The Legends of Automobile-ตอนที่ 73 Porsche ปอร์เช่ 911 สปอร์ตในตำนานวางเครื่องนอนยันด้านหลัง/ขับหลัง (ภาคที่ 5)


By : C. Methas – Managing Editor

สปอร์ตของปอร์เช่นับตั้งแต่รุ่นแรกได้ออกแบบเครื่องยนต์เป็นแบบสูบนอนยันหรือบ๊อกเซอร์ ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ วางเครื่องยนต์ไว้ด้านท้าย ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ส่วนรูปลักษณ์ภายนอกเน้นในเรื่องของหลักอากาศพลศาสตร์ ด้านหน้าโค้งมนและเส้นสายโค้งหลังคาลาดเอียงลงด้านท้ายจนได้สมญานามว่า “เจ้าชายกบ” จนถึงปัจจุบันเนื่องจากสปอร์ตจากค่ายปอร์เช่แห่งเมืองสตุ๊ตการ์ตรุ่นใหม่ ๆ ยังคงเอกลักษณ์คลาสสิค

ภายหลังจากเฟอร์ดินันด์ ปอร์เช่ถูกปล่อยออกจากที่คุมขังในฝรั่งเศสเขาได้เดินทางกลับบ้านเกิดที่ประเทศออสเตรียและได้เริ่มผลิตรถสปอร์ตจนประสบความสำเร็จอย่างสูงกับรุ่น 356 ที่มีให้เลือกทั้งแบบสปอร์ตคูเป้และสปอร์ตเปิดประทุนซึ่งได้ผลิตออกมาหลากหลายเวอร์ชั่นและหลายรูปแบบด้วยกันนับสิบรุ่นรวมทั้งรถแข่งแบบที่นั่งเดี่ย จนกระทั่งได้ยุติสายการผลิตตระกูล 356 โดยรุ่นสุดท้ายที่ออกมาในปี 1965 เป็นรุ่น 356SC

จากการที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจนโรงงานในออสเตรียไม่สามารถรองรับการผลิตได้เนื่องจากมีขนาดเล็กเกินไปจึงได้เดินทางไปยังเยอรมนีที่เมืองสตุ๊ตการ์ตและได้ขยายโรงงานการผลิตพร้อมกับจัดระบบขบวนการผลิตแบบสมัยใหม่มากขึ้นสามารถผลิตรถยนต์ได้ 100 คันต่อปีในปีแรกและต่อมาได้มีการขยายการผลิตเพิ่มขึ้นไปถึง 77,776 คันใน 15 ปีต่อมา

หลังจากประสบความสำเร็จกับสปอร์ตตระกูล 356 เฟอร์ดินันด์ อเล็กซานเดอร์บุตรชายคนแรกของเขามีแนวคิดที่จะพัฒนารถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่ใช้เทคโนโลยี่สมัยใหม่ แต่ยังคงเอกลักษณ์ของปอร์เช่ไว้ทั้งในเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกที่เป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์และวางเครื่องยนต์แบบสูบนอนยันไว้ด้านท้าย ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง

ในที่สุดปีค.ศ. 1960 ปอร์เช่ ตระกูล 911 ก็ได้รับการตัดสินใจในเรื่องของรูปแบบและรูปทรงภายนอกที่ออกแบบอยู่หลายปีออกมาเป็นสปอร์ตสไตล์แฮทชแบ็ค ขนาด 2+2 ที่นั่ง
ค่ายผลิตสปอร์ตปอร์เช่เป็นบริษัทผลิตรถยนต์แบบครอบครัว นอกจากบุตรชายคนแรกเป็นผู้มีบทบาทอย่างมากแล้ว หลานชายของเขาเฟอร์ดินันด์ เพี๊ยซได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาและควบคุมดำเนินการสปอร์ตตระกูล 911 และท้ายที่สุดปอร์เช่ 911 ได้รับการวางเครื่องยนต์ที่ร้อนแรงกว่ารุ่น 356 โดยเป็นเครื่องยนต์แบบ 6 สูบนอนยันภายใต้โครงการ 901 ซึ่งเริ่มขึ้นในปีค.ศ. 1962

ปอร์เช่ 911 รุ่นแรกออกมาในปีค.ศ. 1964 ถือว่าเป็นศักราชใหม่ของค่ายปอร์เช่ผลิตออกมาทั้งหมด 232 คัน ภายในห้องโดยสารกว้างขวางกว่ารุ่น 356 เครื่องยนต์พัฒนาและออกแบบโดยเฟอร์ดินันด์ เพี๊ยซ ส่วนเฟอร์ดินันท์ ปอร์เช่ดูแลในเรื่องของโครงสร้างแชสซีส์และตัวถัง ส่งผลให้สปอร์ตคูเป้รุ่นนี้มีความยาวฐานล้อยาวขึ้นและรูปลักษณ์ภายนอกเป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์มากขึ้น

