การดูแลรักษารถยนต์…ข้อควรระวังเบื้องต้นเมื่อมีสัญญาณบ่งบอกว่ารถเริ่มมีปัญหา…ก่อนจะสายเกินแก้


บรรเลงโดย-ช่างแสง ณ พิดโลก

การดูแลบำรุงรักษารถยนต์ขั้นพื้นฐานบรรยายโดยช่างแสงผู้ผ่านประสบการณ์ช่างซ่อมรถยนต์มากกว่า 40 ปี นับว่าเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนผู้ใช้รถยนต์ทั้งมวล หากใช้รถต้องสังเกตุอาการบอกเหตุเบื้องต้นอย่างง่ายๆ แบบพื้นฐาน ก่อนจะเกิดปัญหาตามมาอีกมากมาย อาทิ หากรถไปเสียกลางถนนช่วงการจราจรเร่งด่วน ไหนจะฝนก็ตก น้ำก็ท่วมต้องลงไปลุยน้ำเข็นรถเข้าข้างทางช่างแสนยากเย็นสิ้นดี รถเลนข้างๆ ก็ช่างไร้น้ำใจ ดีไม่ดีแถมบีบแตรไล่อีกตะหาก

ยิ่งรถไปเสียตรงคอสะพาน…ล่ะแม่คุณเอ้ยยยย จะเข็นเดินหน้าก็ไม่ได้ จะถอยหลังก็ไม่เข้าที หรือกำลังสตาร์ทรถอยู่นั่นแล้วววว จนแบตเตอรี่หมด ดันเจอรถข้างหลังบีบแตรใส่อีก บางรายอดรนทนไม่ไหว เดินไปบอกคนขับรถคันหลัง “คุณมาช่วยสตาร์ทรถให้หน่อย เดี๊ยวจะช่วยบีบแตรให้” อย่าทำเด็ดขาดนะ เดี๊ยวเจอลูกปืน…คนสมัยนี้ ใครจะไปรู้ว่าใครพกปืนกันบ้าง เนื่องเพราะพกปืนกันถ้วนหน้า

ส่วนจะไปหวังน้ำจิตน้ำใจจากรถเคียงข้างมาช่วยเข็นรถเข้าข้างทาง สมัยนี้เลิกคิดเลิกฝัน เพราะโลกและสังคมทุกวันนี้ของประเทศไทยแก่งแย่งแข่งขัน ชิงดีชิงเด่นใช้เส้นสายกันมายาวนานจนได้ดิบได้ดีกันหน้าสลอน แต่เบื้องหลังเบื้องลึกนั่นช่างระทมขมขื่นสิ้นดี ฮึๆๆๆ ว่าแล้วก็เข้าเรื่อง…

1. ข้อสังเกตุเกี่ยวกับเครื่องยนต์

– เครื่องร้อนจัดเกินไป ขับไปได้ไม่เท่าไร ความร้อนขึ้นสูง

– เครื่องเย็นเกินไป ขับมาระยะทางไกล เข็มวัดอุณหภูมิยังไม่ขึ้น

– เสียงผิดปกติจากเครื่องยนต์

รีบนำรถไปพบช่างประจำโดยด่วน ก่อนที่จะบานปลายจนเครื่องพังพินาศ

2. ไฟแสดงที่แผงหน้าปัด

ไฟแสดงที่แผงหน้าปัดเห็นแล้วปวดหัว…ไม่รู้ไฟอะไรต่อมิอะไรเต็มพรืดไปหมด ตอนสตาร์ทรถไฟเหล่านี้จะปรากฏขึ้นที่แผงหน้าปัดทุกครั้งที่เราสตาร์ทเครื่อง และเมื่อสตาร์ทติดแล้ว สักพักจะดับลง

แต่ถ้าไฟไม่สว่าง หรือสว่างแล้วไม่ยอมดับ เกิดจากหลายสาเหตุและอาจจะเป็นสาเหตุใหญ่ๆ รีบนำรถไปตรวจเช็คระบบไฟดังกล่าวเช่นกัน ถ้าไม่เร่งไปตรวจเช็คยังขับเอ้อระเหยลอยชาย ปัญหาใหญ่ตามมาแน่นอน

