1967 FERRARI 350 CAN-AM-สปอร์ตเวอร์ชั่นสนามแข่งสไตล์เปิดประทุนเทคโนโลยี่ลดน้ำหนัก


By : C. Methas – Managing Editor

350 Can-Am สปอร์ตเปิดประทุนเวอร์ชั่นสำหรับสนามแข่งของเฟอร์รารี่รุ่นปี ค.ศ. 1967 พัฒนาต่อเนื่องจากรุ่น 330 P ที่ออกมา 3 เวอร์ชั่นด้วยกัน ประกอบด้วย 330 P, 330 P2 และ 330 P3 ได้รับความร่วมมือจากค่ายผลิตระบบถ่ายทอดกำลัง ZF ในการพัฒนาระบบเกียร์ขึ้นใหม่

เครื่องยนต์ ขนาด 4.2 ลิตร เป็นแบบ วี-12 สูบ ทำมุม 60 องศา จำนวน 3 วาล์วต่อสูบ ระบบเพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ อัตราส่วนกำลังอัดเท่ากับ 11.0:1 ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิคส์ของ Lucas สามารถรีดแรงม้าสูงสุด 480 แรงม้าที่ 8,500 รอบต่อนาที เฉลี่ยให้แรงม้าต่อลิตร 114.3 แรงม้าต่อลิตร และเฉลี่ยให้กำลังต่อน้ำหนัก 3.2 ปอนด์ต่อแรงม้า

350 Can-Am พัฒนาเน้นในเรื่องการลดน้ำหนัก ชิ้นส่วนของประตูผลิตจากไฟเบอร์กลาส และระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิคส์ของ Lucas ที่พัฒนาขึ้นใหม่

สปอร์ตเวอร์ชั่นสนามแข่งของเฟอร์รารี่รุ่น 350 Can-Am วางรูปแบบเครื่องยนต์วางด้านหน้า ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง มีน้ำหนักรถเปล่า 700 กิโลกรัม ระบบถ่ายทอดกำลังเป็นแบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ

เฟอร์รารี่ประสบความสำเร็จอย่างสูงด้วยการคว้าแชมป์ในสนามแข่งทางเรียบในหลายรายการช่วงยุคต้นทศวรรษที่ 60 โดยปรับปรุงพัฒนารถแข่งที่ทำความเร็วสูง ทั้งในรุ่น จีที.และรุ่นต้นแบบที่ส่งลงสนามแข่งในรายการแข่งขัน 24 ชั่วโมงที่เดย์โทน่า ในสหรัฐอเมริกา

ส่วนการส่งลงแข่งครั้งแรกในสนามแข่งศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมง เมื่อปี ค.ศ. 1964 ทีมเฟอร์รารี่ได้ประลองความเร็วกับทีมฟอร์ด ทีมเฟอร์รารี่ประสบความสำเร็จจากการคว้าแชมป์ได้โดยส่งรถแข่งรุ่น 330 P วางเครื่องยนต์ ขนาด 4.0 ลิตร สามารถเข้าเส้นชัยในอันดับ 1 เป็นการโค่นทีมยักษ์ใหญ่ในอเมริกาครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ ซึ่งทีมฟอร์ดครองเจ้าความเร็วมาโดยตลอด

Ferrari 350 Can-Am รุ่นปี ค.ศ. 1967 ผลิตสร้างขึ้นมาเพื่อส่งลงแข่งขันในรายการ 24 ชั่วโมงที่เดย์โทน่า และคว้าแชมป์ได้ด้วยการเรียงแถวเข้าเส้นชัยในอันดับ 1-2

By : C. Methas - Managing Editor

350 Can-Am สปอร์ตเปิดประทุนเวอร์ชั่นสำหรับสนามแข่งของเฟอร์รารี่รุ่นปี ค.ศ. 1967 พัฒนาต่อเนื่องจากรุ่น 330 P ที่ออกมา 3 เวอร์ชั่นด้วยกัน ประกอบด้วย 330 P, 330 P2 และ 330 P3 ได้รับความร่วมมือจากค่ายผลิตระบบถ่ายทอดกำลัง ZF ในการพัฒนาระบบเกียร์ขึ้นใหม่

เครื่องยนต์ ขนาด 4.2 ลิตร เป็นแบบ วี-12 สูบ ทำมุม 60 องศา จำนวน 3 วาล์วต่อสูบ ระบบเพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ อัตราส่วนกำลังอัดเท่ากับ 11.0:1 ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิคส์ของ Lucas สามารถรีดแรงม้าสูงสุด 480 แรงม้าที่ 8,500 รอบต่อนาที เฉลี่ยให้แรงม้าต่อลิตร 114.3 แรงม้าต่อลิตร และเฉลี่ยให้กำลังต่อน้ำหนัก 3.2 ปอนด์ต่อแรงม้า

350 Can-Am พัฒนาเน้นในเรื่องการลดน้ำหนัก ชิ้นส่วนของประตูผลิตจากไฟเบอร์กลาส และระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิคส์ของ Lucas ที่พัฒนาขึ้นใหม่

สปอร์ตเวอร์ชั่นสนามแข่งของเฟอร์รารี่รุ่น 350 Can-Am วางรูปแบบเครื่องยนต์วางด้านหน้า ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง มีน้ำหนักรถเปล่า 700 กิโลกรัม ระบบถ่ายทอดกำลังเป็นแบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ

เฟอร์รารี่ประสบความสำเร็จอย่างสูงด้วยการคว้าแชมป์ในสนามแข่งทางเรียบในหลายรายการช่วงยุคต้นทศวรรษที่ 60 โดยปรับปรุงพัฒนารถแข่งที่ทำความเร็วสูง ทั้งในรุ่น จีที.และรุ่นต้นแบบที่ส่งลงสนามแข่งในรายการแข่งขัน 24 ชั่วโมงที่เดย์โทน่า ในสหรัฐอเมริกา

ส่วนการส่งลงแข่งครั้งแรกในสนามแข่งศึกเลอ มังส์ 24 ชั่วโมง เมื่อปี ค.ศ. 1964 ทีมเฟอร์รารี่ได้ประลองความเร็วกับทีมฟอร์ด ทีมเฟอร์รารี่ประสบความสำเร็จจากการคว้าแชมป์ได้โดยส่งรถแข่งรุ่น 330 P วางเครื่องยนต์ ขนาด 4.0 ลิตร สามารถเข้าเส้นชัยในอันดับ 1 เป็นการโค่นทีมยักษ์ใหญ่ในอเมริกาครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ ซึ่งทีมฟอร์ดครองเจ้าความเร็วมาโดยตลอด

Ferrari 350 Can-Am รุ่นปี ค.ศ. 1967 ผลิตสร้างขึ้นมาเพื่อส่งลงแข่งขันในรายการ 24 ชั่วโมงที่เดย์โทน่า และคว้าแชมป์ได้ด้วยการเรียงแถวเข้าเส้นชัยในอันดับ 1-2

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!