ปอร์เช่ 911 รุ่นแรกได้เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่มหกรรมแสดงรถยนต์แฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ในปีค.ศ. 1963 ใช้รหัสรุ่น 901 ซึ่งต่อมาได้กลายมาเป็นรุ่น 911 และเข้าสู่สายการผลิตครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน ปีค.ศ. 1964 โดย 82 คันแรกใช้รหัสรุ่น 901 และอีก 150 คันแรกใช้ชื่อรุ่น 911 ที่ผลิตในปีค.ศ. 1964 และได้ยุติการผลิตลงในปีค.ศ. 1969
ปอร์เช่ 911 รุ่นแรกตั้งราคาเริ่มต้นไว้ที่ 6,500 ดอลล่าร์สหรัฐฯ วางเครื่องยนต์ ขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบนอนยัน ขับแรงม้าสูงสุด 128 แรงม้าที่ 6,100 รอบต่อนาทีและให้แรงบิดสูงสุด 129 ปอนด์-ฟุตที่ 4,200 รอบต่อนาที มีความกว้างกระบอกสูบ 80 มิลลิเมตรและช่วงชัก 66 มิลลิเมตร ระบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ

ต่อมาในปีค.ศ. 1965 ได้มีการพัฒนาทั้งในส่วนของเครื่องยนต์ รูปลักษณ์ภายนอกและภายในห้องโดยสารที่นำลวดลายไม้มาตกแต่งเสริมความงดงามที่แผงหน้าปัดรวมทั้งติดตั้งระบบเครื่องเสียง วิทยุคลื่นสั้น เอ.เอ็มและเอฟ.เอ็ม มีระบบทำความอุ่น

เครื่องยนต์ที่ติดตั้งร้อนแรงกว่ารุ่นปีค.ศ. 1964 เป็นเครื่องยนต์แบบ 6 สูบนอนยัน ขนาด 2.0 ลิตร เพลาราวลิ้นเดี่ยวเหนือฝาสูบ วางเครื่องยนต์ด้านท้าย ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง
สปอร์ตตระกูล 911 ของปอร์เช่ได้ออกมาหลายรูปแบบและที่โดดเด่นเป็นพิเศษในเรื่องของการออกแบบโดยได้เปิดตัวรุ่น Targa แบบเปิดประทุนที่ยังมีโครงการหลังคาแต่ไม่มีเพียงแผ่นหลังคาเท่านั้นซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ด้านการออกแบบจนได้ชื่อว่าสปอร์ตเปิดประทุนที่มีความปลอดภัยสูงขึ้น

By : C. Methas - Managing Editor

สปอร์ตของปอร์เช่นับตั้งแต่รุ่นแรกได้ออกแบบเครื่องยนต์เป็นแบบสูบนอนยันหรือบ๊อกเซอร์ ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ วางเครื่องยนต์ไว้ด้านท้าย ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ส่วนรูปลักษณ์ภายนอกเน้นในเรื่องของหลักอากาศพลศาสตร์ ด้านหน้าโค้งมนและเส้นสายโค้งหลังคาลาดเอียงลงด้านท้ายจนได้สมญานามว่า “เจ้าชายกบ” จนถึงปัจจุบันเนื่องจากสปอร์ตจากค่ายปอร์เช่แห่งเมืองสตุ๊ตการ์ตรุ่นใหม่ ๆ ยังคงเอกลักษณ์คลาสสิค

ภายหลังจากเฟอร์ดินันด์ ปอร์เช่ถูกปล่อยออกจากที่คุมขังในฝรั่งเศสเขาได้เดินทางกลับบ้านเกิดที่ประเทศออสเตรียและได้เริ่มผลิตรถสปอร์ตจนประสบความสำเร็จอย่างสูงกับรุ่น 356 ที่มีให้เลือกทั้งแบบสปอร์ตคูเป้และสปอร์ตเปิดประทุนซึ่งได้ผลิตออกมาหลากหลายเวอร์ชั่นและหลายรูปแบบด้วยกันนับสิบรุ่นรวมทั้งรถแข่งแบบที่นั่งเดี่ย จนกระทั่งได้ยุติสายการผลิตตระกูล 356 โดยรุ่นสุดท้ายที่ออกมาในปี 1965 เป็นรุ่น 356SC

จากการที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจนโรงงานในออสเตรียไม่สามารถรองรับการผลิตได้เนื่องจากมีขนาดเล็กเกินไปจึงได้เดินทางไปยังเยอรมนีที่เมืองสตุ๊ตการ์ตและได้ขยายโรงงานการผลิตพร้อมกับจัดระบบขบวนการผลิตแบบสมัยใหม่มากขึ้นสามารถผลิตรถยนต์ได้ 100 คันต่อปีในปีแรกและต่อมาได้มีการขยายการผลิตเพิ่มขึ้นไปถึง 77,776 คันใน 15 ปีต่อมา

