By : C. Methas – Managing Editor
ค่ายผลิตสปอร์ตสมรรถนะสูงแห่งสตุ๊ตการ์ต, เยอรมนีนอกจากมีตำนานความเป็นมาจากการผลิต “รถยนต์เพื่อประชาชน” หรือโฟล์คเต่าทอง แต่ยังผลิตเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบิน, ผลิตรถยนต์แบบออฟโรด, รถถังและจรวดช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
นอกจากนี้ยังผลิตรถแข่งออกมาหลายรุ่นด้วยกันที่ประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ทั้งรายการทางเรียบและคว้าแชมป์ในศึกแรลลี่หฤโหด รวมทั้งผลิตรถสปอร์ตระดับหรูหราสมรรถนะสูงระดับซูเปอร์คาร์อย่างรุ่น 550 ที่ชื่อว่า Little Bastard ซึ่งทำให้เจมส์ ไบรอน ดีนหรือเจมส์ ดีนดาราดังประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 กันยายน ปีค.ศ. 1955 ที่แยกเมืองโซเลม แคลิฟอร์เนีย
เจมส์ ดีนดารานักแสดงชาวอเมริกันที่คว้ารางวัลลูกโลกทองคำหลังจากเขาเสียชีวิตไปแล้ว 1 ปีซึ่งเป็นนักแสดงคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในขณะที่เสียชีวิตไปแล้ว
ส่วนอุบัติเหตุที่ทำให้เขาเสียชีวิตในครั้งนั้นเขาได้ขับรถสปอร์ตเปิดประทุนของปอร์เช่ รุ่น 550 Spyder สีเงินไปกับช่างยนต์ของเขา Rolf Wutherich ไปชนกับรถยนต์ฟอร์ด รุ่น Tudor ขับโดย Donald Turnupseed นักศึกษาวิทยาลัยโปลีเทคนิคแห่งแคลิฟอร์เนียวัย 23 ปี
เจมส์ ดีนเป็นคนที่ชื่นชอบในการแข่งรถและในวันที่เกิดอุบัติเหตุเขาได้ขับรถจากลอส แองเจลีสเพื่อไปแข่งรถที่เมืองซาลีน่าห์ แคลิฟอร์เนีย ห่างออกไปทางตอนใต้ของซาน ฟรานซิสโก 90 ไมล์ ขณะที่ขับอยู่บนถนนสาย 466 ที่เมืองโชเลม รถของนักศึกษาคนดังกล่าวได้ขับตัดหน้าเนื่องจากมองไม่เห็นรถของเจมส์ ดีนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามทำให้รถชนกันอย่างรุนแรงและเจมส์ ดีนได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเมื่อเวลา 17.59 นาฬิกาขณะมีอายุเพียง 24 ปีเท่านั้น
สำหรับสปอร์ตของปอร์เช่นอกจากโดดเด่นในเรื่องของรูปแบบวางเครื่องยนต์ด้านท้าย ระบบขับเคลื่อนล้อหลังแล้วยังมีรุ่นที่วางเครื่องด้านหน้า ระบบขับเคลื่อนล้อหลังรุ่น 928 ที่ได้กลายเป็นรถสปอร์ตรุ่นแรกที่คว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี
ในปีค.ศ. 1956 ปอร์เช่ได้เปิดตัวรถยนต์แบบออฟโรดรุ่น 597 Jagdwagen ที่มีความหมายว่า “รถนักล่า” ภายหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นเวลา 10 ที่กองทัพเยอรมนีได้ให้ทางปอร์เช่ผลิตรถยนต์สำหรับใช้ทางการทหารเป็นรถแบบรถจี๊ฟน้ำหนักเบา ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ระบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ วางเครื่องยนต์ แบบ 4 สูบนอนยัน ขนาด 1.6 ลิตร รีดแรงม้าได้ 60 แรงม้าที่ 4,500 รอบต่อนาทีและให้แรงบิดสูงสุด 81 ปอนด์-ฟุตที่ 2,800 รอบต่อนาที รถรุ่นนี้ผลิตออกมาทั้งหมดรวม 4,201 คันแบ่งออกเป็นรถยนต์สำหรับบุคลลทั่วไป 49 คัน
