By : C. Methas – Managing Editor
Edward Butler นักประดิษฐ์ชาวอังกฤษได้สร้างรถยนต์แบบ 3 ล้อติดเครื่องยนต์ก่อน Karl Benz เป็นเวลา 2 ปีโดยเปิดตัวในรูปแบบของแม่แบบของการออกแบบครั้งแรกที่ Stanley Cycle Show ในกรุงลอนดอน เมื่อปีค.ศ. 1884 รถคันนี้มีชื่อเรียกว่า Butler Petrol Cycle และต่อมาได้เป็นต้นแบบจำนวนมากสำหรับการผลิตรถยนต์ในเวลาต่อมาในประเทศอังกฤษ
ในปีค.ศ. 1885 Butler ได้นำแม่แบบรถยนต์ที่ออกแบบขึ้นเป็นครั้งแรกและสร้างเป็นรูปเป็นร่างสำเร็จและนำออกแสดงในงาน Inventions Exhibition ที่กรุงลอนดอนอีกครั้งโดยทาง Butler เป็นผู้ออกแบบและให้ทางบริษัท Merryweather Fire Engine เป็นผู้ผลิตสร้างขึ้นโดยบริษัทผลิตเครื่องยนต์รายนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Greenwich เครื่องยนต์ติดตั้งไว้ตรงกลาง ส่งกำลังขับเคลื่อนไปยังล้อหลัง
เครื่องยนต์ แบบ 2 ลูกสูบนอนยัน ขนาด 600 ซีซี. ให้แรงม้าสูงสุด 5/8 แรงม้า เป็นเครื่องยนต์ 4 จังหวะ ระบบจุดระเบิดแบบแม็กเนโตที่ได้พัฒนามาแทนระบบคอยและแบตเตอรี่ ส่วนระบบวาล์วเป็นแบบโรตารี่ วาล์ว จ่ายเชื้อเพลิงด้วยคาร์บูเรเตอร์ซึ่งได้พัฒนามาก่อน Maybach ถึง 5 ปีและระบบพวงมาลัยเป็นแบบ Ackermann Steering ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบแรงอัดอากาศและระบบระบายความร้อนด้วยน้ำโดยมีหม้อน้ำติดตั้งไว้ด้านท้าย
รถรุ่นนี้ไม่มีระบบเบรก การหยุดรถใช้วิธีการชะลอความเร็วและใช้เท้าควบคุมล้อหลัง ต่อมาทาง Edward Butler ได้พัฒนาทางด้านเทคนิคให้สามารถทำความเร็วมากขึ้นโดยทำความเร็วได้ 2 ไมล์ต่อชั่วโมงสำหรับการขับขี่ในเมืองและได้เพิ่มไปเป็น 4 ไมล์ต่อชั่วโมงสำหรับการขับขี่นอกเมือง ในยุคนั้นยังคงใช้สัญญาณธงแดงให้คนวิ่งนำหน้ารถยนต์ตามกฎหมาย Red Flag Act. ที่ออกมาในปีค.ศ. 1865
Edward Butler ได้ขายลิขสิทธิ์รถยนต์คันนี้ไปให้กับ Harry J. Lawson ซึ่งต่อมาได้นำไปพัฒนาผลิตเครื่องยนต์สำหรับเรือ เรื่องราวของ Edward Butler เกี่ยวกับการประดิษฐ์รถยนต์แบบ 3 ล้อติดเครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นครั้งแรกไม่ค่อยเป็นที่เผยแพร่กันมากนัก เนื่องจากไม่ได้มีการผลิตเพื่อขายซึ่งแตกต่างกับทาง Gottlieb Daimler, Wilhelm Maybach และ Karl Benz โดยได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นสิ่งประดิษฐ์ยุคสมัยใหม่ที่เป็นแม่แบบและนำออกแสดงในเชิงวิชาการ
ในช่วงแรกทาง Butler ไม่ได้จดลิขสิทธิ์รถยนต์ดังกล่าว จนกระทั่งปีค.ศ. 1887 จึงได้จดลิขสิทธิ์ตามกฏหมายของอังกฤษ ต่อมา Butler ได้พัฒนาเครื่องยนต์ แบบลูกสูบแนวตั้งเป็นเครื่องยนต์ แบบ 3 สูบ ให้แรงม้าสูงสุด 80 แรงม้าและมีน้ำหนักมากถึงครึ่งตัน
