UNITED KINGDOM-ดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน อดีตศูนย์กลางธุรกิจใหญ่ที่สุดในโลก (ตอนที่ 2)


By : C. Methas – Managing Edition

สหราชอาณาจักรหรือประเทศอังกฤษในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของโลกเป็นเวลายาวนานหลายปีในประวัติศาสตร์เนื่องจากเป็นประเทศที่มีอาณานิคมอยู่ทั่วโลก มีมหานครลอนดอนเป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรป

ลอนดอนเมืองหลวงของประเทศอังกฤษเป็นหนึ่งในศูนย์กลางสำคัญทางธุรกิจ การเมือง ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของโลก เป็นผู้นำด้านการเงินการเมือง การสื่อสาร การบันเทิง แฟชั่น และศิลปะ และเป็นที่ยอมรับว่ามีอิทธิพลไปทั่วโลก ถือกันว่าเป็นเมืองสากลหลักของโลก ลอนดอน เป็นเมืองหลวงของแคว้นอังกฤษ และสหราชอาณาจักร เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรป ชื่อ ลอนดอน คาดว่ามาจากเมืองที่ตั้งในสมัยโรมันว่า ลอนดิเนียม (Londinium) และต่อมาได้กลายมาเป็นลอนดอนในภายหลัง

ลอนดอนมีประชาการประมาณ 7.5 ล้านคน (เมื่อ พ.ศ. 2549) และประมาณ 12 – 14 ล้านคน  ถ้ารวมเขตปริมณฑล ลอนดอนเป็นเมืองที่ประกอบด้วยหลายชนชาติ ประชากรมีความหลากหลายทั้งด้านเชื้อชาติ วัฒนธรรม ศาสนา และภาษา มีมากกว่า 300 ภาษา 

กรุงลอนดอนเป็นศูนย์กลางการเดินทางนานาชาติ และเป็นจุดหมายท่องเที่ยวที่สำคัญ ซึ่งมีทั้งสถาปัตยกรรมสมัยใหม่และสมัยเก่าที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี ท่าอากาศยานนานาชาติฮีทโธรว์เป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของกรุงลอนดอน

ลอนดอนประสบเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1666 ส่งผลให้เลข 666 กลายเป็นเลขแห่งโชคร้าย ต้องใช้เวลา 10 ปี สำหรับการสร้างเมืองใหม่  กรุงลอนดอนยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกในคริสต์ศตวรรษที่ 19

อังกฤษและสกอตแลนด์ต่างก่อตั้งประเทศขึ้นมาในคริสต์ศตวรรษที่ 10 ส่วนเวลส์ได้อยู่ใต้การปกครองของอังกฤษจาก ในปี พ.ศ. 1827 (ค.ศ. 1284) จากนั้น อังกฤษและสกอตแลนด์ได้รวมตัวกันเป็นราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ (Kingdom of Great Britain) เนื่องจากสกอตแลนด์ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างหนัก

ราชอาณาจักรไอร์แลนด์ได้รวมเข้ากับราชอาณาจักรอังกฤษ และเปลี่ยนเป็นชื่อใหม่เป็นสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์  อันเนื่องมาจากไอร์แลนด์เคยเป็นประเทศราชของอังกฤษมาตั้งแต่ พ.ศ. 1712 (ค.ศ. 1169) ถึง พ.ศ. 2234 (ค.ศ. 1691)

ในปี พ.ศ. 2465 (ค.ศ. 1922) 26 แคว้นจาก 32 แคว้นบนเกาะไอร์แลนด์ตัดสินใจที่จะเป็นอิสระ ไม่ขึ้นกับสหราชอาณาจักร และตั้งเป็นประเทศใหม่เป็นประเทศไอร์แลนด์ หลังจากนั้นอีก 7 ปี 6 แคว้นที่เหลือได้เข้ามารวมตัวกับสหราชอาณาจักรดังเดิม และตั้งชื่อแคว้นของตนเองเป็น ไอร์แลนด์เหนือ

