2010 EUROPEAN GRAND PRIX (Round 9) – Vettel คืนฟอร์ม กลับมาคว้าแชมป์


By : C. Methas – Managing Editor

European Grand Prix สนามที่ 9 ประจำฤดูกาล 2010 แข่งขันที่เซอร์กิตปิดถนนในเมืองท่า Balencia ประเทศสเปน Sebastian Vettel คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ หลังจากออกสตาร์ทจากหัวแถว โดยการออกสตาร์ทที่สนามนี้เป็นการช่วงชิงการนำกันอย่างดุเดือดเข้มข้นกว่าหลายสนามที่ผ่านมา มีการผลัดกันนำและล้อเบียดกันเกือบทุกโค้งในช่วงแรก

Sebastian Vettel คว้าแชมป์สนามนี้ได้ด้วยฝีมืออย่างแท้จริง หลังจากขับเคี่ยวกับคู่แข่งที่มีฝีมือไม่ด้อยกว่ากันและผ่านประสบการณ์มามากกว่าอย่าง Lewis Hamilton โดยตลอดการแข่งขันไล่กดดันตลอดทั้งเกมส์ แต่จุดพลิกผันกลับมาอยู่ที่ Hamilton ไปเสียเวลาในการถูกทำโทษ drive-through penalty ในรอบที่ 27 แต่ยังสามารถทำความเร็วเข้าเส้นชัยได้ในอันดับ 2 เนื่องจากสภาพเส้นทางแคบ โอกาสในการแซงกันค่อนข้างยาก

ทีม Red Bull ทำเวลาได้ดีตั้งแต่รอบควอลิฟาย ได้ออกสตาร์ทได้อันดับ 1-2 ตามมาด้วย Hamilton การออกสตาร์ทที่สนามนี้มีการเปลี่ยนแปลงอันดับกันหลายคันด้วยกัน ก่อนที่จะถึงโค้งแรก โดย Hamilton สามารถแซง Mark Webber ขึ้นไปอยู่อันดับ 2 และ Fernando Alonso แซง Webber ขึ้นไปอีกคันก่อนเข้าโค้งแรก นับว่าเป็นการออกสตาร์ทได้ไม่ดีของ Webber จากอันดับ 2 ร่วงไปอยู่ที่ 9 หลังจากออกสตาร์ท และ Hamilton ไล่จี้ติดรถของ Vettel โดยทั้งคู่เบียดจนยางกระทบกันเล็กน้อย โดยไม่มีใครเป็นฝ่ายผิด ทำให้แผงดักอากาศของ Hamilton เสียหายเล็กน้อย

ต่อมาในรอบที่ 10 ได้เกิดเหตุการณ์ที่ Webber ต้องจดจำไปอีกนาน ได้ทำสโลแกนของทีมที่ว่า “ติดปีกบิน”(“gives you wings”)ให้เป็นความจริงขึ้นมา โดยเมื่อออกจากพิทที่ต้องเข้าก่อนกำหนดแล้ว ในช่วงจังหวะของการแซง Heikki Kovalainen นักขับทีม Lotus ได้พุ่งเข้าชนท้ายอย่างรุนแรง จากความผิดพลาดของการกะระยะล้อหน้าของเขากับล้อหลังของ Heikki ในช่วงของการกดคันเร่งฉีกตัวรถขึ้นไป แต่ล้อไม่พ้น รถไปเสยท้ายรถของ Heikki อย่างเต็มแรง เป็นผลให้รถของ Webber ตีลังกาหมุนไปในอากาศและถลาด้านข้างลงกับพื้น จนไถลต่อเนื่องไปชนกำแพงยางอย่างแรง

Kovalainen กล่าวว่า เขาคิดว่า Webber คงเบรคไม่ทัน โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่เสียดายที่ไม่มีโอกาสได้แข่งต่อ ส่วน Webber กล่าวว่า เมื่อถึงช่วงคับขัน ไม่มีใครรู้ว่าอุบัติเหตุจะรุนแรงขนาดไหน แต่คิดว่าคงเป็นเพราะโครงสร้างแชสซีส์ที่ดีแข็งแรงของรถที่ช่วยให้เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ ตอนนั้นไม่ได้คิดถึงคะแนนที่ต้องการให้ทีม คิดถึงความปลอดภัยของตนเองมากกว่า เพื่อเตรียมแข่งในรายการ British Grand Prix ต่อไป

