By : C. Methas – Managing Editor
Ferrari กลับมาคืนฟอร์มดุอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปหลายสนามติดต่อกัน ด้วยการเรียงแถวผ่านธงตราหมากรุกในอันดับ 1-2 คว้าแชมป์ในศึก Germany Grand Prix แบบม้วนเดียวจบ หลังจากออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม ชิงเข้าโค้งแรกไปก่อนทั้งสองคัน โดย Fernando Alonso เข้าเส้นชัยไปเป็นคันแรก
แต่จากการคว้าแชมป์สนามนี้ของสองคู่หูทีม Ferrari เป็นการเปิดทางให้ของ Felipe Massa ตามคำสั่งจากทีมงาน เนื่องจากมีคะแนนสะสมที่ยังมีโอกาสในการคว้าแชมป์ในปีนี้ และทาง Fernando Alonso ยังออกมาให้สัมภาษณ์ว่าการคว้าแชมป์ครั้งนี้เป็นความภูมิใจและแชมป์ทุกครั้งนับว่าเป็นสิ่งที่สวยงามมาก ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเล่นเกมส์โกง จนกระทั่งมีการสอบสวนจาก FIA และสั่งทำโทษปรับเป็นเงิน 1 แสนเหรียญหรือประมาณ 3.3 ล้านบาท
ทีม Ferrari เคยใช้คำสั่งทีมให้นักขับของทีมที่ไม่มีโอกาสคว้าแชมป์โลกในปีนั้น ๆ เปิดทางให้นักขับอีกรายคว้าแชมป์เมื่อหลายปีก่อน สมัย Michael Schumacher ประกบคู่กับ Rubens Barrichello โดยคำสั่งทีมให้ Barrichello เปิดทางให้ Schumacher เข้าเส้นชัยไปก่อนในศึก U.S. Grand Prix
ส่วนทาง Fernando Alonso ก็เคยมีคดีเช่นเดียวกันนี้ สมัยสังกัดทีม Renault ในรายการ Singapore Grand Prix เมื่อปี 2008 โดยทางทีมสั่งให้ Nelson Piquet Jr. คู่หูของทีม ขับรถพุ่งชนกำแพง เพื่อให้รถเซฟตี้คาร์ออกมา ซึ่งจะเป็นการเปิดทางให้ Fernando Alonso แซงขึ้นไปคว้าแชมป์ได้สำเร็จ
Sebastian Vettel ที่ออกสตาร์ทจากโพล โพสิชั่นเป็นสนามที่ 6 ของฤดูกาลนี้ ออกตัวได้ไม่ดี จนถูก Felipe Massa แซงขึ้นไปเป็นคันแรกจากการออกสตาร์ทจากอันดับ 3 และมาถูก Fernando Alonso แซงขี้นไปอีกคันตั้งแต่ก่อนเข้าโค้งแรก มาเข้าเส้นชัยในอันดับ 3 โดย Lewis Hamilton ตามมาในอันดับ 4 ยังคงมีคะแนนสะสมอยู่หัวแถวหลังสิ้นสุดรายการนี้
หลังจากทีม Ferrari ถูก FIA ทำโทษปรับไปถึง 100,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ กรณีคำสั่งจากทีมครั้งนี้ เนื่องจากฝ่าฝืนกฎข้อที่ 39.1 และจากการฝ่าฝืนข้อบังคับทั่ว ๆไป สื่อนานาชาติอย่าง Blick (Switzerland), Turun Sanomat (Finland), Autosprint (Italy), Bild (Germany) และ Marca (Spain) ได้ออกมาวิจารณ์ว่า ทาง FIA อาจจะไม่กำหนดการประชุมพิเศษที่จะพิจารณาการถึงการคว้าแชมป์สนามนี้ของทีม Ferrari แต่ทางโฆษกของ FIA มาให้กล่าวว่า ยังไม่มีการกำหนดวันและเวลาที่แน่นอน หลังมีข่าวว่าจะกำหนดประชุมในเดือนกันยายนนี้
