มุมไบ, 7 พฤษภาคม 2567: อวาด้า เอนเนอร์ยี่ (Avaada Energy) บริษัทธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในเครืออวาด้า กรุ๊ป (Avaada Group) ประกาศความสำเร็จในการรีไฟแนนซ์วงเงินสูงเป็นอันดับต้น ๆ ในภาคพลังงานหมุนเวียนของอินเดีย ด้วยการระดมทุนวงเงินประมาณ 535 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากธนาคารแห่งชาติเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนา (NaBFID) ของรัฐบาลอินเดีย
การรีไฟแนนซ์ครั้งนี้ดำเนินการภายใต้โครงสร้างของกลุ่มที่ถูกจำกัดสิทธิ์ (RG) ซึ่งครอบคลุมโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่เชื่อมกับโครงข่ายสายส่งระหว่างรัฐภายในประเทศอินเดีย (ISTS) 4 โครงการ โดยมีกำลังการผลิตรวมประมาณ 1,700 เมกะวัตต์ในรัฐราชสถาน โครงสร้างดังกล่าวได้รับการจัดอันดับที่ “AA (Stable)” โดยแคร์เอจด์ เรทติงส์ (CareEdge Ratings)
การรีไฟแนนซ์ครั้งนี้ช่วยสนับสนุนอวาด้าในการเดินหน้าสู่อนาคตที่ยั่งยืน อีกทั้งยังช่วยสร้างความมั่นใจในกระแสเงินสดที่มั่นคงในระยะยาว และปรับปรุงสุขภาพทางการเงินให้ดีขึ้น ซึ่งมีส่วนช่วยอย่างมากในการผลิตพลังงานทดแทน ตลอดจนสนับสนุนให้อวาด้าลดการปล่อยคาร์บอนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในระดับสากล
เงินทุนที่ได้จาก NaBFID ซึ่งเป็นสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนาเฉพาะด้านที่รัฐบาลอินเดียได้จัดตั้งขึ้นนั้น เปิดโอกาสให้ชำระเงินกู้ยืมที่คงค้างอยู่ได้ก่อนกำหนด และยังทำให้ผู้ปล่อยกู้หลายรายได้รับการชำระเงินอย่างครบถ้วนและประสบความสำเร็จในการถอนตัวออกจากโครงการ วงเงินกู้นี้ได้รับการอนุมัติและเบิกจ่ายเป็นสินเชื่อกู้ยืมระยะยาวในสกุลเงินรูปี (RTL) ระยะเวลา 20 ปี โดยมีเงื่อนไขทางการค้าที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับเงินกู้ที่ชำระล่วงหน้าก่อนหน้านี้
นายวินิต มิตตัล (Vineet Mittal) ประธานอวาด้า กรุ๊ป กล่าวถึงความสำเร็จครั้งสำคัญนี้ว่า “เราได้บรรลุหมุดหมายสำคัญ ด้วยการรีไฟแนนซ์โครงการที่ใหญ่ที่สุดของเรา 4 โครงการในรัฐราชสถาน โครงการเหล่านี้ดำเนินการมาประมาณ 2 ปีแล้ว การรีไฟแนนซ์ครั้งนี้เป็นธุรกรรมที่มีวงเงินสูงเป็นอันดับต้น ๆ เท่าที่เคยดำเนินการมาในตลาดพลังงานหมุนเวียนของอินเดีย และเปิดโอกาสให้เราชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้รายเดิมได้ อีกทั้งยังได้ NaBFID เป็นสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้รายใหม่ ความสำเร็จนี้ตอกย้ำถึงความต้องการอย่างแรงกล้าในการสนับสนุนโครงการพลังงานหมุนเวียนที่ให้กระแสเงินสดที่มั่นคงและมีเสถียรภาพของเหล่าสถาบันการเงิน การได้รับข้อเสนออัตราดอกเบี้ยในอัตราที่ดีกว่าสำหรับโครงการที่อยู่ในระหว่างดำเนินการนั้น จะช่วยส่งเสริมผลกำไรของเรา ในขณะเดียวกันก็มอบคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดด้วยเช่นกัน”
เกี่ยวกับอวาด้า กรุ๊ป
อวาด้า กรุ๊ป (Avaada Group) เป็นองค์กรระดับแนวหน้าในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน และมีบทบาทในการผลิตพลังงานทดแทน ผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ พัฒนาเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นแอมโมเนียสีเขียว เมทานอลสีเขียว และเชื้อเพลิงอากาศยานที่ยั่งยืน รวมทั้งให้บริการโซลูชันกักเก็บพลังงาน ภายใต้การบริหารของนายวินิต มิตตัล (Vineet Mittal) ทำให้กลุ่มบริษัทฯ สามารถผงาดขึ้นเป็นผู้เล่นรายสำคัญในแวดวงพลังงานโลก ขณะที่ธุรกิจผลิตพลังงานหมุนเวียนในเครืออย่างอวาด้า เอนเนอร์ยี่ (Avaada Energy) ได้ตั้งเป้ากำลังผลิตให้อยู่ที่ระดับ 11 GWp ภายในปี 2569 และด้วยความสามารถในการดำเนินการที่แข็งแกร่งและประวัติผลงานที่ยอดเยี่ยมนี้เอง อวาด้าจึงได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศ ดังจะเห็นได้จากความสำเร็จในการเพิ่มทุนมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566 ซึ่งรวมถึงเงินลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐโดยกองทุนเอเนอร์จี ทรานสิชัน ฟันด์ (Energy Transition Fund) ของบริษัทบรูกฟิลด์ (Brookfield) และอีก 300 ล้านดอลลาร์จาก บมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี (GPSC) ของกลุ่ม ปตท.