หลังเกิดอุบัติเหตุ รถเซฟตี้คาร์ออกมาวิ่งเคลียร์สนามและปรับขบวนกันใหม่ Vettle ยังคงอยู่หัวแถว ตามมาด้วย Hamilton และ Kamui Kobayashi จากทีม Sauber ที่สนามนี้เก็บแต้มได้จากการเข้าเส้นชัยในอันดับ 7 ซึ่งในรอบควอลิฟายรถเจอกับปัญหาหลายอย่างด้วยกัน

นักขับชาวญี่ปุ่นวัย 23 ปี Kamui Kobayashi ออกสตาร์ทด้วยยางชนิดแข็งและไม่ได้เข้าพิท ขณะที่นักขับอื่นพากันเข้าพิท จึงเลื่อนอันดับในสนามขึ้นมาเป็นตำแหน่งที่ 3 นำหน้า Button มากกว่า 40 รอบ อีก 4 รอบสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัย ต้องเข้าพิทเพื่อเปลี่ยนยางเป็นชนิดอ่อน และกลับเข้ามาในสนามเป็นอันดับที่ 9 ตามหลัง Alonso และทะยานผ่านทั้ง Alonso และ Sebastian Buemi เข้าเส้นชัยไปในอันดับที่ 7

Mark Webber ประสบอุปสรรคมากมาย ต้องออกจากการแข่งขัน ตั้งแต่การออกสตาร์ทได้ไม่ดีเท่าที่ควร เข้าพิทก่อนกำหนด และที่น่ากลัวที่สุดคืออุบัติเหตุที่พุ่งเข้าชนท้ายรถ Heikki Kovalainen นักขับทีมน้องใหม่ Lotus รถที่ Webber ขับ ถึงกลับตีลังกาขึ้นไปในอากาศ ข้ามหัว Kovalainenไป ก่อนที่เอาข้างกลับลงมาบนพื้นสนามอย่างน่าอัศจรรย์ ที่ Webber ได้รับบาดเจ็บเพียงแค่รอยขีดข่วนและรอยฟกช้ำเท่านั้น

Webber กล่าวในเชิงตำหนิว่า อุบัติเหตุเกิดจากการที่ Kovalainen ขับช้าขวางทาง ทำให้ Mike Gascoyne หัวหน้าแผนกเทคนิคของ Lotus ออกมาประกาศกร้าวว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ Webber ต้องรับผิดชอบ เพราะเมื่อต้องการแซง ควรตัดสินใจแซงเมื่อเห็นว่าปลอดภัย Kovalainen เพียงต้องการป้องกันตำแหน่งในสนามเท่านั้น ไม่ได้ขวางทางอย่างที่ Webber กล่าวหา

ทีม Ferrari ทำผลงานย่ำแย่ที่สนามนี้ Alonsoได้ 2 คะแนนจากอันดับ 9 Felipe Massa เข้าป้ายอันดับ14 ทั้ง ๆ ที่ออกสตาร์ทอยู่ในอันดับ 3 และ 4
ศึก European Grand Prix ครั้งนี้ ทีม McLaren โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุด โดย Lewis Hamilton และ Jenson Button สามารถคว้าอันดับ 2 และ 3 มาครองได้ อย่างไรก็ตามการได้อันดับ 2 ของ Hamilton เป็นที่ไม่พอใจของทีม Ferrari เป็นอย่างยิ่ง โดย Alonso และ Massa ออกมากล่าวหา ทีม McLaren ว่าเป็นขโมยและเป็นนักฉวยโอกาส จากการที่ Hamilton ไม่เคารพกฏ ขับผ่าน safety car ไปเข้าพิทก่อน แต่เขาทั้งสองคนเคารพกฏ โดยรออยู่หลัง safety car เป็นผลให้ Alonsoเองต้องเข้าเส้นขัยเป็นอันดับ 9