ส่วนรถแข่งประเภทแรลลี่หฤโหดทางปอร์เช่ได้ส่งลงแข่งขันในรายการดักการ์ แรลลี่เป็นสปอร์ตรุ่น 959 ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาผลิตสร้างบนพื้นฐานของรุ่น 911 ซึ่งรถสปอร์ตรุ่นนี้ได้ส่งลงแข่งขันในศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมง
เครื่องยนต์สำหรับเครื่องบินที่ผลิตโดยปอร์เช่เป็นเครื่องยนต์รหัส PFM 3200 ติดตั้งในเครื่องบินเล็ก รุ่น Mooney M20L แบบ 6 สูบนอนยัน ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศที่พัฒนาต่อเนื่องมาจากเครื่องยนต์ที่วางไว้ในสปอร์ตรุ่น 911
หลังจากตลาดรถสปอร์ตอเนกประสงค์เฟื่องฟูหลายค่ายรถยนต์ได้หันมาผลิตรถยนต์ประเภทดังกล่าว ปอร์เช่ก็เช่นกันได้เปิดตัวรุ่น Cayenne ที่ยังคงเน้นความร้อนแรงสไตล์สปอร์ตเช่นเดียวกับรูปลักษณ์ภายนอกที่คงสไตล์คลาสสิคของ “เจ้าชายกบ” ไว้อย่างเหนียวแน่นเช่นเดียวกับต่อมาที่ได้ผลิตรถยนต์แบบสปอร์ตซีดานระดับหรูหรา รุ่น Panamera ซึ่งเป็นการรุกตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคลลระดับหรูหรา
ปัจจุบันปอร์เช่ได้ถูกกลุ่มโฟล์คสวาเก้นเข้าไปเจรจาเพื่อซื้อกิจการตั้งแต่ปี ค.ศ. 2008 และการเจรจาสรุปลงได้ในปี ค.ศ. 2011 ซึ่งเป็นการรวมกิจการของทั้งสองค่ายที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ยุคเริ่มแรกโดยใช้เวลาในการเจรจาถึง 4 ปีและทางค่ายโฟล์คสวาเก้นตั้งเป้าหมายก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 ของอุตสาหกรรมยานยนต์โลกภายในปีค.ศ. 2018 โดยก่อนหน้านี้ทางค่ายปอร์เช่พยายามที่จะเข้าไปซื้อกิจการของโฟล์คสวาเก้นมาก่อนตั้งแต่ปีค.ศ. 2005
By : C. Methas - Managing Editor
ค่ายผลิตสปอร์ตสมรรถนะสูงแห่งสตุ๊ตการ์ต, เยอรมนีนอกจากมีตำนานความเป็นมาจากการผลิต “รถยนต์เพื่อประชาชน” หรือโฟล์คเต่าทอง แต่ยังผลิตเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบิน, ผลิตรถยนต์แบบออฟโรด, รถถังและจรวดช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
นอกจากนี้ยังผลิตรถแข่งออกมาหลายรุ่นด้วยกันที่ประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ทั้งรายการทางเรียบและคว้าแชมป์ในศึกแรลลี่หฤโหด รวมทั้งผลิตรถสปอร์ตระดับหรูหราสมรรถนะสูงระดับซูเปอร์คาร์อย่างรุ่น 550 ที่ชื่อว่า Little Bastard ซึ่งทำให้เจมส์ ไบรอน ดีนหรือเจมส์ ดีนดาราดังประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 กันยายน ปีค.ศ. 1955 ที่แยกเมืองโซเลม แคลิฟอร์เนีย
เจมส์ ดีนดารานักแสดงชาวอเมริกันที่คว้ารางวัลลูกโลกทองคำหลังจากเขาเสียชีวิตไปแล้ว 1 ปีซึ่งเป็นนักแสดงคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในขณะที่เสียชีวิตไปแล้ว
ส่วนอุบัติเหตุที่ทำให้เขาเสียชีวิตในครั้งนั้นเขาได้ขับรถสปอร์ตเปิดประทุนของปอร์เช่ รุ่น 550 Spyder สีเงินไปกับช่างยนต์ของเขา Rolf Wutherich ไปชนกับรถยนต์ฟอร์ด รุ่น Tudor ขับโดย Donald Turnupseed นักศึกษาวิทยาลัยโปลีเทคนิคแห่งแคลิฟอร์เนียวัย 23 ปี
