By : C. Methas – Managing Editor
Austin Seven รถยนต์คันแรกของมินิได้ผลิตออกมาระหว่างปีค.ศ. 1959-1961 ออกมา 2 รุ่นด้วยกัน Basic และ De Luxe มีสีสันให้เลือก 3 สี ประกอบด้วยสีเทา Farina Grey, สีแดง Tartan Red และสีน้ำเงิน Speedwell Blue วางเครื่องยนต์ ขนาด 848 ซีซี. ตั้งราคาเริ่มต้นไว้ที่ 497 ปอนด์สำหรับรุ่น Basic และราคา 537 ปอนด์สำหรับรุ่น De Luxe
ในปีค.ศ. 1965 รถมินิ คันที่ 1 ล้านได้คลอดออกจากสายพานการผลิตที่ BMC(British Motor Corporation) ต่อมาในปีค.ศ. 1968 รถมินิกลับโด่งดังมากขึ้นไปอีก เมื่อค่ายผลิตภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่พาราเม้าท์ได้นำรถมินิไปเข้าฉากภาพยนตร์เรื่อง Italian Jop แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะของรถมินิ โดยโจรในคราบของผู้ดี ได้ขับรถมินิ 3 คัน ปล้นทองและขับหนีตำรวจอย่างผาดโผน จนก่อให้เกิดความคลั่งไคล้มินิขึ้นทั่วโลก
ปีค.ศ. 1986 รถมินิคันที่ 5 ล้านได้คลอดออกจากสายพานการผลิตที่โรงงานในลองบริดจ์ ก่อนหน้านี้ 1 ปี ค่ายโรเวอร์ ได้เข้ามาดูแลการจัดจำหน่ายรถมินิและได้ส่งไปจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นก่อนที่ในปีค.ศ. 1988 Sir Alec Issigonis ผู้ออกแบบรถมินิได้เสียชีวิตลงด้วยวัย 81 ปี
รถมินิได้พัฒนาออกไปหลากหลายรูปแบบและในที่สุดรูปแบบของสปอร์ตเปิดประทุนออกแบบพัฒนาขึ้นโดยสำนักแต่ง Karmann แห่งเยอรมนี
ความโด่งดังอันน่าทึ่งในสนามแข่งซึ่งรถมินิได้รับการตกแต่งเสริมสมรรถนะจากจอห์น คูเปอร์ เกิดที่เซอร์เรย์ ประเทศอังกฤษเมื่อปีค.ศ. 1923 นักแข่งรถและเป็นเจ้าของ John Cooper Garage ที่ก่อตั้งเมื่อปีค.ศ. 1946
สำนักโมดิฟายรถยนต์ชื่อดังในยุคนั้นได้นำรถมินิไปโมดิฟายใหม่ทั้งคัน เนื่องจากเป็นรถที่มีขนาดกะทัดรัด คล่องตัวสูง การยึดเกาะถนนดีเยี่ยมและการควบคุมการขับขี่ดี
จอห์น คูเปอร์ได้โมดิฟายเครื่องยนต์และระบบกันสะเทือนให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและได้ใช้ชื่อว่า Mini Cooper ซึ่งยังคงเป็นตำนานที่ได้รับการสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน ผลงานอันน่าอัศจรรย์ของมินิในช่วงเริ่มแรกเป็นการเอาชนะรถสปอร์ตสมรรถนะสูงอย่างแอสตัน มาร์ติน รุ่น DB4ได้อย่างเหลือเชื่อจากการประลองความเร็วในแบบนอกรอบที่สนามแข่งมอนซ่า ประเทศอิตาลี ก่อนการแข่งขันในรายการกรังด์ปรัซ์
มินิรุ่นนั้นวางเครื่องยนต์ ขนาด 1,071 ซีซี. 70 แรงม้า เข้าเส้นชัยได้ก่อน DB4 จนเป็นตำนานของ “แจ็คผู้ฆ่ายักษ์” ก่อนที่จะไปคว้าแชมป์ในรายการมอนติ คาร์โล แรลลี่