คำสั่งจากทีม Ferrari ที่สั่งให้ Felipe Massa ชะลอความเร็วลงเพื่อให้ Alonso แซงขึ้นไป เกิดขึ้นในรอบที่ 49 โดยวิศวกรประจำตัวของ Massa ได้วิทยุไปว่า รถของ Alonso ทำเวลาได้เร็วกว่า ซึ่งทาง Massa ก็รู้ลึกถึงความหมายดังกล่าว จึงเปิดทางให้แซงขึ้นไปในช่วงเข้าโค้ง
Sebastian Vettel พลาดท่าในช่วงออกสตาร์ท ซึ่งกล่าวว่า ในช่วง 5-10 เมตรแรกรถออกตัวช้ามาก แม้ว่าเขาจะกดคันเร่งเต็มที่ แต่นับว่ายังโชคดีที่เครื่องยนต์ไม่ดับจากการกดคลัทช์ลงไป และรถได้สูญเสียการทรงตัวไปส่วนหนึ่ง
แต่ยังสามารถได้ขึ้นโพเดี้ยมในอันดับ 3 โดยไล่กดดัน Felipe Massa อย่างหนักหน่วงเพื่อช่วงชิงอันดับ 2 และเกือบทำได้สำเร็จในช่วงท้ายเกมส์ ทำเวลาเข้าเส้นชัยตามหลัง Massa เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น ส่วน Mark Webber ที่ออกสตาร์ทจากอันดับ 4 ได้ไม่ดีเช่นกัน มาเข้าเส้นชัยในอันดับ 6 โดยอันดับ 4-5 เป็นของสองคู่หูจากทีม McLaren
Fernando Alonso คว้าแชมป์เป็นสนามที่สองของปีนี้ และเป็นการเข้าเส้นชัยในอันดับ 1-2 ของทีม Ferrari เป็นสนามที่สองเช่นกัน โดยทำได้สนามแรกที่ Bahrain Grand Prix สนามเปิดฤดูกาล
หลังสิ้นสุดสนามนี้ คะแนนสะสมหัวแถวประเภทผู้ขับยังคงเป็นของ Lewis Hamilton ตามมาด้วย Jenson Button เพื่อนร่วมทีม โดยสองนักขับจากทีม Red Bull ตามมาในอันดับ 3-4
ผลการแข่งขัน Germany Grand Prix
อันดับ ผู้ขับ ทีม เวลารวม
1 Fernando Alonso Ferrari 1 ชั่วโมง 28 นาที 38.866 วินาที
2 Felipe Massa Ferrari + 4.196 วินาที
3 Sebastian Vettel Red Bull + 5.121 วินาที
4 Lewis Hamilton McLaren + 26.896 วินาที
5 Jenson Button McLaren + 29.482 วินาที
6 Mark Webber Red Bull + 31.456 วินาที
7 Robert Kubica Renault + 1 รอบ
8 Nico Rosberg Mercedes + 1 รอบ
9 Michael Schumacher Mercedes + 1 รอบ
10 Vitaly Petrov Renault + 1 รอบ
สรุปคะแนนสะสมรวม 11 สนาม
ประเภทผู้ขับ
อันดับ ผู้ขับ ทีม คะแนนรวม
1 Lewis Hamilton McLaren 157
2 Jenson Button McLaren 143
3 Mark Webber Red Bull 136
4 Sebastian Vettel Red Bull 136
5 Fernando Alonso Ferrari 123
6 Nico Rosberg Mercedes 94
7 Robert Kubica Renault 89
8 Felipe Massa Ferrari 85
9 Michael Schumacher Mercedes 38
10 Adrian Sutil Force India 35
ประเภททีมผู้ผลิต
อันดับ ทีม คะแนนรวม
1 McLaren 300
2 Red Bull 272
3 Ferrari 208
4 Mercedes 132
5 Renault 96
6 Force India 47
7 Williams 31
8 Sauber 15
9 Toro Rosso 10