เจมส์ ดีนเป็นคนที่ชื่นชอบในการแข่งรถและในวันที่เกิดอุบัติเหตุเขาได้ขับรถจากลอส แองเจลีสเพื่อไปแข่งรถที่เมืองซาลีน่าห์ แคลิฟอร์เนีย ห่างออกไปทางตอนใต้ของซาน ฟรานซิสโก 90 ไมล์ ขณะที่ขับอยู่บนถนนสาย 466 ที่เมืองโชเลม รถของนักศึกษาคนดังกล่าวได้ขับตัดหน้าเนื่องจากมองไม่เห็นรถของเจมส์ ดีนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามทำให้รถชนกันอย่างรุนแรงและเจมส์ ดีนได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเมื่อเวลา 17.59 นาฬิกาขณะมีอายุเพียง 24 ปีเท่านั้น
สำหรับสปอร์ตของปอร์เช่นอกจากโดดเด่นในเรื่องของรูปแบบวางเครื่องยนต์ด้านท้าย ระบบขับเคลื่อนล้อหลังแล้วยังมีรุ่นที่วางเครื่องด้านหน้า ระบบขับเคลื่อนล้อหลังรุ่น 928 ที่ได้กลายเป็นรถสปอร์ตรุ่นแรกที่คว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี
ในปีค.ศ. 1956 ปอร์เช่ได้เปิดตัวรถยนต์แบบออฟโรดรุ่น 597 Jagdwagen ที่มีความหมายว่า “รถนักล่า” ภายหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นเวลา 10 ที่กองทัพเยอรมนีได้ให้ทางปอร์เช่ผลิตรถยนต์สำหรับใช้ทางการทหารเป็นรถแบบรถจี๊ฟน้ำหนักเบา ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ระบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ วางเครื่องยนต์ แบบ 4 สูบนอนยัน ขนาด 1.6 ลิตร รีดแรงม้าได้ 60 แรงม้าที่ 4,500 รอบต่อนาทีและให้แรงบิดสูงสุด 81 ปอนด์-ฟุตที่ 2,800 รอบต่อนาที รถรุ่นนี้ผลิตออกมาทั้งหมดรวม 4,201 คันแบ่งออกเป็นรถยนต์สำหรับบุคลลทั่วไป 49 คัน
ส่วนรถแข่งประเภทแรลลี่หฤโหดทางปอร์เช่ได้ส่งลงแข่งขันในรายการดักการ์ แรลลี่เป็นสปอร์ตรุ่น 959 ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาผลิตสร้างบนพื้นฐานของรุ่น 911 ซึ่งรถสปอร์ตรุ่นนี้ได้ส่งลงแข่งขันในศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมง
เครื่องยนต์สำหรับเครื่องบินที่ผลิตโดยปอร์เช่เป็นเครื่องยนต์รหัส PFM 3200 ติดตั้งในเครื่องบินเล็ก รุ่น Mooney M20L แบบ 6 สูบนอนยัน ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศที่พัฒนาต่อเนื่องมาจากเครื่องยนต์ที่วางไว้ในสปอร์ตรุ่น 911
หลังจากตลาดรถสปอร์ตอเนกประสงค์เฟื่องฟูหลายค่ายรถยนต์ได้หันมาผลิตรถยนต์ประเภทดังกล่าว ปอร์เช่ก็เช่นกันได้เปิดตัวรุ่น Cayenne ที่ยังคงเน้นความร้อนแรงสไตล์สปอร์ตเช่นเดียวกับรูปลักษณ์ภายนอกที่คงสไตล์คลาสสิคของ “เจ้าชายกบ” ไว้อย่างเหนียวแน่นเช่นเดียวกับต่อมาที่ได้ผลิตรถยนต์แบบสปอร์ตซีดานระดับหรูหรา รุ่น Panamera ซึ่งเป็นการรุกตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคลลระดับหรูหรา
ปัจจุบันปอร์เช่ได้ถูกกลุ่มโฟล์คสวาเก้นเข้าไปเจรจาเพื่อซื้อกิจการตั้งแต่ปี ค.ศ. 2008 และการเจรจาสรุปลงได้ในปี ค.ศ. 2011 ซึ่งเป็นการรวมกิจการของทั้งสองค่ายที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ยุคเริ่มแรกโดยใช้เวลาในการเจรจาถึง 4 ปีและทางค่ายโฟล์คสวาเก้นตั้งเป้าหมายก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 ของอุตสาหกรรมยานยนต์โลกภายในปีค.ศ. 2018 โดยก่อนหน้านี้ทางค่ายปอร์เช่พยายามที่จะเข้าไปซื้อกิจการของโฟล์คสวาเก้นมาก่อนตั้งแต่ปีค.ศ. 2005