ส่วน Massa เข้าเป็นอันดับ14 ในขณะที่ Hamilton เพียงได้รับการลงโทษแค่ drive-through penalty ไม่เสียตำแหน่งในสนาม สามารถเร่งความเร็วจนเข้าเส้นชัยไปในอันดับ 2 ได้ และยังกล่าวหากรรมการ FIA ว่าไม่มีความยุติธรรม เข้าข้างทีม McLaren หลังจากนั้น Luca di Montezemolo ประธานทีมยังออกมาโอดครวญว่า บทลงโทษเบาเกินไป ไม่สมกับความผิด และจะทำให้ความน่าเชื่อถือของการแข่งฟอร์มูล่า-วันถดถอยลงไปด้วย จากการกล่าวหานี้เป็นผลให้ทีม Ferrari ถูกลงโทษทางวินัยจากคณะกรรมการ FIA

หลังจากสิ้นสุดการแข่งขันทางคณะกรรมการจัดการแข่งขันได้มีมติลงโทษนักขับที่ขับรถด้วยความเร็วในช่วงเซฟตี้คาร์ออกมาวิ่งเคลียร์สนาม ทำให้มีการทำโทษปรับเวลา 5 วินาที นักขับอันดับ 3-5 แต่ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอันดับ ไปมีการเปลี่ยนอันดับกับนักขับช่วงท้าย โดย Alonso ขยับขึ้นมารับอันดับ 8 Sebastien Buemi หล่นจากอันดับ 8 ไปอยู่ 9 Nico Rosberg ขึ้นมาอยู่ที่ 10 ส่วน Pedro de la Rosa ที่เข้าเส้นชัยอันดับ 10 หล่นไปอยู่ที่ 12 ไม่มีแต้ม

ส่วนทีมที่ผิดหวังมากที่สุด น่าจะเป็นทีม Mercedes ซึ่งถึงแม้จะมีความเชื่อมั่นในการปรับปรุงรถที่ใช้แข่งมาอย่างดี จากการที่ Nico Rosberg ประสบปัญหาเบรค ได้อันดับ 12 และ Michael Schumacher ซึ่งออกสตาร์ทได้ดีอยู่ในอันดับ4 แต่ประสบปัญหาการตัดสินใจในการใช้กลยุทธ์ จึงได้ไปเพียงอันดับ 16 ไม่สามารถทำคะแนนให้กับทีมได้

ทีมที่ทำความประหลาดใจให้กับทุกคนคือ ทีม Williams โดย Rubens Barrichello สามารถคว้าอันดับ 4 มาครอง เป็นผลงานที่ดีที่สุดของฤดูกาลนี้
ทีม McLaren ยังคงมีคะแนนนำทั้งประเภททีมผู้ผลิตและผู้ขับ ทีมอื่นๆที่ต้องการยืนบนโพเดียม คงต้องเตรียมพร้อมและฝึกซ้อมกันอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีม Red Bull

ผลการแข่งขัน European Grand Prix

อันดับ                 ผู้ขับ                  ทีม             เวลารวม

1 Sebastian Vettel Red Bull 1 ชั่วโมง 40 นาที 29.571 วินาที

2 Lewis Hamilton McLaren + 5.042 วินาที

3 Jenson Button McLaren + 7.658 วินาที

4 Rubens Barrichello Williams + 20.627 วินาที

5 Robert Kubica Renault + 22.122 วินาที

6 Adrian Sutil Force India + 25.168 วินาที

7 Kamui Kobayashi Sauber + 30.965 วินาที

8 Sebastien Buemi Toro Rosso + 31.299 วินาที

9 Fernando Alonso Ferrari + 32.809 วินาที

10 Pedro de la Rosa Sauber + 42.414 วินาที

สรุปคะแนนสะสมรวม 9 สนาม(หลังปรับคะแนนใหม่)