By : C. Methas - Managing Editor
Ferrari กลับมาคืนฟอร์มดุอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปหลายสนามติดต่อกัน ด้วยการเรียงแถวผ่านธงตราหมากรุกในอันดับ 1-2 คว้าแชมป์ในศึก Germany Grand Prix แบบม้วนเดียวจบ หลังจากออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม ชิงเข้าโค้งแรกไปก่อนทั้งสองคัน โดย Fernando Alonso เข้าเส้นชัยไปเป็นคันแรก
แต่จากการคว้าแชมป์สนามนี้ของสองคู่หูทีม Ferrari เป็นการเปิดทางให้ของ Felipe Massa ตามคำสั่งจากทีมงาน เนื่องจากมีคะแนนสะสมที่ยังมีโอกาสในการคว้าแชมป์ในปีนี้ และทาง Fernando Alonso ยังออกมาให้สัมภาษณ์ว่าการคว้าแชมป์ครั้งนี้เป็นความภูมิใจและแชมป์ทุกครั้งนับว่าเป็นสิ่งที่สวยงามมาก ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเล่นเกมส์โกง จนกระทั่งมีการสอบสวนจาก FIA และสั่งทำโทษปรับเป็นเงิน 1 แสนเหรียญหรือประมาณ 3.3 ล้านบาท
ทีม Ferrari เคยใช้คำสั่งทีมให้นักขับของทีมที่ไม่มีโอกาสคว้าแชมป์โลกในปีนั้น ๆ เปิดทางให้นักขับอีกรายคว้าแชมป์เมื่อหลายปีก่อน สมัย Michael Schumacher ประกบคู่กับ Rubens Barrichello โดยคำสั่งทีมให้ Barrichello เปิดทางให้ Schumacher เข้าเส้นชัยไปก่อนในศึก U.S. Grand Prix
ส่วนทาง Fernando Alonso ก็เคยมีคดีเช่นเดียวกันนี้ สมัยสังกัดทีม Renault ในรายการ Singapore Grand Prix เมื่อปี 2008 โดยทางทีมสั่งให้ Nelson Piquet Jr. คู่หูของทีม ขับรถพุ่งชนกำแพง เพื่อให้รถเซฟตี้คาร์ออกมา ซึ่งจะเป็นการเปิดทางให้ Fernando Alonso แซงขึ้นไปคว้าแชมป์ได้สำเร็จ
Sebastian Vettel ที่ออกสตาร์ทจากโพล โพสิชั่นเป็นสนามที่ 6 ของฤดูกาลนี้ ออกตัวได้ไม่ดี จนถูก Felipe Massa แซงขึ้นไปเป็นคันแรกจากการออกสตาร์ทจากอันดับ 3 และมาถูก Fernando Alonso แซงขี้นไปอีกคันตั้งแต่ก่อนเข้าโค้งแรก มาเข้าเส้นชัยในอันดับ 3 โดย Lewis Hamilton ตามมาในอันดับ 4 ยังคงมีคะแนนสะสมอยู่หัวแถวหลังสิ้นสุดรายการนี้
หลังจากทีม Ferrari ถูก FIA ทำโทษปรับไปถึง 100,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ กรณีคำสั่งจากทีมครั้งนี้ เนื่องจากฝ่าฝืนกฎข้อที่ 39.1 และจากการฝ่าฝืนข้อบังคับทั่ว ๆไป สื่อนานาชาติอย่าง Blick (Switzerland), Turun Sanomat (Finland), Autosprint (Italy), Bild (Germany) และ Marca (Spain) ได้ออกมาวิจารณ์ว่า ทาง FIA อาจจะไม่กำหนดการประชุมพิเศษที่จะพิจารณาการถึงการคว้าแชมป์สนามนี้ของทีม Ferrari แต่ทางโฆษกของ FIA มาให้กล่าวว่า ยังไม่มีการกำหนดวันและเวลาที่แน่นอน หลังมีข่าวว่าจะกำหนดประชุมในเดือนกันยายนนี้