ต่อมาภายหลังการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการทำความเร็วทางรถไฟและรถยนต์ใหม่ในปีค.ศ. 1896 ที่ให้ทำความเร็วสูงสุดเพิ่มไปเป็น 14 ไมล์ต่อชั่วโมงส่งผลให้มีการพัฒนาเครื่องยนต์และรถยนต์ในประเทศอังกฤษในเวลาต่อมา
ส่วนเรื่องราวของสองพี่น้องตระกูล Duryea ที่ได้ผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาโดยเป็นรถยนต์ที่ติดเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ได้พัฒนามาจากผู้ผลิตรถจักรยานมาก่อน Charles Duryea และ Frank Duryea ได้เริ่มในความสนใจต่อเครื่องยนต์สันดาปภายในและการสร้างรถยนต์หลังจากประสบความสำเร็จจากการผลิตจักรยานจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาในยุคแรกและได้กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายเป็นรายแรกในสหรัฐอเมริกา
เมื่อวันที่ 20 เดือนกันยายน ปีค.ศ. 1893 ได้สร้างรถยนต์สำเร็จเป็นครั้งแรกเป็นรถยนต์วางเครื่องยนต์แบบ 1 ลูกสูบ เกียร์ธรรมดา 3 จังหวะและได้ออกทำการวิ่งทดสอบไปตามท้องถนนสาธารณะของเมืองสปริงฟิลด์ มลรัฐแมสซาจูเซททส์ สามารถทำความเร็วสูงสุด 7.5 ไมล์ต่อชั่วโมง
ปีต่อมาได้พัฒนารถยนต์คันที่ 2 ขึ้น วางเครื่องยนต์ แบบ 2 ลูกสูบและได้ลงแข่งในวันขอบคุณพระเจ้า เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ปีค.ศ. 1895 โดยได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Chicago Times-Herald โดยขับขี่เป็นระยะทาง 54 ไมล์จากกลางเมืองชิคาโกไปยังเมืองอีแวนสตันและย้อนกลับมายังเมืองชิคาโก
ต่อมาได้ก่อตั้งบริษัทผลิตรถยนต์ขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปีค.ศ. 1896 ใช้ชื่อว่า Duryea Motor Wagon Company และได้ผลิตรถยนต์ออกวางจำหน่ายโดยติดเครื่องยนต์แบบเบนซินและขายเป็นคันแรกไปเมื่อเดือนมีนาคม ปีค.ศ. 1896 ในปีแรกสามารถขายรถได้ 13 คันซึ่งได้กลายเป็นบริษัทที่ผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายเป็นรายแรกในอเมริกา หลังจากนั้นอีก 2 เดือนรถยนต์จากค่ายนี้ได้กลายเป็นรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุครั้งแรกในอเมริกาหลังจาก Henry Wells ที่ซื้อรถยนต์จากค่ายนี้ได้ขับรถไปชนจักรยานที่กรุงนิวยอร์ค ผู้ขี่จักรยานขาหักและ Henry Wells ต้องเข้าไปใช้ชีวิตในคุกในคืนนั้น
ค่าย Duryea ได้สั่งซื้อเครื่องยนต์จาก Karl Benz แบบ 3 ลูกสูบเบนซินมาสร้างรถแข่งคันใหม่โดยลงแข่งขันเป็นเวลากว่า 10 ชั่วโมงในสภาพอากาศหนาว ขับโดย Frank Duryea สามารถเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ทำความเร็วเฉลี่ย 7.3 ไมล์ต่อชั่วโมง ในระหว่างการแข่งขันได้ซ่อมแซมรถไปตลอดทางเมื่อรถมีปัญหาทางเทคนิคและชิ้นส่วนเสียหาย การคว้าแชมป์ครั้งนี้ Frank Duryea คว้ารางวัลเป็นเงิน 2,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ และเขาได้กลายเป็นแชมป์นักแข่งรถคนแรกของสหรัฐอเมริกา