ประเภทผู้ขับ

อันดับ              ผู้ขับ            ทีม            คะแนนรวม

1 Lewis Hamilton McLaren 127

2 Jenson Button McLaren 121

3 Sebastian Vettel Red Bull 115

4 Mark Webber Red Bull 103

5 Fernando Alonso Ferrari 98

6 Robert Kubica Ranault 83

7 Nico Rosberg Mercedes 75

8 Felipe Massa Ferrari 67

9 Michael Schumacher Mercedes 34

10 Adrian Sutil Force India 31

ประเภททีมผู้ผลิต

อันดับ              ทีม           คะแนนรวม

1 McLaren 248

2 Red Bull 218

3 Ferrari 165

4 Mercedes 109

5 Renault 89

6 Force India 43

7 Williams 20

8 Toro Rosso 10

9 Sauber 7

By : C. Methas - Managing Editor

European Grand Prix สนามที่ 9 ประจำฤดูกาล 2010 แข่งขันที่เซอร์กิตปิดถนนในเมืองท่า Balencia ประเทศสเปน Sebastian Vettel คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ หลังจากออกสตาร์ทจากหัวแถว โดยการออกสตาร์ทที่สนามนี้เป็นการช่วงชิงการนำกันอย่างดุเดือดเข้มข้นกว่าหลายสนามที่ผ่านมา มีการผลัดกันนำและล้อเบียดกันเกือบทุกโค้งในช่วงแรก

Sebastian Vettel คว้าแชมป์สนามนี้ได้ด้วยฝีมืออย่างแท้จริง หลังจากขับเคี่ยวกับคู่แข่งที่มีฝีมือไม่ด้อยกว่ากันและผ่านประสบการณ์มามากกว่าอย่าง Lewis Hamilton โดยตลอดการแข่งขันไล่กดดันตลอดทั้งเกมส์ แต่จุดพลิกผันกลับมาอยู่ที่ Hamilton ไปเสียเวลาในการถูกทำโทษ drive-through penalty ในรอบที่ 27 แต่ยังสามารถทำความเร็วเข้าเส้นชัยได้ในอันดับ 2 เนื่องจากสภาพเส้นทางแคบ โอกาสในการแซงกันค่อนข้างยาก

ทีม Red Bull ทำเวลาได้ดีตั้งแต่รอบควอลิฟาย ได้ออกสตาร์ทได้อันดับ 1-2 ตามมาด้วย Hamilton การออกสตาร์ทที่สนามนี้มีการเปลี่ยนแปลงอันดับกันหลายคันด้วยกัน ก่อนที่จะถึงโค้งแรก โดย Hamilton สามารถแซง Mark Webber ขึ้นไปอยู่อันดับ 2 และ Fernando Alonso แซง Webber ขึ้นไปอีกคันก่อนเข้าโค้งแรก นับว่าเป็นการออกสตาร์ทได้ไม่ดีของ Webber จากอันดับ 2 ร่วงไปอยู่ที่ 9 หลังจากออกสตาร์ท และ Hamilton ไล่จี้ติดรถของ Vettel โดยทั้งคู่เบียดจนยางกระทบกันเล็กน้อย โดยไม่มีใครเป็นฝ่ายผิด ทำให้แผงดักอากาศของ Hamilton เสียหายเล็กน้อย

ต่อมาในรอบที่ 10 ได้เกิดเหตุการณ์ที่ Webber ต้องจดจำไปอีกนาน ได้ทำสโลแกนของทีมที่ว่า “ติดปีกบิน”(“gives you wings”)ให้เป็นความจริงขึ้นมา โดยเมื่อออกจากพิทที่ต้องเข้าก่อนกำหนดแล้ว ในช่วงจังหวะของการแซง Heikki Kovalainen นักขับทีม Lotus ได้พุ่งเข้าชนท้ายอย่างรุนแรง จากความผิดพลาดของการกะระยะล้อหน้าของเขากับล้อหลังของ Heikki ในช่วงของการกดคันเร่งฉีกตัวรถขึ้นไป แต่ล้อไม่พ้น รถไปเสยท้ายรถของ Heikki อย่างเต็มแรง เป็นผลให้รถของ Webber ตีลังกาหมุนไปในอากาศและถลาด้านข้างลงกับพื้น จนไถลต่อเนื่องไปชนกำแพงยางอย่างแรง

Kovalainen กล่าวว่า เขาคิดว่า Webber คงเบรคไม่ทัน โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่เสียดายที่ไม่มีโอกาสได้แข่งต่อ ส่วน Webber กล่าวว่า เมื่อถึงช่วงคับขัน ไม่มีใครรู้ว่าอุบัติเหตุจะรุนแรงขนาดไหน แต่คิดว่าคงเป็นเพราะโครงสร้างแชสซีส์ที่ดีแข็งแรงของรถที่ช่วยให้เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ ตอนนั้นไม่ได้คิดถึงคะแนนที่ต้องการให้ทีม คิดถึงความปลอดภัยของตนเองมากกว่า เพื่อเตรียมแข่งในรายการ British Grand Prix ต่อไป