3. เรื่องของยาง…อย่ามองข้าม เพราะยางแท้ๆ และเทียมๆ นี่ล่ะพาไปวัดมานักต่อนัก

การสึกหรอของดอกยางแบบต่าง ๆ แสดงให้เห็นข้อผิดพลาดได้หลายอย่าง

– ดอกยางตรงกลางล้อ สึกหรอมากกว่าขอบ แสดงว่าเติมลมแข็งเกินไป

– ดอกยางขอบล้อ สึกหรอมากกว่าตรงกลาง แสดงว่าเติมลมอ่อนเกินไป

– ดอกยางสึกหรอข้างใดข้างหนึ่ง แสดงว่ามุมแนวตั้งของยางไม่ตรง

– ดอกยางเป็นบั้ง ๆ แสดงว่าแนวของยางไม่ขนานกับแนวเคลื่อนที่ของรถ

นำรถเข้าอู่เพื่อตั้งศูนย์ล้อ หรือปรับแรงดันลมยางใหม่ หากยางแตกหรือยางระเบิด…งานจะเข้าเอาง่ายๆ ต้องมานั่งขันน๊อตเปลี่ยนยางเเถวหน้า รพ. ศรีธัญญา แนวเพลงของคาราบาว…จะเสียฟอร์มเอาซะเปล่าๆ นะคุณท่าน เจอคนสติบ่ดีสอนมวยเข้าให้แล้วจะรู้สึกว่าดีขึ้น

Gearbox and clutch cross-section.

4. คลัตซ์

หากคลัตซ์มีปัญหา ทำให้ควบคุมเกียร์ไม่ได้

– คลัตซ์ลื่น หรือเข้าคลัตซ์ไม่สนิท หรือเหยียบแป้นคลัตซ์แล้ว ยังเข้าเกียร์ได้ยาก

– คลัตซ์มีเสียงดัง เมื่อเหยียบแป้นคลัตซ์

– แป้นคลัตซ์สั่นขึ้น ๆ ลง ๆ ขณะกำลังขับ

รีบเข้าอู่เช่นกัน…ก่อนจะไม่ได้เข้าอู่อีกต่อไป เข้าใจตรงกันนะ

5. เกียร์

สัญญาณบอกเหตุว่าเกียร์มีปัญหาคือ

– มีเสียงดังทั้งในขณะอยู่ที่เกียร์ว่าง หรือเข้าเกียร์ใดเกียร์หนึ่งอยู่

– เปลี่ยนเกียร์ยาก หลายรูปแบบ

– มีเสียงดังขณะเข้าเกียร์

– น้ำมันหล่อลื่นไหลออกมาจากห้องเกียร์

รีบไปตรวจเช็ค ก่อนเกียร์จะพัง หากเกียร์พังแล้วหมดโอกาสซ่อม ต้องเปลี่ยนใหม่ ราคาไม่ใช่น้อยๆ โดยเฉพาะเกียร์ออโต้รถยุโรป งานเข้าว่าง้านเถอะ.

6. พวงมาลัย

– พวงมาลัยหนัก หรือต้องใช้แรงมากผิดปกติในการบังคับเลี้ยว

– พวงมาลัยหลวมเกินไป โดยมีระยะฟรีเกิน 1 นิ้ว

– พวงมาลัยสั่นในขณะขับ

-พวงมาลัยเบี่ยงไปอีกด้าน ต้องคอยฝีนขณะขับทางตรงยาวๆ

นำรถไปเช็คอย่างด่วนอีกเช่นกัน ก่อนที่จะบานปลายส่งผลให้ชิ้นส่วนอื่นๆ เสียหายตามมาอีกมากมาย

7. เบรก

เรื่องเบรกนี่ก็พาคนเข้าวัดเข้าวาไปฟังพระสวดมากต่อมากหลายเด้ออีนางเอ๊ยยยยย….

– เบรกลื่น การเบรกใช้ระยะทางไกลกว่าปกติ

– เบรกแล้วรถปัดไปข้างใดข้างหนึ่ง

– แป้นเบรกยังจมลึกลงไปทั้ง ๆ ที่ถอนเท้าออกมาแล้ว

-เหยียบแป้นเบรกลึกเกินไป

นำรถไปเช็คเบรกอย่างด่วน เพราะการเบรกเป็นปัญหาใหญ่ที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุมานักต่อนัก

8. สัญญาณไฟเตือนน้ำมันเครื่อง

สัญญาณไฟเตือนระบบน้ำมันหล่อลื่นสว่างขึ้นขณะขับ นั่นคือเครื่องยนต์มีน้ำมันเครื่องน้อยกว้าปกติ รีบนำรถไปยังอู่ที่ใกล้ที่สุดทันที ถ้าอู่อยู่ไกล ให้เติมน้ำมันเครื่องใส่ลงในถังน้ำมันหล่อลื่นไปก่อน เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ก่อนที่เครื่องยนต์จะพัง…หมดโอกาสซ่อม

เรื่องราวพื้นฐานง่ายๆ เกี่ยวกับการใช้รถ ใครๆ ก็ทำได้ หากใช้รถพึงระวัง คอยสังเกตุได้ด้วยตัวเราเองก่อนเกิดปัญหาบานปลาย โอเคร. นะ ตามนั้น …อย่าให้เป็นแบบรูปด้านบนนี้เป็นใช้ได้ (รถตู้ล้มทับแม่งกะไซต์…เล่นท่ายากซะกะด้วย)

