ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ โดดเด่นด้วยขุมพลังใหม่ ผสานเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมเทคโนโลยีที่เหนือชั้น เพื่อสมรรถนะที่เหนือกว่า


ฟอร์ด นำโดย นางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน ประธาน ฟอร์ด อาเซียน และกรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย (กลาง) นายกมล ธีรมงคลรัศมี รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายขายและการตลาด ฟอร์ด ประเทศไทย (ซ้าย) และ นายวิชิต ว่องวัฒนาการ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริการลูกค้า และพัฒนาผู้จำหน่ายและประสบการณ์ลูกค้า ฟอร์ด ประเทศไทย (ขวา) เผยโฉม “ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่”

รถกระบะสายพันธุ์แกร่ง ที่มาพร้อมขุมพลังใหม่เปี่ยมสมรรถนะ และเทคโนโลยีล้ำสมัยยิ่งขึ้น เพื่อมอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยอย่างเหนือชั้น

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เปิดตัวอย่างเป็นทางการวันนี้ พร้อมนำเสนอรถกระบะสายพันธุ์แกร่ง ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยยิ่งขึ้น มอบความปลอดภัยและความสะดวกสบายอย่างเหนือชั้น

ฟอร์ด เรนเจอร์ รถกระบะที่สร้างนิยาม ‘เกิดมาแกร่ง’ รุ่นใหม่นี้ สานต่อศักยภาพและสมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่น ทั้งบนทางเรียบและแบบออฟโรด เพื่อรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของลูกค้าได้อย่างลงตัว

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยมีทั้งหมด 20 รุ่น ซึ่งรวมถึงรุ่นไวล์ดแทรค XLT XLS XL กระบะฐานล้อสั้น (Short Wheel Base) และรุ่นใหม่ ‘ลิมิเต็ด’ (Limited) และยังรวมถึง ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงที่ผลิตจากโรงงานรุ่นแรกและรุ่นเดียวของเอเชีย แปซิฟิก ซึ่งได้เปิดตัวไปในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มีเครื่องยนต์ดีเซลให้เลือกถึง 3 แบบเพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานและความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายยิ่งขึ้น ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซลใหม่ 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ เครื่องยนต์ดีเซลใหม่ 2.0 ลิตร เทอร์โบ และเครื่องยนต์ดูราทอร์ค ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบ ที่ผ่านบทพิสูจน์ความแข็งแกร่งมาแล้ว

เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ของฟอร์ดผลิตจากวัสดุและการออกแบบทางวิศวกรรมที่ล้ำสมัย อีกทั้งยังมีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ทรงพลังและเปี่ยมประสิทธิภาพ ด้วยระบบคอมมอนเรล หัวฉีดไดเร็คอินเจ็คชั่น ท่อร่วมไอดี และสายพานไทม์มิ่งแบบจุ่มในน้ำมันเครื่อง

พิเศษสุดสำหรับรุ่นแร็พเตอร์ และรุ่นไวล์ดแทรค 4×4 เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมมอบแรงบิดที่สูงขึ้นเพื่อรองรับการขับขี่ที่หลากหลาย ทำให้เสียงเครื่องยนต์เงียบลงกว่าเดิม ช่วยให้การเดินทางด้วยฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ สะดวกสบายยิ่งขึ้น

เครื่องยนต์ไบเทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร ใช้ระบบ Sequentail Turbocharging ที่ผสานการทำงานของเทอร์โบชาร์จเจอร์ทั้ง 2 ตัว เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วเต็มประสิทธิภาพและมอบสมรรถนะสูงสุด โดยเทอร์โบชาร์จเจอร์ตัวแรกเป็นแบบเทอร์โบแปรผัน (Vartiable Turbocharger) จะช่วยเร่งการตอบสนองของคันเร่ง และลดช่วงการรอรอบ ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดและแรงม้าสูงแม้ตอนใช้ความเร็วต่ำ ในขณะที่เทอร์โบชาร์จเจอร์ตัวที่สองซึ่งเป็นระบบเทอร์โบ Fixed-geometry จะรับหน้าที่ต่อเพื่อเพิ่มกำลังและความเรียบลื่นให้กับเครื่องยนต์ขณะใช้ความเร็วสูง

ด้วยแรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750 รอบต่อนาที เครื่องยนต์ไบเทอร์โบมอบแรงบิดที่เหนือกว่า และอัตราทดเกียร์ที่แคบลงของเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด จะช่วยเพิ่มพลังและแรงเร่ง ทำให้การไต่เขาที่ลื่นและสูงชันง่ายดายยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์และไวล์ดแทรค ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ ยังคงสมรรถนะที่เหนือชั้นในการบรรทุกและลากจูงได้สูงสุดถึง 3,500 กก.

เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ในรุ่นไวล์ดแทรค 4?2 และรุ่นใหม่ลิมิเต็ด (Limited) มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดที่ล้ำหน้าของฟอร์ด มอบกำลัง 180 แรงม้า และแรงบิด 420 นิวตันเมตร สำหรับรุ่น Limited ยังมีรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีดให้เลือกอีกด้วย

ส่วนรุ่น XLT XLS และ XL มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบ กำลัง 160 แรงม้า และแรงบิด 385 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา 6 สปีด

เครื่องยนต์ของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เครื่องยนต์ ดูราทอร์ค 2.2 ลิตร ให้กำลัง 160 แรงม้า ที่ 3,200 รอบ แรงบิด 385 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,500 รอบ, เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลัง 180 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ แรงบิด 420 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ, เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ ให้กำลัง 213 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,000 รอบ

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มาพร้อมระบบเตือนการชน (Pre-Collision Assist) ที่ผสานระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) และระบบตรวจจับยานพาหนะ (Vehicle Detection) เป็นครั้งแรกในตลาดรถกระบะ ระบบนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อตรวจจับคนเดินถนนและยานพาหนะด้านหน้า และจะทำการช่วยเบรกจนหยุดนิ่งเมื่อระบบพบว่าคนขับไม่สามารถตอบสนองได้ทัน โดยระบบนี้จะทำงานเมื่อใช้ความเร็วสูงกว่า 3.6 กม./ชม. ขึ้นไป

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System) และระบบแจ้งเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกจากเลน (Lane Departure Warning) รวมถึงระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) พร้อมระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System) ยังคงมีอยู่ในฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เช่นเดิม

เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ รวมถึงระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ (Active Park Assist – APA) ซึ่งช่วยให้การเทียบจอดรถข้างทางเป็นเรื่องง่าย โดยระบบกึ่งอัตโนมัติจะบังคับทิศทางของรถให้เข้าสู่ช่องจอด ผู้ขับขี่เพียงควบคุมคันเร่งหรือเบรกเท่านั้น

นอกจากนี้ เรนเจอร์รุ่นไวล์ดแทรค และ LTD มาพร้อมระบบผ่อนแรงฝากระบะท้าย (Easy Lift Tailgate) ครั้งแรกในตลาดรถกระบะ ด้วยกลไกซึ่งช่วยผ่อนแรงของผู้ใช้ลง 70% ช่วยให้เปิดปิดฝากระบะท้ายง่ายดายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น พิเศษสุด ฟอร์ด เรนเจอร์ยังเพิ่มระบบพวงมาลัยไฟฟ้าในรุ่น XL และ XLS ถือเป็นครั้งแรกของตลาดรถกระบะระดับเดียวกัน

รูปลักษณ์ของเรนเจอร์ใหม่ได้รับการปรับเปลี่ยน เริ่มจากกระจังหน้าที่ออกแบบมาอย่างเรียบง่ายแต่มีมิติที่เด่นชัด และกันชนล่างปรับให้ช่องนำอากาศกว้างขึ้นด้วยดีไซน์ที่ลงตัว เรนเจอร์ ไวล์ดแทรค และรุ่น Limited มาพร้อมไฟเดย์ไลท์ LED และไฟหน้า HID เพื่อทัศนวิสัยที่ดียิ่งขึ้น

เรนเจอร์ ไวล์ดแทรค ยังมาพร้อมสีภายนอกใหม่เฉพาะรุ่น นั่นคือสี ‘เซเบรอ’ สีส้มประกายบลอนด์ ซึ่งตัดกันอย่างงดงามกับกระจังหน้าสีเทาเข้ม สปอร์ตบาร์และล้ออัลลอย 18 นิ้ว

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่มอบความสะดวกสบายด้วยกุญแจอัจฉริยะ (PEPS) และปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น Limited และรุ่นไวล์ดแทรค ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางของเรนเจอร์ตกแต่งในโทนสีดำ ตกแต่งรายละเอียดด้วยโครเมียมและการเดินด้ายสีเงิน

นอกจากนี้ เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกสบายและเป็นส่วนตัว รวมถึงได้รับความบันเทิงสูงสุด ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ยังเพิ่มระบบตัดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร (Active Noise Cancellation) ในรุ่นไวล์ดแทรค ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออีกด้วย