คำสั่งจากทีม Ferrari ที่สั่งให้ Felipe Massa ชะลอความเร็วลงเพื่อให้ Alonso แซงขึ้นไป เกิดขึ้นในรอบที่ 49 โดยวิศวกรประจำตัวของ Massa ได้วิทยุไปว่า รถของ Alonso ทำเวลาได้เร็วกว่า ซึ่งทาง Massa ก็รู้ลึกถึงความหมายดังกล่าว จึงเปิดทางให้แซงขึ้นไปในช่วงเข้าโค้ง
Sebastian Vettel พลาดท่าในช่วงออกสตาร์ท ซึ่งกล่าวว่า ในช่วง 5-10 เมตรแรกรถออกตัวช้ามาก แม้ว่าเขาจะกดคันเร่งเต็มที่ แต่นับว่ายังโชคดีที่เครื่องยนต์ไม่ดับจากการกดคลัทช์ลงไป และรถได้สูญเสียการทรงตัวไปส่วนหนึ่ง
แต่ยังสามารถได้ขึ้นโพเดี้ยมในอันดับ 3 โดยไล่กดดัน Felipe Massa อย่างหนักหน่วงเพื่อช่วงชิงอันดับ 2 และเกือบทำได้สำเร็จในช่วงท้ายเกมส์ ทำเวลาเข้าเส้นชัยตามหลัง Massa เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น ส่วน Mark Webber ที่ออกสตาร์ทจากอันดับ 4 ได้ไม่ดีเช่นกัน มาเข้าเส้นชัยในอันดับ 6 โดยอันดับ 4-5 เป็นของสองคู่หูจากทีม McLaren Fernando Alonso คว้าแชมป์เป็นสนามที่สองของปีนี้ และเป็นการเข้าเส้นชัยในอันดับ 1-2 ของทีม Ferrari เป็นสนามที่สองเช่นกัน โดยทำได้สนามแรกที่ Bahrain Grand Prix สนามเปิดฤดูกาล
หลังสิ้นสุดสนามนี้ คะแนนสะสมหัวแถวประเภทผู้ขับยังคงเป็นของ Lewis Hamilton ตามมาด้วย Jenson Button เพื่อนร่วมทีม โดยสองนักขับจากทีม Red Bull ตามมาในอันดับ 3-4
ผลการแข่งขัน Germany Grand Prix
อันดับ ผู้ขับ ทีม เวลารวม
1 Fernando Alonso Ferrari 1 ชั่วโมง 28 นาที 38.866 วินาที
2 Felipe Massa Ferrari + 4.196 วินาที
3 Sebastian Vettel Red Bull + 5.121 วินาที
4 Lewis Hamilton McLaren + 26.896 วินาที
5 Jenson Button McLaren + 29.482 วินาที
6 Mark Webber Red Bull + 31.456 วินาที
7 Robert Kubica Renault + 1 รอบ
8 Nico Rosberg Mercedes + 1 รอบ
9 Michael Schumacher Mercedes + 1 รอบ
10 Vitaly Petrov Renault + 1 รอบ
สรุปคะแนนสะสมรวม 11 สนาม
ประเภทผู้ขับ
อันดับ ผู้ขับ ทีม คะแนนรวม
1 Lewis Hamilton McLaren 157
2 Jenson Button McLaren 143
3 Mark Webber Red Bull 136
4 Sebastian Vettel Red Bull 136
5 Fernando Alonso Ferrari 123
6 Nico Rosberg Mercedes 94
7 Robert Kubica Renault 89
8 Felipe Massa Ferrari 85
9 Michael Schumacher Mercedes 38
10 Adrian Sutil Force India 35
ประเภททีมผู้ผลิต
อันดับ ทีม คะแนนรวม
1 McLaren 300
2 Red Bull 272
3 Ferrari 208
4 Mercedes 132
5 Renault 96
6 Force India 47
7 Williams 31
8 Sauber 15
9 Toro Rosso 10