บรรเลงโดย-ช่างแสง ณ พิดโลก

การดูแลบำรุงรักษารถยนต์ขั้นพื้นฐานบรรยายโดยช่างแสงผู้ผ่านประสบการณ์ช่างซ่อมรถยนต์มากกว่า 40 ปี นับว่าเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนผู้ใช้รถยนต์ทั้งมวล หากใช้รถต้องสังเกตุอาการบอกเหตุเบื้องต้นอย่างง่ายๆ แบบพื้นฐาน ก่อนจะเกิดปัญหาตามมาอีกมากมาย อาทิ หากรถไปเสียกลางถนนช่วงการจราจรเร่งด่วน ไหนจะฝนก็ตก น้ำก็ท่วมต้องลงไปลุยน้ำเข็นรถเข้าข้างทางช่างแสนยากเย็นสิ้นดี รถเลนข้างๆ ก็ช่างไร้น้ำใจ ดีไม่ดีแถมบีบแตรไล่อีกตะหาก

ยิ่งรถไปเสียตรงคอสะพาน...ล่ะแม่คุณเอ้ยยยย จะเข็นเดินหน้าก็ไม่ได้ จะถอยหลังก็ไม่เข้าที หรือกำลังสตาร์ทรถอยู่นั่นแล้วววว จนแบตเตอรี่หมด ดันเจอรถข้างหลังบีบแตรใส่อีก บางรายอดรนทนไม่ไหว เดินไปบอกคนขับรถคันหลัง "คุณมาช่วยสตาร์ทรถให้หน่อย เดี๊ยวจะช่วยบีบแตรให้" อย่าทำเด็ดขาดนะ เดี๊ยวเจอลูกปืน...คนสมัยนี้ ใครจะไปรู้ว่าใครพกปืนกันบ้าง เนื่องเพราะพกปืนกันถ้วนหน้า

ส่วนจะไปหวังน้ำจิตน้ำใจจากรถเคียงข้างมาช่วยเข็นรถเข้าข้างทาง สมัยนี้เลิกคิดเลิกฝัน เพราะโลกและสังคมทุกวันนี้ของประเทศไทยแก่งแย่งแข่งขัน ชิงดีชิงเด่นใช้เส้นสายกันมายาวนานจนได้ดิบได้ดีกันหน้าสลอน แต่เบื้องหลังเบื้องลึกนั่นช่างระทมขมขื่นสิ้นดี ฮึๆๆๆ ว่าแล้วก็เข้าเรื่อง...

1. ข้อสังเกตุเกี่ยวกับเครื่องยนต์

- เครื่องร้อนจัดเกินไป ขับไปได้ไม่เท่าไร ความร้อนขึ้นสูง

- เครื่องเย็นเกินไป ขับมาระยะทางไกล เข็มวัดอุณหภูมิยังไม่ขึ้น

- เสียงผิดปกติจากเครื่องยนต์

รีบนำรถไปพบช่างประจำโดยด่วน ก่อนที่จะบานปลายจนเครื่องพังพินาศ

2. ไฟแสดงที่แผงหน้าปัด

ไฟแสดงที่แผงหน้าปัดเห็นแล้วปวดหัว...ไม่รู้ไฟอะไรต่อมิอะไรเต็มพรืดไปหมด ตอนสตาร์ทรถไฟเหล่านี้จะปรากฏขึ้นที่แผงหน้าปัดทุกครั้งที่เราสตาร์ทเครื่อง และเมื่อสตาร์ทติดแล้ว สักพักจะดับลง

แต่ถ้าไฟไม่สว่าง หรือสว่างแล้วไม่ยอมดับ เกิดจากหลายสาเหตุและอาจจะเป็นสาเหตุใหญ่ๆ รีบนำรถไปตรวจเช็คระบบไฟดังกล่าวเช่นกัน ถ้าไม่เร่งไปตรวจเช็คยังขับเอ้อระเหยลอยชาย ปัญหาใหญ่ตามมาแน่นอน

3. เรื่องของยาง...อย่ามองข้าม เพราะยางแท้ๆ และเทียมๆ นี่ล่ะพาไปวัดมานักต่อนัก

การสึกหรอของดอกยางแบบต่าง ๆ แสดงให้เห็นข้อผิดพลาดได้หลายอย่าง

- ดอกยางตรงกลางล้อ สึกหรอมากกว่าขอบ แสดงว่าเติมลมแข็งเกินไป

- ดอกยางขอบล้อ สึกหรอมากกว่าตรงกลาง แสดงว่าเติมลมอ่อนเกินไป

- ดอกยางสึกหรอข้างใดข้างหนึ่ง แสดงว่ามุมแนวตั้งของยางไม่ตรง

- ดอกยางเป็นบั้ง ๆ แสดงว่าแนวของยางไม่ขนานกับแนวเคลื่อนที่ของรถ

นำรถเข้าอู่เพื่อตั้งศูนย์ล้อ หรือปรับแรงดันลมยางใหม่ หากยางแตกหรือยางระเบิด...งานจะเข้าเอาง่ายๆ ต้องมานั่งขันน๊อตเปลี่ยนยางเเถวหน้า รพ. ศรีธัญญา แนวเพลงของคาราบาว...จะเสียฟอร์มเอาซะเปล่าๆ นะคุณท่าน เจอคนสติบ่ดีสอนมวยเข้าให้แล้วจะรู้สึกว่าดีขึ้น