หลังเกิดอุบัติเหตุ รถเซฟตี้คาร์ออกมาวิ่งเคลียร์สนามและปรับขบวนกันใหม่ Vettle ยังคงอยู่หัวแถว ตามมาด้วย Hamilton และ Kamui Kobayashi จากทีม Sauber ที่สนามนี้เก็บแต้มได้จากการเข้าเส้นชัยในอันดับ 7 ซึ่งในรอบควอลิฟายรถเจอกับปัญหาหลายอย่างด้วยกัน

นักขับชาวญี่ปุ่นวัย 23 ปี Kamui Kobayashi ออกสตาร์ทด้วยยางชนิดแข็งและไม่ได้เข้าพิท ขณะที่นักขับอื่นพากันเข้าพิท จึงเลื่อนอันดับในสนามขึ้นมาเป็นตำแหน่งที่ 3 นำหน้า Button มากกว่า 40 รอบ อีก 4 รอบสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัย ต้องเข้าพิทเพื่อเปลี่ยนยางเป็นชนิดอ่อน และกลับเข้ามาในสนามเป็นอันดับที่ 9 ตามหลัง Alonso และทะยานผ่านทั้ง Alonso และ Sebastian Buemi เข้าเส้นชัยไปในอันดับที่ 7

Mark Webber ประสบอุปสรรคมากมาย ต้องออกจากการแข่งขัน ตั้งแต่การออกสตาร์ทได้ไม่ดีเท่าที่ควร เข้าพิทก่อนกำหนด และที่น่ากลัวที่สุดคืออุบัติเหตุที่พุ่งเข้าชนท้ายรถ Heikki Kovalainen นักขับทีมน้องใหม่ Lotus รถที่ Webber ขับ ถึงกลับตีลังกาขึ้นไปในอากาศ ข้ามหัว Kovalainenไป ก่อนที่เอาข้างกลับลงมาบนพื้นสนามอย่างน่าอัศจรรย์ ที่ Webber ได้รับบาดเจ็บเพียงแค่รอยขีดข่วนและรอยฟกช้ำเท่านั้น

Webber กล่าวในเชิงตำหนิว่า อุบัติเหตุเกิดจากการที่ Kovalainen ขับช้าขวางทาง ทำให้ Mike Gascoyne หัวหน้าแผนกเทคนิคของ Lotus ออกมาประกาศกร้าวว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ Webber ต้องรับผิดชอบ เพราะเมื่อต้องการแซง ควรตัดสินใจแซงเมื่อเห็นว่าปลอดภัย Kovalainen เพียงต้องการป้องกันตำแหน่งในสนามเท่านั้น ไม่ได้ขวางทางอย่างที่ Webber กล่าวหา

ทีม Ferrari ทำผลงานย่ำแย่ที่สนามนี้ Alonsoได้ 2 คะแนนจากอันดับ 9 Felipe Massa เข้าป้ายอันดับ14 ทั้ง ๆ ที่ออกสตาร์ทอยู่ในอันดับ 3 และ 4 ศึก European Grand Prix ครั้งนี้ ทีม McLaren โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุด โดย Lewis Hamilton และ Jenson Button สามารถคว้าอันดับ 2 และ 3 มาครองได้ อย่างไรก็ตามการได้อันดับ 2 ของ Hamilton เป็นที่ไม่พอใจของทีม Ferrari เป็นอย่างยิ่ง โดย Alonso และ Massa ออกมากล่าวหา ทีม McLaren ว่าเป็นขโมยและเป็นนักฉวยโอกาส จากการที่ Hamilton ไม่เคารพกฏ ขับผ่าน safety car ไปเข้าพิทก่อน แต่เขาทั้งสองคนเคารพกฏ โดยรออยู่หลัง safety car เป็นผลให้ Alonsoเองต้องเข้าเส้นขัยเป็นอันดับ 9