By : C. Methas - Managing Editor
Edward Butler นักประดิษฐ์ชาวอังกฤษได้สร้างรถยนต์แบบ 3 ล้อติดเครื่องยนต์ก่อน Karl Benz เป็นเวลา 2 ปีโดยเปิดตัวในรูปแบบของแม่แบบของการออกแบบครั้งแรกที่ Stanley Cycle Show ในกรุงลอนดอน เมื่อปีค.ศ. 1884 รถคันนี้มีชื่อเรียกว่า Butler Petrol Cycle และต่อมาได้เป็นต้นแบบจำนวนมากสำหรับการผลิตรถยนต์ในเวลาต่อมาในประเทศอังกฤษ
ในปีค.ศ. 1885 Butler ได้นำแม่แบบรถยนต์ที่ออกแบบขึ้นเป็นครั้งแรกและสร้างเป็นรูปเป็นร่างสำเร็จและนำออกแสดงในงาน Inventions Exhibition ที่กรุงลอนดอนอีกครั้งโดยทาง Butler เป็นผู้ออกแบบและให้ทางบริษัท Merryweather Fire Engine เป็นผู้ผลิตสร้างขึ้นโดยบริษัทผลิตเครื่องยนต์รายนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Greenwich เครื่องยนต์ติดตั้งไว้ตรงกลาง ส่งกำลังขับเคลื่อนไปยังล้อหลัง
เครื่องยนต์ แบบ 2 ลูกสูบนอนยัน ขนาด 600 ซีซี. ให้แรงม้าสูงสุด 5/8 แรงม้า เป็นเครื่องยนต์ 4 จังหวะ ระบบจุดระเบิดแบบแม็กเนโตที่ได้พัฒนามาแทนระบบคอยและแบตเตอรี่ ส่วนระบบวาล์วเป็นแบบโรตารี่ วาล์ว จ่ายเชื้อเพลิงด้วยคาร์บูเรเตอร์ซึ่งได้พัฒนามาก่อน Maybach ถึง 5 ปีและระบบพวงมาลัยเป็นแบบ Ackermann Steering ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบแรงอัดอากาศและระบบระบายความร้อนด้วยน้ำโดยมีหม้อน้ำติดตั้งไว้ด้านท้าย
รถรุ่นนี้ไม่มีระบบเบรก การหยุดรถใช้วิธีการชะลอความเร็วและใช้เท้าควบคุมล้อหลัง ต่อมาทาง Edward Butler ได้พัฒนาทางด้านเทคนิคให้สามารถทำความเร็วมากขึ้นโดยทำความเร็วได้ 2 ไมล์ต่อชั่วโมงสำหรับการขับขี่ในเมืองและได้เพิ่มไปเป็น 4 ไมล์ต่อชั่วโมงสำหรับการขับขี่นอกเมือง ในยุคนั้นยังคงใช้สัญญาณธงแดงให้คนวิ่งนำหน้ารถยนต์ตามกฎหมาย Red Flag Act. ที่ออกมาในปีค.ศ. 1865
Edward Butler ได้ขายลิขสิทธิ์รถยนต์คันนี้ไปให้กับ Harry J. Lawson ซึ่งต่อมาได้นำไปพัฒนาผลิตเครื่องยนต์สำหรับเรือ เรื่องราวของ Edward Butler เกี่ยวกับการประดิษฐ์รถยนต์แบบ 3 ล้อติดเครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นครั้งแรกไม่ค่อยเป็นที่เผยแพร่กันมากนัก เนื่องจากไม่ได้มีการผลิตเพื่อขายซึ่งแตกต่างกับทาง Gottlieb Daimler, Wilhelm Maybach และ Karl Benz โดยได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นสิ่งประดิษฐ์ยุคสมัยใหม่ที่เป็นแม่แบบและนำออกแสดงในเชิงวิชาการ
ในช่วงแรกทาง Butler ไม่ได้จดลิขสิทธิ์รถยนต์ดังกล่าว จนกระทั่งปีค.ศ. 1887 จึงได้จดลิขสิทธิ์ตามกฏหมายของอังกฤษ ต่อมา Butler ได้พัฒนาเครื่องยนต์ แบบลูกสูบแนวตั้งเป็นเครื่องยนต์ แบบ 3 สูบ ให้แรงม้าสูงสุด 80 แรงม้าและมีน้ำหนักมากถึงครึ่งตัน
