By : C. Methas – Managing Editor
Ticonderoga Class เรือลาดตระเวณติดขีปนาวุธนำวิถีของกองทัพเรือสหรัฐฯ ผลิตสร้างระหว่างปี ค.ศ. 1983 ถึงปี ค.ศ. 1994 โดย Ingalls Shipbuilding ที่มีอู่ต่อเรืออยู่ที่ Pascagoula, Mississippi ซึ่งได้ผลิตออกมาจำนวน 22 ลำ
ปัจจุบันเรือลาดตระเวณรุ่นนี้ยังคงเข้าประจำการโดยปฏิบัติการในกองเรือ US Navy Atlantic Fleet จำนวน 11 ลำ และปฏิบัติการใน Pacific Fleet จำนวน 11 ลำ โดยประจำการที่ฐานทัพเรือของสหรัฐที่ประเทศญี่ปุ่นในเมืองโยโกซูกะ เจ้าหน้าที่ประจำการ 358 นาย
Ticonderoga Class ได้เข้าร่วมปฏิบัติการในช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซีย ช่วงปี ค.ศ. 1991 และในปี ค.ศ. 1993 ปล่อยขีปนาวุธ Tomahawk สู่อิรักช่วงรักษาเขตปลอดการบิน และเข้าร่วมปฏิบัติการในเหตุการณ์ความขัดแย้งในบอสเนียเมื่อปี ค.ศ. 1995
Ticonderoga Class มีขนาด 3,500 ตันติดตั้งอาวุธประจำการทั้งในด้านการโจมตีและการป้องกันตนเอง มีทอร์ปิโดทำลายเรือดำน้ำและขีปนาวุธที่ปล่อยจากภาคพื้นสู่ภาคพื้นและจากภาคพื้นสู่อากาศ โดยระบบควบคุมอาวุธเป็นแบบ Aegis Combat System ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิคส์เซ็นเซอร์
ขีปนาวุธแบบยิงแนวตั้งจำนวน 2 ชุด รุ่น MK 41 ซึ่งต่อมาได้รับการพัฒนาให้สามารถปล่อยขีปนาวุธ Seasparrow ขีปนาวุธจากพื้นผิวสู่พื้นผิว Tomahawk และปล่อยขีปนาวุธ Harpoon จากภาคพื้นสู่ภาคพื้น รัศมีการโจมตี 125 กิโลเมตร และทอร์ปิโดท่อขนาด 324 มม. 2 ชุด, ทอร์ปิโด MK46 ต่อต้านเรือดำน้ำและ MK 50, ปืน MK 45 ขนาด 127 มม. จำนวน 2 กระบอก
ขีปนาวุธจากภาคพื้นสู่อากาศ 2MR มีระบบนำร่องด้วยเรดาร์ รัศมีการโจมตี 70 กิโลเมตร ติดตั้งระบบนำร่องทางยุทธวิธี URN25 และระบบโซน่าร์ AN/SQQ-89
เครื่องยนต์แบบแก๊สเทอร์ไบ จำนวน 4 เครื่อง รุ่น GE LM 2500 สามารถขับแรงม้าสูงสุดได้ 86,000 แรงม้า รัศมีการปฏิบัติการระยะไกลเกินกว่า 6,000 ไมล์ โดยทำความเร็วปกติ 20 น๊อตและทำความเร็วสูงสุดเกินกว่า 30 น๊อต
By : C. Methas - Managing Editor
Ticonderoga Class เรือลาดตระเวณติดขีปนาวุธนำวิถีของกองทัพเรือสหรัฐฯ ผลิตสร้างระหว่างปี ค.ศ. 1983 ถึงปี ค.ศ. 1994 โดย Ingalls Shipbuilding ที่มีอู่ต่อเรืออยู่ที่ Pascagoula, Mississippi ซึ่งได้ผลิตออกมาจำนวน 22 ลำ
ปัจจุบันเรือลาดตระเวณรุ่นนี้ยังคงเข้าประจำการโดยปฏิบัติการในกองเรือ US Navy Atlantic Fleet จำนวน 11 ลำ และปฏิบัติการใน Pacific Fleet จำนวน 11 ลำ โดยประจำการที่ฐานทัพเรือของสหรัฐที่ประเทศญี่ปุ่นในเมืองโยโกซูกะ เจ้าหน้าที่ประจำการ 358 นาย
Ticonderoga Class ได้เข้าร่วมปฏิบัติการในช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซีย ช่วงปี ค.ศ. 1991 และในปี ค.ศ. 1993 ปล่อยขีปนาวุธ Tomahawk สู่อิรักช่วงรักษาเขตปลอดการบิน และเข้าร่วมปฏิบัติการในเหตุการณ์ความขัดแย้งในบอสเนียเมื่อปี ค.ศ. 1995
Ticonderoga Class มีขนาด 3,500 ตันติดตั้งอาวุธประจำการทั้งในด้านการโจมตีและการป้องกันตนเอง มีทอร์ปิโดทำลายเรือดำน้ำและขีปนาวุธที่ปล่อยจากภาคพื้นสู่ภาคพื้นและจากภาคพื้นสู่อากาศ โดยระบบควบคุมอาวุธเป็นแบบ Aegis Combat System ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิคส์เซ็นเซอร์
ขีปนาวุธแบบยิงแนวตั้งจำนวน 2 ชุด รุ่น MK 41 ซึ่งต่อมาได้รับการพัฒนาให้สามารถปล่อยขีปนาวุธ Seasparrow ขีปนาวุธจากพื้นผิวสู่พื้นผิว Tomahawk และปล่อยขีปนาวุธ Harpoon จากภาคพื้นสู่ภาคพื้น รัศมีการโจมตี 125 กิโลเมตร และทอร์ปิโดท่อขนาด 324 มม. 2 ชุด, ทอร์ปิโด MK46 ต่อต้านเรือดำน้ำและ MK 50, ปืน MK 45 ขนาด 127 มม. จำนวน 2 กระบอก
ขีปนาวุธจากภาคพื้นสู่อากาศ 2MR มีระบบนำร่องด้วยเรดาร์ รัศมีการโจมตี 70 กิโลเมตร ติดตั้งระบบนำร่องทางยุทธวิธี URN25 และระบบโซน่าร์ AN/SQQ-89
เครื่องยนต์แบบแก๊สเทอร์ไบ จำนวน 4 เครื่อง รุ่น GE LM 2500 สามารถขับแรงม้าสูงสุดได้ 86,000 แรงม้า รัศมีการปฏิบัติการระยะไกลเกินกว่า 6,000 ไมล์ โดยทำความเร็วปกติ 20 น๊อตและทำความเร็วสูงสุดเกินกว่า 30 น๊อต