ระบบซิงค์ 3 (SYNC 3) รองรับ Apple Carplay และ Andriod Auto พร้อมบลูทูธ จอทัชสกรีน ฟูลคัลเลอร์ ขนาด 8.0 นิ้ว และกล้องมองหลัง ผู้ขับขี่ยังสามารถใช้งาน Apple Maps และระบบแผนที่นำทางด้วยดาวเทียมซึ่งติดตั้งมากับรถเมื่อออกนอกพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ นอกจากนี้ ระบบซิงค์ 3 ยังมาพร้อมระบบจดจำเสียงและระบบสั่งงานเสียงด้วยภาษาไทยเพื่อการใช้งานที่คล่องตัวยิ่งขึ้น

ระบบซิงค์ 3 ยังครอบคลุมไปถึงระบบช่วยโทรฉุกเฉิน (Emergency Assistance) ซึ่งจะทำงานผ่านโทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่อผ่านบลูทูธภายในรถ เพื่อติดต่อไปยังหมายเลข 1669 ในกรณีเกิดอุบัติเหตุจนถุงลมนิรภัยทำงานหรือระบบตัดการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบช่วยโทรฉุกเฉินนี้จะติดตั้งมากับรถฟอร์ด เรนเจอร์ใหม่ทุกคันที่ใช้ระบบซิงค์ 3

ระบบช่วงล่างของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อลดการโคลงตัวและการควบคุมการทรงตัว ด้วยการปรับเปลี่ยนระบบช่วงล่างใหม่นี้ ช่วยให้สมรรถนะในการขับขี่ดีขึ้น ลดการโคลงตัวและเพิ่มความแม่นยำในการควบคุมทิศทาง โดยยังคงสมรรถนะที่เหนือชั้นในการลากจูงและบรรทุกสิ่งของอันเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ด เรนเจอร์ไว้ได้

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 20 รุ่น ตามราคาจำหน่ายดังต่อไปนี้

: แร็พเตอร์ – ราคา 1,699,000 บาท,

ไวล์ดแทรค – มีให้เลือก 2 รุ่น ราคาตั้งแต่ 1,029,000 – 1,265,000 บาท,

ลิมิเต็ด (LTD) – มีให้เลือก 4 รุ่น ราคาตั้งแต่ 889,000 – 1,029,000 บาท,

XLT – มีให้เลือก 4 รุ่น ราคาตั้งแต่ 749,000 – 869,000 บาท,

XLS – มีให้เลือก 4 รุ่น ราคาตั้งแต่ 659,000 – 789,000 บาท,

XL – มีให้เลือก 3 รุ่น ราคาตั้งแต่ 559,000 – 649,000 บาท,

กระบะฐานล้อสั้น (Short Wheel Base) – มีให้เลือก 2 รุ่น ราคาตั้งแต่ 589,000 – 799,000 บาท

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มีสีภายนอกให้เลือก 7 สี ได้แก่ สีใหม่ 2 สี นั่นคือ สีส้มเซเบรอ (เฉพาะรุ่นไวล์ดแทรค) และสีฟ้าไลท์นิ่ง บลู (Lightning Blue) และสีมาตรฐาน ได้แก่ สีเงินอะลูมิเนียม เมทัลลิค (Aluminuim Metallic) สีดำแอพโซลูท แบล็ค เมทัลลิค (Absolute Black Metallic) สีเทาเมทีออร์ เกรย์ เมทัลลิค (Meteor Grey Metallic) สีขาวโฟรเซ่น ไวท์ (Frozen White) และสีแดงทรู เร้ด (True Red)

เรนเจอร์ แร็พเตอร์ มีสีภายนอกให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีเทาคองเคอร์ เกรย์ (Conquer Grey) ซึ่งเป็นสีใหม่เฉพาะแร็พเตอร์เท่านั้น และสีฟ้าไลท์นิ่ง บลู (Lightning Blue) สีแดงเรซ เร้ด (Race Red) สีดำแชโดว์ แบล็ค (Shadow Black) และสีขาวโฟรเซ่น ไวท์ (Frozen White)

นอกจากนี้ ลูกค้าฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จะได้รับความคุ้มค่าและความสะดวกสบาย ด้วยบริการฟรีค่าแรงในการตรวจเช็คตามระยะ สูงสุดถึง 5 ปี หรือภายในระยะ 75,000 กม. เพียงเข้าตรวจเช็คระยะทุก 15,000 กม. หรือทุก 1 ปี