หลังจากประสบความสำเร็จกับสปอร์ตตระกูล 356 เฟอร์ดินันด์ อเล็กซานเดอร์บุตรชายคนแรกของเขามีแนวคิดที่จะพัฒนารถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่ใช้เทคโนโลยี่สมัยใหม่ แต่ยังคงเอกลักษณ์ของปอร์เช่ไว้ทั้งในเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกที่เป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์และวางเครื่องยนต์แบบสูบนอนยันไว้ด้านท้าย ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง

ในที่สุดปีค.ศ. 1960 ปอร์เช่ ตระกูล 911 ก็ได้รับการตัดสินใจในเรื่องของรูปแบบและรูปทรงภายนอกที่ออกแบบอยู่หลายปีออกมาเป็นสปอร์ตสไตล์แฮทชแบ็ค ขนาด 2+2 ที่นั่ง ค่ายผลิตสปอร์ตปอร์เช่เป็นบริษัทผลิตรถยนต์แบบครอบครัว นอกจากบุตรชายคนแรกเป็นผู้มีบทบาทอย่างมากแล้ว หลานชายของเขาเฟอร์ดินันด์ เพี๊ยซได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาและควบคุมดำเนินการสปอร์ตตระกูล 911 และท้ายที่สุดปอร์เช่ 911 ได้รับการวางเครื่องยนต์ที่ร้อนแรงกว่ารุ่น 356 โดยเป็นเครื่องยนต์แบบ 6 สูบนอนยันภายใต้โครงการ 901 ซึ่งเริ่มขึ้นในปีค.ศ. 1962

ปอร์เช่ 911 รุ่นแรกออกมาในปีค.ศ. 1964 ถือว่าเป็นศักราชใหม่ของค่ายปอร์เช่ผลิตออกมาทั้งหมด 232 คัน ภายในห้องโดยสารกว้างขวางกว่ารุ่น 356 เครื่องยนต์พัฒนาและออกแบบโดยเฟอร์ดินันด์ เพี๊ยซ ส่วนเฟอร์ดินันท์ ปอร์เช่ดูแลในเรื่องของโครงสร้างแชสซีส์และตัวถัง ส่งผลให้สปอร์ตคูเป้รุ่นนี้มีความยาวฐานล้อยาวขึ้นและรูปลักษณ์ภายนอกเป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์มากขึ้น

ปอร์เช่ 911 รุ่นแรกได้เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่มหกรรมแสดงรถยนต์แฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ในปีค.ศ. 1963 ใช้รหัสรุ่น 901 ซึ่งต่อมาได้กลายมาเป็นรุ่น 911 และเข้าสู่สายการผลิตครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน ปีค.ศ. 1964 โดย 82 คันแรกใช้รหัสรุ่น 901 และอีก 150 คันแรกใช้ชื่อรุ่น 911 ที่ผลิตในปีค.ศ. 1964 และได้ยุติการผลิตลงในปีค.ศ. 1969 ปอร์เช่ 911 รุ่นแรกตั้งราคาเริ่มต้นไว้ที่ 6,500 ดอลล่าร์สหรัฐฯ วางเครื่องยนต์ ขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบนอนยัน ขับแรงม้าสูงสุด 128 แรงม้าที่ 6,100 รอบต่อนาทีและให้แรงบิดสูงสุด 129 ปอนด์-ฟุตที่ 4,200 รอบต่อนาที มีความกว้างกระบอกสูบ 80 มิลลิเมตรและช่วงชัก 66 มิลลิเมตร ระบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ

ต่อมาในปีค.ศ. 1965 ได้มีการพัฒนาทั้งในส่วนของเครื่องยนต์ รูปลักษณ์ภายนอกและภายในห้องโดยสารที่นำลวดลายไม้มาตกแต่งเสริมความงดงามที่แผงหน้าปัดรวมทั้งติดตั้งระบบเครื่องเสียง วิทยุคลื่นสั้น เอ.เอ็มและเอฟ.เอ็ม มีระบบทำความอุ่น

เครื่องยนต์ที่ติดตั้งร้อนแรงกว่ารุ่นปีค.ศ. 1964 เป็นเครื่องยนต์แบบ 6 สูบนอนยัน ขนาด 2.0 ลิตร เพลาราวลิ้นเดี่ยวเหนือฝาสูบ วางเครื่องยนต์ด้านท้าย ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง สปอร์ตตระกูล 911 ของปอร์เช่ได้ออกมาหลายรูปแบบและที่โดดเด่นเป็นพิเศษในเรื่องของการออกแบบโดยได้เปิดตัวรุ่น Targa แบบเปิดประทุนที่ยังมีโครงการหลังคาแต่ไม่มีเพียงแผ่นหลังคาเท่านั้นซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ด้านการออกแบบจนได้ชื่อว่าสปอร์ตเปิดประทุนที่มีความปลอดภัยสูงขึ้น

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!