มุมไบ, 7 พฤษภาคม 2567: อวาด้า เอนเนอร์ยี่ (Avaada Energy) บริษัทธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในเครืออวาด้า กรุ๊ป (Avaada Group) ประกาศความสำเร็จในการรีไฟแนนซ์วงเงินสูงเป็นอันดับต้น ๆ ในภาคพลังงานหมุนเวียนของอินเดีย ด้วยการระดมทุนวงเงินประมาณ 535 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากธนาคารแห่งชาติเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนา (NaBFID) ของรัฐบาลอินเดีย
การรีไฟแนนซ์ครั้งนี้ดำเนินการภายใต้โครงสร้างของกลุ่มที่ถูกจำกัดสิทธิ์ (RG) ซึ่งครอบคลุมโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่เชื่อมกับโครงข่ายสายส่งระหว่างรัฐภายในประเทศอินเดีย (ISTS) 4 โครงการ โดยมีกำลังการผลิตรวมประมาณ 1,700 เมกะวัตต์ในรัฐราชสถาน โครงสร้างดังกล่าวได้รับการจัดอันดับที่ “AA (Stable)” โดยแคร์เอจด์ เรทติงส์ (CareEdge Ratings)
การรีไฟแนนซ์ครั้งนี้ช่วยสนับสนุนอวาด้าในการเดินหน้าสู่อนาคตที่ยั่งยืน อีกทั้งยังช่วยสร้างความมั่นใจในกระแสเงินสดที่มั่นคงในระยะยาว และปรับปรุงสุขภาพทางการเงินให้ดีขึ้น ซึ่งมีส่วนช่วยอย่างมากในการผลิตพลังงานทดแทน ตลอดจนสนับสนุนให้อวาด้าลดการปล่อยคาร์บอนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในระดับสากล
เงินทุนที่ได้จาก NaBFID ซึ่งเป็นสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนาเฉพาะด้านที่รัฐบาลอินเดียได้จัดตั้งขึ้นนั้น เปิดโอกาสให้ชำระเงินกู้ยืมที่คงค้างอยู่ได้ก่อนกำหนด และยังทำให้ผู้ปล่อยกู้หลายรายได้รับการชำระเงินอย่างครบถ้วนและประสบความสำเร็จในการถอนตัวออกจากโครงการ วงเงินกู้นี้ได้รับการอนุมัติและเบิกจ่ายเป็นสินเชื่อกู้ยืมระยะยาวในสกุลเงินรูปี (RTL) ระยะเวลา 20 ปี โดยมีเงื่อนไขทางการค้าที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับเงินกู้ที่ชำระล่วงหน้าก่อนหน้านี้
นายวินิต มิตตัล (Vineet Mittal) ประธานอวาด้า กรุ๊ป กล่าวถึงความสำเร็จครั้งสำคัญนี้ว่า “เราได้บรรลุหมุดหมายสำคัญ ด้วยการรีไฟแนนซ์โครงการที่ใหญ่ที่สุดของเรา 4 โครงการในรัฐราชสถาน โครงการเหล่านี้ดำเนินการมาประมาณ 2 ปีแล้ว การรีไฟแนนซ์ครั้งนี้เป็นธุรกรรมที่มีวงเงินสูงเป็นอันดับต้น ๆ เท่าที่เคยดำเนินการมาในตลาดพลังงานหมุนเวียนของอินเดีย และเปิดโอกาสให้เราชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้รายเดิมได้ อีกทั้งยังได้ NaBFID เป็นสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้รายใหม่ ความสำเร็จนี้ตอกย้ำถึงความต้องการอย่างแรงกล้าในการสนับสนุนโครงการพลังงานหมุนเวียนที่ให้กระแสเงินสดที่มั่นคงและมีเสถียรภาพของเหล่าสถาบันการเงิน การได้รับข้อเสนออัตราดอกเบี้ยในอัตราที่ดีกว่าสำหรับโครงการที่อยู่ในระหว่างดำเนินการนั้น จะช่วยส่งเสริมผลกำไรของเรา ในขณะเดียวกันก็มอบคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดด้วยเช่นกัน”
เกี่ยวกับอวาด้า กรุ๊ป
อวาด้า กรุ๊ป (Avaada Group) เป็นองค์กรระดับแนวหน้าในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน และมีบทบาทในการผลิตพลังงานทดแทน ผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ พัฒนาเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นแอมโมเนียสีเขียว เมทานอลสีเขียว และเชื้อเพลิงอากาศยานที่ยั่งยืน รวมทั้งให้บริการโซลูชันกักเก็บพลังงาน ภายใต้การบริหารของนายวินิต มิตตัล (Vineet Mittal) ทำให้กลุ่มบริษัทฯ สามารถผงาดขึ้นเป็นผู้เล่นรายสำคัญในแวดวงพลังงานโลก ขณะที่ธุรกิจผลิตพลังงานหมุนเวียนในเครืออย่างอวาด้า เอนเนอร์ยี่ (Avaada Energy) ได้ตั้งเป้ากำลังผลิตให้อยู่ที่ระดับ 11 GWp ภายในปี 2569 และด้วยความสามารถในการดำเนินการที่แข็งแกร่งและประวัติผลงานที่ยอดเยี่ยมนี้เอง อวาด้าจึงได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศ ดังจะเห็นได้จากความสำเร็จในการเพิ่มทุนมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566 ซึ่งรวมถึงเงินลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐโดยกองทุนเอเนอร์จี ทรานสิชัน ฟันด์ (Energy Transition Fund) ของบริษัทบรูกฟิลด์ (Brookfield) และอีก 300 ล้านดอลลาร์จาก บมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี (GPSC) ของกลุ่ม ปตท.