ฟอร์ด นำโดย นางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน ประธาน ฟอร์ด อาเซียน และกรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย (กลาง) นายกมล ธีรมงคลรัศมี รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายขายและการตลาด ฟอร์ด ประเทศไทย (ซ้าย) และ นายวิชิต ว่องวัฒนาการ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริการลูกค้า และพัฒนาผู้จำหน่ายและประสบการณ์ลูกค้า ฟอร์ด ประเทศไทย (ขวา) เผยโฉม “ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่”

รถกระบะสายพันธุ์แกร่ง ที่มาพร้อมขุมพลังใหม่เปี่ยมสมรรถนะ และเทคโนโลยีล้ำสมัยยิ่งขึ้น เพื่อมอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยอย่างเหนือชั้น

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เปิดตัวอย่างเป็นทางการวันนี้ พร้อมนำเสนอรถกระบะสายพันธุ์แกร่ง ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยยิ่งขึ้น มอบความปลอดภัยและความสะดวกสบายอย่างเหนือชั้น

ฟอร์ด เรนเจอร์ รถกระบะที่สร้างนิยาม ‘เกิดมาแกร่ง’ รุ่นใหม่นี้ สานต่อศักยภาพและสมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่น ทั้งบนทางเรียบและแบบออฟโรด เพื่อรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของลูกค้าได้อย่างลงตัว

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยมีทั้งหมด 20 รุ่น ซึ่งรวมถึงรุ่นไวล์ดแทรค XLT XLS XL กระบะฐานล้อสั้น (Short Wheel Base) และรุ่นใหม่ ‘ลิมิเต็ด’ (Limited) และยังรวมถึง ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงที่ผลิตจากโรงงานรุ่นแรกและรุ่นเดียวของเอเชีย แปซิฟิก ซึ่งได้เปิดตัวไปในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มีเครื่องยนต์ดีเซลให้เลือกถึง 3 แบบเพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานและความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายยิ่งขึ้น ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซลใหม่ 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ เครื่องยนต์ดีเซลใหม่ 2.0 ลิตร เทอร์โบ และเครื่องยนต์ดูราทอร์ค ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบ ที่ผ่านบทพิสูจน์ความแข็งแกร่งมาแล้ว

เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ของฟอร์ดผลิตจากวัสดุและการออกแบบทางวิศวกรรมที่ล้ำสมัย อีกทั้งยังมีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ทรงพลังและเปี่ยมประสิทธิภาพ ด้วยระบบคอมมอนเรล หัวฉีดไดเร็คอินเจ็คชั่น ท่อร่วมไอดี และสายพานไทม์มิ่งแบบจุ่มในน้ำมันเครื่อง

พิเศษสุดสำหรับรุ่นแร็พเตอร์ และรุ่นไวล์ดแทรค 4x4 เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมมอบแรงบิดที่สูงขึ้นเพื่อรองรับการขับขี่ที่หลากหลาย ทำให้เสียงเครื่องยนต์เงียบลงกว่าเดิม ช่วยให้การเดินทางด้วยฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ สะดวกสบายยิ่งขึ้น

เครื่องยนต์ไบเทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร ใช้ระบบ Sequentail Turbocharging ที่ผสานการทำงานของเทอร์โบชาร์จเจอร์ทั้ง 2 ตัว เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วเต็มประสิทธิภาพและมอบสมรรถนะสูงสุด โดยเทอร์โบชาร์จเจอร์ตัวแรกเป็นแบบเทอร์โบแปรผัน (Vartiable Turbocharger) จะช่วยเร่งการตอบสนองของคันเร่ง และลดช่วงการรอรอบ ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดและแรงม้าสูงแม้ตอนใช้ความเร็วต่ำ ในขณะที่เทอร์โบชาร์จเจอร์ตัวที่สองซึ่งเป็นระบบเทอร์โบ Fixed-geometry จะรับหน้าที่ต่อเพื่อเพิ่มกำลังและความเรียบลื่นให้กับเครื่องยนต์ขณะใช้ความเร็วสูง

ด้วยแรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750 รอบต่อนาที เครื่องยนต์ไบเทอร์โบมอบแรงบิดที่เหนือกว่า และอัตราทดเกียร์ที่แคบลงของเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด จะช่วยเพิ่มพลังและแรงเร่ง ทำให้การไต่เขาที่ลื่นและสูงชันง่ายดายยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์และไวล์ดแทรค ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ ยังคงสมรรถนะที่เหนือชั้นในการบรรทุกและลากจูงได้สูงสุดถึง 3,500 กก.

เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ในรุ่นไวล์ดแทรค 4?2 และรุ่นใหม่ลิมิเต็ด (Limited) มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดที่ล้ำหน้าของฟอร์ด มอบกำลัง 180 แรงม้า และแรงบิด 420 นิวตันเมตร สำหรับรุ่น Limited ยังมีรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีดให้เลือกอีกด้วย

ส่วนรุ่น XLT XLS และ XL มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบ กำลัง 160 แรงม้า และแรงบิด 385 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา 6 สปีด

เครื่องยนต์ของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เครื่องยนต์ ดูราทอร์ค 2.2 ลิตร ให้กำลัง 160 แรงม้า ที่ 3,200 รอบ แรงบิด 385 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,500 รอบ, เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลัง 180 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ แรงบิด 420 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ, เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ ให้กำลัง 213 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,000 รอบ

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มาพร้อมระบบเตือนการชน (Pre-Collision Assist) ที่ผสานระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) และระบบตรวจจับยานพาหนะ (Vehicle Detection) เป็นครั้งแรกในตลาดรถกระบะ ระบบนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อตรวจจับคนเดินถนนและยานพาหนะด้านหน้า และจะทำการช่วยเบรกจนหยุดนิ่งเมื่อระบบพบว่าคนขับไม่สามารถตอบสนองได้ทัน โดยระบบนี้จะทำงานเมื่อใช้ความเร็วสูงกว่า 3.6 กม./ชม. ขึ้นไป

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System) และระบบแจ้งเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกจากเลน (Lane Departure Warning) รวมถึงระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) พร้อมระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System) ยังคงมีอยู่ในฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เช่นเดิม

เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ รวมถึงระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ (Active Park Assist – APA) ซึ่งช่วยให้การเทียบจอดรถข้างทางเป็นเรื่องง่าย โดยระบบกึ่งอัตโนมัติจะบังคับทิศทางของรถให้เข้าสู่ช่องจอด ผู้ขับขี่เพียงควบคุมคันเร่งหรือเบรกเท่านั้น

นอกจากนี้ เรนเจอร์รุ่นไวล์ดแทรค และ LTD มาพร้อมระบบผ่อนแรงฝากระบะท้าย (Easy Lift Tailgate) ครั้งแรกในตลาดรถกระบะ ด้วยกลไกซึ่งช่วยผ่อนแรงของผู้ใช้ลง 70% ช่วยให้เปิดปิดฝากระบะท้ายง่ายดายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น พิเศษสุด ฟอร์ด เรนเจอร์ยังเพิ่มระบบพวงมาลัยไฟฟ้าในรุ่น XL และ XLS ถือเป็นครั้งแรกของตลาดรถกระบะระดับเดียวกัน

รูปลักษณ์ของเรนเจอร์ใหม่ได้รับการปรับเปลี่ยน เริ่มจากกระจังหน้าที่ออกแบบมาอย่างเรียบง่ายแต่มีมิติที่เด่นชัด และกันชนล่างปรับให้ช่องนำอากาศกว้างขึ้นด้วยดีไซน์ที่ลงตัว เรนเจอร์ ไวล์ดแทรค และรุ่น Limited มาพร้อมไฟเดย์ไลท์ LED และไฟหน้า HID เพื่อทัศนวิสัยที่ดียิ่งขึ้น

เรนเจอร์ ไวล์ดแทรค ยังมาพร้อมสีภายนอกใหม่เฉพาะรุ่น นั่นคือสี ‘เซเบรอ’ สีส้มประกายบลอนด์ ซึ่งตัดกันอย่างงดงามกับกระจังหน้าสีเทาเข้ม สปอร์ตบาร์และล้ออัลลอย 18 นิ้ว

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่มอบความสะดวกสบายด้วยกุญแจอัจฉริยะ (PEPS) และปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น Limited และรุ่นไวล์ดแทรค ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางของเรนเจอร์ตกแต่งในโทนสีดำ ตกแต่งรายละเอียดด้วยโครเมียมและการเดินด้ายสีเงิน

นอกจากนี้ เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกสบายและเป็นส่วนตัว รวมถึงได้รับความบันเทิงสูงสุด ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ยังเพิ่มระบบตัดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร (Active Noise Cancellation) ในรุ่นไวล์ดแทรค ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออีกด้วย