ส่วน Massa เข้าเป็นอันดับ14 ในขณะที่ Hamilton เพียงได้รับการลงโทษแค่ drive-through penalty ไม่เสียตำแหน่งในสนาม สามารถเร่งความเร็วจนเข้าเส้นชัยไปในอันดับ 2 ได้ และยังกล่าวหากรรมการ FIA ว่าไม่มีความยุติธรรม เข้าข้างทีม McLaren หลังจากนั้น Luca di Montezemolo ประธานทีมยังออกมาโอดครวญว่า บทลงโทษเบาเกินไป ไม่สมกับความผิด และจะทำให้ความน่าเชื่อถือของการแข่งฟอร์มูล่า-วันถดถอยลงไปด้วย จากการกล่าวหานี้เป็นผลให้ทีม Ferrari ถูกลงโทษทางวินัยจากคณะกรรมการ FIA

หลังจากสิ้นสุดการแข่งขันทางคณะกรรมการจัดการแข่งขันได้มีมติลงโทษนักขับที่ขับรถด้วยความเร็วในช่วงเซฟตี้คาร์ออกมาวิ่งเคลียร์สนาม ทำให้มีการทำโทษปรับเวลา 5 วินาที นักขับอันดับ 3-5 แต่ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอันดับ ไปมีการเปลี่ยนอันดับกับนักขับช่วงท้าย โดย Alonso ขยับขึ้นมารับอันดับ 8 Sebastien Buemi หล่นจากอันดับ 8 ไปอยู่ 9 Nico Rosberg ขึ้นมาอยู่ที่ 10 ส่วน Pedro de la Rosa ที่เข้าเส้นชัยอันดับ 10 หล่นไปอยู่ที่ 12 ไม่มีแต้ม

ส่วนทีมที่ผิดหวังมากที่สุด น่าจะเป็นทีม Mercedes ซึ่งถึงแม้จะมีความเชื่อมั่นในการปรับปรุงรถที่ใช้แข่งมาอย่างดี จากการที่ Nico Rosberg ประสบปัญหาเบรค ได้อันดับ 12 และ Michael Schumacher ซึ่งออกสตาร์ทได้ดีอยู่ในอันดับ4 แต่ประสบปัญหาการตัดสินใจในการใช้กลยุทธ์ จึงได้ไปเพียงอันดับ 16 ไม่สามารถทำคะแนนให้กับทีมได้

ทีมที่ทำความประหลาดใจให้กับทุกคนคือ ทีม Williams โดย Rubens Barrichello สามารถคว้าอันดับ 4 มาครอง เป็นผลงานที่ดีที่สุดของฤดูกาลนี้ ทีม McLaren ยังคงมีคะแนนนำทั้งประเภททีมผู้ผลิตและผู้ขับ ทีมอื่นๆที่ต้องการยืนบนโพเดียม คงต้องเตรียมพร้อมและฝึกซ้อมกันอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีม Red Bull

ผลการแข่งขัน European Grand Prix

อันดับ                 ผู้ขับ                  ทีม             เวลารวม

1 Sebastian Vettel Red Bull 1 ชั่วโมง 40 นาที 29.571 วินาที

2 Lewis Hamilton McLaren + 5.042 วินาที

3 Jenson Button McLaren + 7.658 วินาที

4 Rubens Barrichello Williams + 20.627 วินาที

5 Robert Kubica Renault + 22.122 วินาที

6 Adrian Sutil Force India + 25.168 วินาที

7 Kamui Kobayashi Sauber + 30.965 วินาที

8 Sebastien Buemi Toro Rosso + 31.299 วินาที

9 Fernando Alonso Ferrari + 32.809 วินาที

10 Pedro de la Rosa Sauber + 42.414 วินาที

สรุปคะแนนสะสมรวม 9 สนาม(หลังปรับคะแนนใหม่)

ประเภทผู้ขับ

อันดับ              ผู้ขับ            ทีม            คะแนนรวม

1 Lewis Hamilton McLaren 127

2 Jenson Button McLaren 121

3 Sebastian Vettel Red Bull 115

4 Mark Webber Red Bull 103

5 Fernando Alonso Ferrari 98

6 Robert Kubica Ranault 83

7 Nico Rosberg Mercedes 75

8 Felipe Massa Ferrari 67

9 Michael Schumacher Mercedes 34

10 Adrian Sutil Force India 31

ประเภททีมผู้ผลิต

อันดับ              ทีม           คะแนนรวม

1 McLaren 248

2 Red Bull 218

3 Ferrari 165

4 Mercedes 109

5 Renault 89

6 Force India 43

7 Williams 20

8 Toro Rosso 10

9 Sauber 7

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!