สหราชอาณาจักรใช้ระบอบการปกครองแบบพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ มีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าคณะรัฐบาล คณะรัฐมนตรีจากสภาคาบิเนต Cabinet สำหรับรัฐสภาแบ่งเป็น 2 สภา คือ สภาขุนนาง (House of Lords) เป็นสภาสูงที่มาจากการแต่งตั้ง และสภาผู้แทนราษฎร (House of Commons) เป็นสภาล่างที่มาจากการเลือกตั้ง

กรุงลอนดอนมีเครือข่ายการคมนาคมที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลายาวนานกว่า 100 ปี ระบบขนส่งทางรถไฟใต้ดินของกรุงลอนดอนไปที่ระบบไฟฟ้าที่มีเครือข่ายโยงใยต่อเนื่องไปทั่วกรุงลอนดอนซึ่งรพไฟใต้ดินของกรุงลอนดอนมีความเก่าแก่ที่สุดในโลก โดยเริ่มเปิดใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มกราคม ปี พ.ศ. 2406 หรือ ค.ศ. 1863

รถไฟใต้ดินในกรุงลอนดอนมีสถานีทั้งหมดรวม 274 สถานี มีระยะทางรวม 4.6 กิโลเมตร มีผู้ใช้บริการประมาณ 2.7 ล้านคนต่อวัน

ส่วนรถโดยสารของกรุงลอนดอนมีเอกลักษณ์เฉพาะพิเศษซึ่งเป็นรถสองชั้นสีสันตัวรถเป็นสีแดง มีชื่อว่า The Routemaster ได้เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1950 หรือราว 67 ปีที่แล้ว ปัจจุบันได้เลิกให้การบริการ เนื่องจากมีระบบขนส่งมวลชนที่มีความทันสมัยกว่าและสะดวกรวดเร็วกว่า โดยเลิกให้บริการเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ค.ศ. 2005 แต่ยังคงมีการอนุรักษ์ไว้โดยในบริการในเส้นทางท่องเที่ยวบางแห่ง

By : C. Methas - Managing Edition

สหราชอาณาจักรหรือประเทศอังกฤษในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของโลกเป็นเวลายาวนานหลายปีในประวัติศาสตร์เนื่องจากเป็นประเทศที่มีอาณานิคมอยู่ทั่วโลก มีมหานครลอนดอนเป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรป

ลอนดอนเมืองหลวงของประเทศอังกฤษเป็นหนึ่งในศูนย์กลางสำคัญทางธุรกิจ การเมือง ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของโลก เป็นผู้นำด้านการเงินการเมือง การสื่อสาร การบันเทิง แฟชั่น และศิลปะ และเป็นที่ยอมรับว่ามีอิทธิพลไปทั่วโลก ถือกันว่าเป็นเมืองสากลหลักของโลก ลอนดอน เป็นเมืองหลวงของแคว้นอังกฤษ และสหราชอาณาจักร เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรป ชื่อ ลอนดอน คาดว่ามาจากเมืองที่ตั้งในสมัยโรมันว่า ลอนดิเนียม (Londinium) และต่อมาได้กลายมาเป็นลอนดอนในภายหลัง

ลอนดอนมีประชาการประมาณ 7.5 ล้านคน (เมื่อ พ.ศ. 2549) และประมาณ 12 - 14 ล้านคน  ถ้ารวมเขตปริมณฑล ลอนดอนเป็นเมืองที่ประกอบด้วยหลายชนชาติ ประชากรมีความหลากหลายทั้งด้านเชื้อชาติ วัฒนธรรม ศาสนา และภาษา มีมากกว่า 300 ภาษา 

กรุงลอนดอนเป็นศูนย์กลางการเดินทางนานาชาติ และเป็นจุดหมายท่องเที่ยวที่สำคัญ ซึ่งมีทั้งสถาปัตยกรรมสมัยใหม่และสมัยเก่าที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี ท่าอากาศยานนานาชาติฮีทโธรว์เป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของกรุงลอนดอน

ลอนดอนประสบเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1666 ส่งผลให้เลข 666 กลายเป็นเลขแห่งโชคร้าย ต้องใช้เวลา 10 ปี สำหรับการสร้างเมืองใหม่  กรุงลอนดอนยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกในคริสต์ศตวรรษที่ 19

อังกฤษและสกอตแลนด์ต่างก่อตั้งประเทศขึ้นมาในคริสต์ศตวรรษที่ 10 ส่วนเวลส์ได้อยู่ใต้การปกครองของอังกฤษจาก ในปี พ.ศ. 1827 (ค.ศ. 1284) จากนั้น อังกฤษและสกอตแลนด์ได้รวมตัวกันเป็นราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ (Kingdom of Great Britain) เนื่องจากสกอตแลนด์ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างหนัก

ราชอาณาจักรไอร์แลนด์ได้รวมเข้ากับราชอาณาจักรอังกฤษ และเปลี่ยนเป็นชื่อใหม่เป็นสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์  อันเนื่องมาจากไอร์แลนด์เคยเป็นประเทศราชของอังกฤษมาตั้งแต่ พ.ศ. 1712 (ค.ศ. 1169) ถึง พ.ศ. 2234 (ค.ศ. 1691)

ในปี พ.ศ. 2465 (ค.ศ. 1922) 26 แคว้นจาก 32 แคว้นบนเกาะไอร์แลนด์ตัดสินใจที่จะเป็นอิสระ ไม่ขึ้นกับสหราชอาณาจักร และตั้งเป็นประเทศใหม่เป็นประเทศไอร์แลนด์ หลังจากนั้นอีก 7 ปี 6 แคว้นที่เหลือได้เข้ามารวมตัวกับสหราชอาณาจักรดังเดิม และตั้งชื่อแคว้นของตนเองเป็น ไอร์แลนด์เหนือ

สหราชอาณาจักรใช้ระบอบการปกครองแบบพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ มีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าคณะรัฐบาล คณะรัฐมนตรีจากสภาคาบิเนต Cabinet สำหรับรัฐสภาแบ่งเป็น 2 สภา คือ สภาขุนนาง (House of Lords) เป็นสภาสูงที่มาจากการแต่งตั้ง และสภาผู้แทนราษฎร (House of Commons) เป็นสภาล่างที่มาจากการเลือกตั้ง

กรุงลอนดอนมีเครือข่ายการคมนาคมที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลายาวนานกว่า 100 ปี ระบบขนส่งทางรถไฟใต้ดินของกรุงลอนดอนไปที่ระบบไฟฟ้าที่มีเครือข่ายโยงใยต่อเนื่องไปทั่วกรุงลอนดอนซึ่งรพไฟใต้ดินของกรุงลอนดอนมีความเก่าแก่ที่สุดในโลก โดยเริ่มเปิดใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มกราคม ปี พ.ศ. 2406 หรือ ค.ศ. 1863

รถไฟใต้ดินในกรุงลอนดอนมีสถานีทั้งหมดรวม 274 สถานี มีระยะทางรวม 4.6 กิโลเมตร มีผู้ใช้บริการประมาณ 2.7 ล้านคนต่อวัน

ส่วนรถโดยสารของกรุงลอนดอนมีเอกลักษณ์เฉพาะพิเศษซึ่งเป็นรถสองชั้นสีสันตัวรถเป็นสีแดง มีชื่อว่า The Routemaster ได้เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1950 หรือราว 67 ปีที่แล้ว ปัจจุบันได้เลิกให้การบริการ เนื่องจากมีระบบขนส่งมวลชนที่มีความทันสมัยกว่าและสะดวกรวดเร็วกว่า โดยเลิกให้บริการเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ค.ศ. 2005 แต่ยังคงมีการอนุรักษ์ไว้โดยในบริการในเส้นทางท่องเที่ยวบางแห่ง

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!