By : C. Methas - Managing Editor
Austin Seven รถยนต์คันแรกของมินิได้ผลิตออกมาระหว่างปีค.ศ. 1959-1961 ออกมา 2 รุ่นด้วยกัน Basic และ De Luxe มีสีสันให้เลือก 3 สี ประกอบด้วยสีเทา Farina Grey, สีแดง Tartan Red และสีน้ำเงิน Speedwell Blue วางเครื่องยนต์ ขนาด 848 ซีซี. ตั้งราคาเริ่มต้นไว้ที่ 497 ปอนด์สำหรับรุ่น Basic และราคา 537 ปอนด์สำหรับรุ่น De Luxe
ในปีค.ศ. 1965 รถมินิ คันที่ 1 ล้านได้คลอดออกจากสายพานการผลิตที่ BMC(British Motor Corporation) ต่อมาในปีค.ศ. 1968 รถมินิกลับโด่งดังมากขึ้นไปอีก เมื่อค่ายผลิตภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่พาราเม้าท์ได้นำรถมินิไปเข้าฉากภาพยนตร์เรื่อง Italian Jop แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะของรถมินิ โดยโจรในคราบของผู้ดี ได้ขับรถมินิ 3 คัน ปล้นทองและขับหนีตำรวจอย่างผาดโผน จนก่อให้เกิดความคลั่งไคล้มินิขึ้นทั่วโลก
ปีค.ศ. 1986 รถมินิคันที่ 5 ล้านได้คลอดออกจากสายพานการผลิตที่โรงงานในลองบริดจ์ ก่อนหน้านี้ 1 ปี ค่ายโรเวอร์ ได้เข้ามาดูแลการจัดจำหน่ายรถมินิและได้ส่งไปจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นก่อนที่ในปีค.ศ. 1988 Sir Alec Issigonis ผู้ออกแบบรถมินิได้เสียชีวิตลงด้วยวัย 81 ปี
รถมินิได้พัฒนาออกไปหลากหลายรูปแบบและในที่สุดรูปแบบของสปอร์ตเปิดประทุนออกแบบพัฒนาขึ้นโดยสำนักแต่ง Karmann แห่งเยอรมนี
ความโด่งดังอันน่าทึ่งในสนามแข่งซึ่งรถมินิได้รับการตกแต่งเสริมสมรรถนะจากจอห์น คูเปอร์ เกิดที่เซอร์เรย์ ประเทศอังกฤษเมื่อปีค.ศ. 1923 นักแข่งรถและเป็นเจ้าของ John Cooper Garage ที่ก่อตั้งเมื่อปีค.ศ. 1946
สำนักโมดิฟายรถยนต์ชื่อดังในยุคนั้นได้นำรถมินิไปโมดิฟายใหม่ทั้งคัน เนื่องจากเป็นรถที่มีขนาดกะทัดรัด คล่องตัวสูง การยึดเกาะถนนดีเยี่ยมและการควบคุมการขับขี่ดี
จอห์น คูเปอร์ได้โมดิฟายเครื่องยนต์และระบบกันสะเทือนให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและได้ใช้ชื่อว่า Mini Cooper ซึ่งยังคงเป็นตำนานที่ได้รับการสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน ผลงานอันน่าอัศจรรย์ของมินิในช่วงเริ่มแรกเป็นการเอาชนะรถสปอร์ตสมรรถนะสูงอย่างแอสตัน มาร์ติน รุ่น DB4ได้อย่างเหลือเชื่อจากการประลองความเร็วในแบบนอกรอบที่สนามแข่งมอนซ่า ประเทศอิตาลี ก่อนการแข่งขันในรายการกรังด์ปรัซ์
มินิรุ่นนั้นวางเครื่องยนต์ ขนาด 1,071 ซีซี. 70 แรงม้า เข้าเส้นชัยได้ก่อน DB4 จนเป็นตำนานของ “แจ็คผู้ฆ่ายักษ์” ก่อนที่จะไปคว้าแชมป์ในรายการมอนติ คาร์โล แรลลี่