ระบบซิงค์ 3 (SYNC 3) รองรับ Apple Carplay และ Andriod Auto พร้อมบลูทูธ จอทัชสกรีน ฟูลคัลเลอร์ ขนาด 8.0 นิ้ว และกล้องมองหลัง ผู้ขับขี่ยังสามารถใช้งาน Apple Maps และระบบแผนที่นำทางด้วยดาวเทียมซึ่งติดตั้งมากับรถเมื่อออกนอกพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ นอกจากนี้ ระบบซิงค์ 3 ยังมาพร้อมระบบจดจำเสียงและระบบสั่งงานเสียงด้วยภาษาไทยเพื่อการใช้งานที่คล่องตัวยิ่งขึ้น

ระบบซิงค์ 3 ยังครอบคลุมไปถึงระบบช่วยโทรฉุกเฉิน (Emergency Assistance) ซึ่งจะทำงานผ่านโทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่อผ่านบลูทูธภายในรถ เพื่อติดต่อไปยังหมายเลข 1669 ในกรณีเกิดอุบัติเหตุจนถุงลมนิรภัยทำงานหรือระบบตัดการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบช่วยโทรฉุกเฉินนี้จะติดตั้งมากับรถฟอร์ด เรนเจอร์ใหม่ทุกคันที่ใช้ระบบซิงค์ 3

ระบบช่วงล่างของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อลดการโคลงตัวและการควบคุมการทรงตัว ด้วยการปรับเปลี่ยนระบบช่วงล่างใหม่นี้ ช่วยให้สมรรถนะในการขับขี่ดีขึ้น ลดการโคลงตัวและเพิ่มความแม่นยำในการควบคุมทิศทาง โดยยังคงสมรรถนะที่เหนือชั้นในการลากจูงและบรรทุกสิ่งของอันเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ด เรนเจอร์ไว้ได้

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 20 รุ่น ตามราคาจำหน่ายดังต่อไปนี้

: แร็พเตอร์ – ราคา 1,699,000 บาท,

ไวล์ดแทรค – มีให้เลือก 2 รุ่น ราคาตั้งแต่ 1,029,000 – 1,265,000 บาท,

ลิมิเต็ด (LTD) – มีให้เลือก 4 รุ่น ราคาตั้งแต่ 889,000 – 1,029,000 บาท,

XLT – มีให้เลือก 4 รุ่น ราคาตั้งแต่ 749,000 – 869,000 บาท,

XLS – มีให้เลือก 4 รุ่น ราคาตั้งแต่ 659,000 – 789,000 บาท,

XL – มีให้เลือก 3 รุ่น ราคาตั้งแต่ 559,000 – 649,000 บาท,

กระบะฐานล้อสั้น (Short Wheel Base) – มีให้เลือก 2 รุ่น ราคาตั้งแต่ 589,000 – 799,000 บาท

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มีสีภายนอกให้เลือก 7 สี ได้แก่ สีใหม่ 2 สี นั่นคือ สีส้มเซเบรอ (เฉพาะรุ่นไวล์ดแทรค) และสีฟ้าไลท์นิ่ง บลู (Lightning Blue) และสีมาตรฐาน ได้แก่ สีเงินอะลูมิเนียม เมทัลลิค (Aluminuim Metallic) สีดำแอพโซลูท แบล็ค เมทัลลิค (Absolute Black Metallic) สีเทาเมทีออร์ เกรย์ เมทัลลิค (Meteor Grey Metallic) สีขาวโฟรเซ่น ไวท์ (Frozen White) และสีแดงทรู เร้ด (True Red)

เรนเจอร์ แร็พเตอร์ มีสีภายนอกให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีเทาคองเคอร์ เกรย์ (Conquer Grey) ซึ่งเป็นสีใหม่เฉพาะแร็พเตอร์เท่านั้น และสีฟ้าไลท์นิ่ง บลู (Lightning Blue) สีแดงเรซ เร้ด (Race Red) สีดำแชโดว์ แบล็ค (Shadow Black) และสีขาวโฟรเซ่น ไวท์ (Frozen White)

นอกจากนี้ ลูกค้าฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จะได้รับความคุ้มค่าและความสะดวกสบาย ด้วยบริการฟรีค่าแรงในการตรวจเช็คตามระยะ สูงสุดถึง 5 ปี หรือภายในระยะ 75,000 กม. เพียงเข้าตรวจเช็คระยะทุก 15,000 กม. หรือทุก 1 ปี

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!