[caption id="attachment_97341" align="alignnone" width="1000"] Gearbox and clutch cross-section.[/caption]

4. คลัตซ์

หากคลัตซ์มีปัญหา ทำให้ควบคุมเกียร์ไม่ได้

- คลัตซ์ลื่น หรือเข้าคลัตซ์ไม่สนิท หรือเหยียบแป้นคลัตซ์แล้ว ยังเข้าเกียร์ได้ยาก

- คลัตซ์มีเสียงดัง เมื่อเหยียบแป้นคลัตซ์

- แป้นคลัตซ์สั่นขึ้น ๆ ลง ๆ ขณะกำลังขับ

รีบเข้าอู่เช่นกัน...ก่อนจะไม่ได้เข้าอู่อีกต่อไป เข้าใจตรงกันนะ

5. เกียร์

สัญญาณบอกเหตุว่าเกียร์มีปัญหาคือ

- มีเสียงดังทั้งในขณะอยู่ที่เกียร์ว่าง หรือเข้าเกียร์ใดเกียร์หนึ่งอยู่

- เปลี่ยนเกียร์ยาก หลายรูปแบบ

- มีเสียงดังขณะเข้าเกียร์

- น้ำมันหล่อลื่นไหลออกมาจากห้องเกียร์

รีบไปตรวจเช็ค ก่อนเกียร์จะพัง หากเกียร์พังแล้วหมดโอกาสซ่อม ต้องเปลี่ยนใหม่ ราคาไม่ใช่น้อยๆ โดยเฉพาะเกียร์ออโต้รถยุโรป งานเข้าว่าง้านเถอะ.

6. พวงมาลัย

- พวงมาลัยหนัก หรือต้องใช้แรงมากผิดปกติในการบังคับเลี้ยว

- พวงมาลัยหลวมเกินไป โดยมีระยะฟรีเกิน 1 นิ้ว

- พวงมาลัยสั่นในขณะขับ

-พวงมาลัยเบี่ยงไปอีกด้าน ต้องคอยฝีนขณะขับทางตรงยาวๆ

นำรถไปเช็คอย่างด่วนอีกเช่นกัน ก่อนที่จะบานปลายส่งผลให้ชิ้นส่วนอื่นๆ เสียหายตามมาอีกมากมาย

7. เบรก

เรื่องเบรกนี่ก็พาคนเข้าวัดเข้าวาไปฟังพระสวดมากต่อมากหลายเด้ออีนางเอ๊ยยยยย....

- เบรกลื่น การเบรกใช้ระยะทางไกลกว่าปกติ

- เบรกแล้วรถปัดไปข้างใดข้างหนึ่ง

- แป้นเบรกยังจมลึกลงไปทั้ง ๆ ที่ถอนเท้าออกมาแล้ว

-เหยียบแป้นเบรกลึกเกินไป

นำรถไปเช็คเบรกอย่างด่วน เพราะการเบรกเป็นปัญหาใหญ่ที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุมานักต่อนัก

8. สัญญาณไฟเตือนน้ำมันเครื่อง

สัญญาณไฟเตือนระบบน้ำมันหล่อลื่นสว่างขึ้นขณะขับ นั่นคือเครื่องยนต์มีน้ำมันเครื่องน้อยกว้าปกติ รีบนำรถไปยังอู่ที่ใกล้ที่สุดทันที ถ้าอู่อยู่ไกล ให้เติมน้ำมันเครื่องใส่ลงในถังน้ำมันหล่อลื่นไปก่อน เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ก่อนที่เครื่องยนต์จะพัง...หมดโอกาสซ่อม

เรื่องราวพื้นฐานง่ายๆ เกี่ยวกับการใช้รถ ใครๆ ก็ทำได้ หากใช้รถพึงระวัง คอยสังเกตุได้ด้วยตัวเราเองก่อนเกิดปัญหาบานปลาย โอเคร. นะ ตามนั้น ...อย่าให้เป็นแบบรูปด้านบนนี้เป็นใช้ได้ (รถตู้ล้มทับแม่งกะไซต์...เล่นท่ายากซะกะด้วย)

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!