ต่อมาภายหลังการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการทำความเร็วทางรถไฟและรถยนต์ใหม่ในปีค.ศ. 1896 ที่ให้ทำความเร็วสูงสุดเพิ่มไปเป็น 14 ไมล์ต่อชั่วโมงส่งผลให้มีการพัฒนาเครื่องยนต์และรถยนต์ในประเทศอังกฤษในเวลาต่อมา
ส่วนเรื่องราวของสองพี่น้องตระกูล Duryea ที่ได้ผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาโดยเป็นรถยนต์ที่ติดเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ได้พัฒนามาจากผู้ผลิตรถจักรยานมาก่อน Charles Duryea และ Frank Duryea ได้เริ่มในความสนใจต่อเครื่องยนต์สันดาปภายในและการสร้างรถยนต์หลังจากประสบความสำเร็จจากการผลิตจักรยานจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาในยุคแรกและได้กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายเป็นรายแรกในสหรัฐอเมริกา
เมื่อวันที่ 20 เดือนกันยายน ปีค.ศ. 1893 ได้สร้างรถยนต์สำเร็จเป็นครั้งแรกเป็นรถยนต์วางเครื่องยนต์แบบ 1 ลูกสูบ เกียร์ธรรมดา 3 จังหวะและได้ออกทำการวิ่งทดสอบไปตามท้องถนนสาธารณะของเมืองสปริงฟิลด์ มลรัฐแมสซาจูเซททส์ สามารถทำความเร็วสูงสุด 7.5 ไมล์ต่อชั่วโมง
ปีต่อมาได้พัฒนารถยนต์คันที่ 2 ขึ้น วางเครื่องยนต์ แบบ 2 ลูกสูบและได้ลงแข่งในวันขอบคุณพระเจ้า เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ปีค.ศ. 1895 โดยได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Chicago Times-Herald โดยขับขี่เป็นระยะทาง 54 ไมล์จากกลางเมืองชิคาโกไปยังเมืองอีแวนสตันและย้อนกลับมายังเมืองชิคาโก
ต่อมาได้ก่อตั้งบริษัทผลิตรถยนต์ขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปีค.ศ. 1896 ใช้ชื่อว่า Duryea Motor Wagon Company และได้ผลิตรถยนต์ออกวางจำหน่ายโดยติดเครื่องยนต์แบบเบนซินและขายเป็นคันแรกไปเมื่อเดือนมีนาคม ปีค.ศ. 1896 ในปีแรกสามารถขายรถได้ 13 คันซึ่งได้กลายเป็นบริษัทที่ผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายเป็นรายแรกในอเมริกา หลังจากนั้นอีก 2 เดือนรถยนต์จากค่ายนี้ได้กลายเป็นรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุครั้งแรกในอเมริกาหลังจาก Henry Wells ที่ซื้อรถยนต์จากค่ายนี้ได้ขับรถไปชนจักรยานที่กรุงนิวยอร์ค ผู้ขี่จักรยานขาหักและ Henry Wells ต้องเข้าไปใช้ชีวิตในคุกในคืนนั้น
ค่าย Duryea ได้สั่งซื้อเครื่องยนต์จาก Karl Benz แบบ 3 ลูกสูบเบนซินมาสร้างรถแข่งคันใหม่โดยลงแข่งขันเป็นเวลากว่า 10 ชั่วโมงในสภาพอากาศหนาว ขับโดย Frank Duryea สามารถเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ทำความเร็วเฉลี่ย 7.3 ไมล์ต่อชั่วโมง ในระหว่างการแข่งขันได้ซ่อมแซมรถไปตลอดทางเมื่อรถมีปัญหาทางเทคนิคและชิ้นส่วนเสียหาย การคว้าแชมป์ครั้งนี้ Frank Duryea คว้ารางวัลเป็นเงิน 2,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ และเขาได้กลายเป็นแชมป์นักแข่งรถคนแรกของสหรัฐอเมริกา
