ่านการทดสอบ รถยนต์คันแรกของ Wilhelm Maybach ถูกส่งไปให้กับ Emil Jellinek เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ปี ค.ศ. 1900 เขาได้ให้คำแนะนำกับ Wilhelm Maybach เกี่ยวกับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรูปแบบและส่งผลที่ดีกว่าสำหรับการแข่งรถในไม่กี่ปีต่อมาซึ่งมีผลต่อกำลังใจกับ Wilhelm Maybach ที่ได้เข้าร่วมผลิตรถยนต์ในเชิงพาณิชย์ในปี ค.ศ. 1902
ปี ค.ศ. 1903 Karl Benz ได้สร้างเครื่องยนต์แนวตั้ง แบบ 2 ลูกสูบและนำไปติดตั้งในรถยนต์สามารถทำความเร็วสูงสุด 37 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในปีนี้เอง Karl Benz เกิดความขัดแย้งกับคณะกรรมการบริหาร หลังจากได้รับการว่าจ้างจากนักออกแบบชาวฝรั่งเศสโดยไม่ปรึกษากับทางคณะกรรมการบริหาร ประเทศฝรั่งเศสในช่วงนั้นเป็นฐานอุตสาหกรรมรถยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดภายใต้การสร้างสรรของ Maybach
จากความขัดแย้งนี้ หลังการอธิบายในสิ่งที่ยากยิ่ง Karl Benz ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายออกแบบเมื่อวันที่ 24 มกราคม ปี ค.ศ. 1903 แม้ว่าเขายังคงดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการคณะกรรมการบริหารของ DMG ในปี ค.ศ. 1926 และยังเป็นกรรมการบริหารของ Daimler-Benz หลังการควบกิจการระหว่าง Daimler กับ Benz จนกระทั่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1929
Eugen และ Richard ได้ออกจาก Benz & Cie. เมื่อปี ค.ศ. 1903 แต่ Richard ได้กลับเขามาทำงานในปีต่อมาในตำแหน่งนักออกแบบรถยนต์โดยสาร ในปีนั้นเอง Benz & Cie. สามารถทำยอดจำหน่ายรถยนต์ได้มากถึง 3,408 คันซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ที่ทำยอดจำหน่ายได้สูงที่สุดของอุตสาหกรรมรถยนต์ในยุคนั้น
ส่วนรถแข่งรุ่น Blitzen Benz สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1909 ที่โรงงานในเมือง Mannheim โดย Benz & Cie. วางเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ มีความจุมากถึง 21.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 200 แรงม้า เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1909 ทำสถิติความเร็วสูงสุดที่ Brooklands ด้วยตัวเลข 226.91 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือ 141.94 ไมล์ต่อชั่วโมง ขับโดย Victor Hemery ชาวฝรั่งเศส การทำสถิติความเร็วสูงสุดทางรถยนต์ครั้งนี้เป็นความเร็วสูงสุดของโลกที่เร็วกว่าเครื่องบิน, เร็วกว่ารถไฟและเร็วกว่ารถยนต์ทุกรุ่น
รถแข่งที่ Karl Benz สร้างขึ้นได้ส่งลงแข่งขันในรายการยูโรเปี้ยน กรังด์ปรีซ์ ปี ค.ศ. 1923 รุ่น Tropfenwagen ตัวถังออกแบบเป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่เรียกว่า Teardrop เป็นรถแข่งรุ่นแรกที่วางเครื่องยนต์กลางลำ
ตอนต่อไปเป็นเรื่องราวของ Rudolf Diesel ผู้คิดค้นสร้างเครื่องยนต์ดีเซลได้สำเร็จเป็คนแรกของโลกเมื่อปี ค.ศ. 1897
