โตโยต้าเปิด ศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมแห่งแรกนอกโรงงาน “โตโยต้า เมืองสีเขียว อยุธยา” ภายใต้แนวคิด “เพื่อธรรมชาติ เพื่อทุกชีวิต”


มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ ประธานคณะกรรมการ นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วย ดร.สุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายกสมาคมไทย-ญี่ปุ่น และ อดีตประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ร่วมเปิดศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมแห่งแรกนอกโรงงาน “โตโยต้า เมืองสีเขียว อยุธยา” ณ โตโยต้า เมืองสีเขียว ตำบลหัวรอ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “หนึ่งในความมุ่งมั่นที่สำคัญที่สุดของเราคือ การพยายามทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้า 6 ด้าน ในการลดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการปกป้องสิ่งแวดล้อมจากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตรถยนต์ของเราตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ เราได้ริเริ่มกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด Toyota Green Town หรือ โตโยต้าเมืองสีเขียว เพื่อถ่ายทอดความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้าที่สั่งสมขึ้นในโรงงานของเราสู่สังคมภายนอก โดยเริ่มจากการปลูกป่านิเวศ การสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงการปลูกป่าชายเลนและกิจกรรมลดภาวะโลกร้อน โดยทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือความพยายามของเราในการสร้างสังคมที่อยู่ร่วมกันกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน”

กิจกรรมสำคัญของโตโยต้าเมืองสีเขียว คือ การส่งต่อองค์ความรู้ในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้า เพื่อพัฒนาสิ่งแวดล้อมของชุมชนเมือง ส่งเสริมให้คนในชุมชนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์อย่างเป็นรูปธรรม โดยร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าและชุมชน ในการออกแบบกิจกรรมให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตของแต่ละพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปแล้วใน 3 พื้นที่ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดกระบี่ และ จังหวัดเลย

สำหรับโครงการ “โตโยต้าเมืองสีเขียว อยุธยา” ถือเป็นจังหวัดที่ 4 ที่โตโยต้าได้นำองค์ความรู้ในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้า มาประยุกต์ใช้อย่างเต็มรูปแบบเป็นจังหวัดแรก โดยความร่วมมือกับเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ในการบูรณะเรือนจำเก่า หน้าตลาดหัวรอ บนพื้นที่ขนาด 8 ไร่ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมแห่งแรกนอกโรงงาน ต่อจาก ศูนย์การเรียนรู้ความหลากหลายทางชีวภาพและความยั่งยืน “ชีวพนาเวศ” ในโรงงานโตโยต้าบ้านโพธิ์ โดยนำองค์ความรู้ในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมทั้ง 5 ด้านของโตโยต้ามาจัดแสดงภายในพื้นที่เมืองสีเขียว ได้แก่

• การเพิ่มพื้นที่สีเขียว (Increasing Green Area) ส่งเสริมการอนุรักษ์ต้นไม้ที่มีอยู่เดิม การปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว โดยเน้นไม้ยืนต้น โดยใช้ความรู้ด้านการปลูกป่านิเวศตามหลักของศาสตราจารย์ ดร.อากิระ มิยาวากิ ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกป่าจากประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ทำให้ต้นไม้มีอัตราการรอดตายสูง (มากกว่า 90%) และร่นระยะเวลาการเจริญเติบโตตามธรรมชาติให้เร็วขึ้น 10 เท่า ตลอดจนสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่าการปลูกป่าโดยทั่วไป

• การจัดการขยะ (Waste Management) โดยจัดการขยะอย่างครบวงจร ตั้งแต่การส่งเสริมการลดปริมาณขยะ ลดการใช้สินค้าที่ก่อให้เกิดขยะ การคัดแยกขยะและการนำไปใช้ประโยชน์ และการกำจัดขยะแบบถูกต้องตามหลักสุขาภิบาล

• การอนุรักษ์น้ำ (Water Management) การส่งเสริมการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า การประหยัดน้ำ การนำทรัพยากรน้ำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการติดตั้งถังเก็บน้ำที่ออกแบบในลักษณะของไม้ยืนต้นจำลอง เพื่อรองรับน้ำฝนที่ตกลงมาตามธรรมชาติและจากรางน้ำฝนมากักเก็บไว้ พร้อมฐานกว้างซึ่งสร้างจากวัสดุที่มีลักษณะเป็นรูพรุนเรียกว่า อิฐกรองน้ำ น้ำฝนที่ตกลงมาจะไหลลงสู่พื้น ผ่านการกรองของอิฐกรองน้ำเพื่อความสะอาด ไหลซึมลงสู่บ่อเก็บน้ใต้ดินขนาด 10,000 ลิตร เพื่อนำกลับไปใช้ในการรดน้ำต้นไม้และกิจกรรมอื่นๆ ภายในศูนย์การเรียนรู้

• การลดการใช้พลังงานและการใช้พลังงานทางเลือก (Renewable Energy) ส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานทดแทน อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ และการนำแบตเตอรี่ไฮบริดที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ (re-use) ซึ่งที่ศูนย์การเรียนรู้ โตโยต้า เมืองสีเขียว อยุธยา ใช้พลังงานไฟฟ้าที่ได้มาจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาที่จอดรถพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Power Parking Canopy) ที่มีพื้นที่แผงเซลล์แสงอาทิตย์จำนวนกว่า 500 ตารางเมตร สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 100 กิโลวัตต์ เทียบเท่ากับลดค่าไฟฟ้าของบ้าน 26 หลัง ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 150 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี และควบคุมการจ่ายพลังงานโดย อาคารควบคุมอัจฉริยะ (Smart Grid Building) โดยพลังงานไฟฟ้าที่ได้จะนำมาเก็บในแบตเตอรี่เก็บประจุที่ผลิตจากเซลล์แบตเตอรี่ของรถยนต์โตโยต้าไฮบริดที่ใช้แล้ว (re-use) แล้วทำการจ่ายไฟฟ้า ไปใช้ในส่วนต่างๆ ได้แก่ ไฟส่องสว่าง เครื่องใช้ไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ

การเดินทางอย่างยั่งยืน (Sustainable Transportation) ส่งเสริมการเดินทางที่ลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ด้วยการใช้พลังงานทดแทน เช่น รถยนต์ไฮบริด รถไฟฟ้าขนาดเล็ก การใช้จักรยาน และการเดิน ซึ่งในเมืองสีเขียวได้ส่งเสริมการใช้จักรยาน การใช้รถไฟฟ้าขนาดเล็ก HA:MO ในระบบ EV Car Sharing เป็นพาหนะในการเดินทางเชื่อมโยงระหว่างจุดท่องเที่ยวในอยุธยา ซึ่ง Toyota HA:MO จะถูกนำมาวิ่งเป็นต้นแบบแห่งที่ 2 ต่อจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยพลังงานไฟฟ้าที่นำมาใช้กับ Toyota HA:MO มาจากแผงโซล่าเซลส์เก็บประจุไฟฟ้าไว้ใน เซลล์แบตเตอรี่ของรถยนต์โตโยต้าไฮบริดที่ใช้แล้ว (re-use) โดยมีสถานีชาร์จไฟฟ้า 2 แห่ง ตั้งอยู่ที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอยุธยา และหมู่บ้านญี่ปุ่น

ดร.สุจินทร์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า “เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ทาง โตโยต้าได้เข้ามาร่วมพัฒนาปรับปรุงสถานที่แห่งนี้ให้กลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อม สำหรับนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวอยุธยา ตลอดจนนักท่องเที่ยว การร่วมแรงร่วมใจสร้างพื้นที่เมืองสีเขียวให้กับชาวอยุธยาในครั้ง ได้ส่งเสริมให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถือเป็นจุดเริ่มต้นให้ชาวอยุธยาได้มาใช้ประโยชน์จากแหล่งเรียนรู้ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมแห่งนี้ และสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ตลอดจนส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับทุกคนอีกด้วย”

นายกลินท์ สารสิน นายกสมาคมไทย-ญี่ปุ่น ประธานกรรมการหอการค้าไทย และอดีตประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “สำหรับ โตโยต้าเมืองสีเขียว อยุธยา เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความแตกต่างด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นแหล่งเรียนรู้การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เป็นสวนสาธารณะสำหรับชุมชน เป็นจุดเชื่อมต่อที่อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว เพื่อเดินทางไปยังสถานที่ทางประวัติศาสตร์ต่างๆ ในเมืองอยุธยา ด้วยการใช้รถจักรยาน และรถไฟฟ้าขนาดเล็ก HA:MO

ในฐานะนายกสมาคมไทย-ญี่ปุ่น ขอขอบคุณโตโยต้าที่ช่วยปรับปรุงห้องนิทรรศการ รวมถึงกำหนดให้หมู่บ้านญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในจุดจอดรถ HA:MO ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่ความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนกับหน่วยงานของรัฐในท้องถิ่นในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างคุณประโยชน์ให้เกิดขึ้นแก่ชุมชนอย่างแท้จริง โตโยต้าเมืองสีเขียว อยุธยา แห่งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างสังคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนอยุธยาและผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและต่างชาติ”

โตโยต้าเมืองสีเขียว อยุธยา เปิดให้บริการทุกวัน โดยโซนสวนเปิดตั้งแต่เวลา 06.00 – 20.00 น. สำหรับโซนอาคารนิทรรศการ เปิดบริการตั้งแต่ 10.00 – 17.00 น. โดยโตโยต้าเมืองสีเขียวได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ในการคัดสรรเยาวชนทำหน้าที่เป็น “เยาวชนโตโยต้า เมืองสีเขียว” ถ่ายทอดเรื่องราวและความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมแก่ นักเรียน นักศึกษา นักท่องเที่ยว และประชาชน

นอกจากนี้ ยังได้กำหนดจัดกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวเป็นประจำทุกเดือน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 – มีนาคม 2562 อาทิเช่น ตลาดนัดเพื่อสิ่งแวดล้อม กิจกรรมช่วงในเทศกาลสำคัญ ได้แก่ วันขึ้นปีใหม่ วันเด็ก วันมาฆบูชา วันวาเลนไทน์ ตลอดจนมีการเปิดลานกิจกรรมสำหรับการแสดงออกความสามารถด้านดนตรีและศิลปะ สำหรับเด็กและเยาวชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกด้วย

“ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้พร้อมแล้ว ที่จะเปิดโอกาสให้ นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้เข้ามาเรียนรู้วิธีการการจัดการสิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันและร่วมกันสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับทุกคน นอกจากนี้ ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ยังเป็นจุดสนใจแห่งใหม่ของจังหวัดสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย” มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ กล่าว

มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ ประธานคณะกรรมการ นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วย ดร.สุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายกสมาคมไทย-ญี่ปุ่น และ อดีตประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ร่วมเปิดศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมแห่งแรกนอกโรงงาน “โตโยต้า เมืองสีเขียว อยุธยา” ณ โตโยต้า เมืองสีเขียว ตำบลหัวรอ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “หนึ่งในความมุ่งมั่นที่สำคัญที่สุดของเราคือ การพยายามทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้า 6 ด้าน ในการลดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการปกป้องสิ่งแวดล้อมจากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตรถยนต์ของเราตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ เราได้ริเริ่มกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด Toyota Green Town หรือ โตโยต้าเมืองสีเขียว เพื่อถ่ายทอดความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้าที่สั่งสมขึ้นในโรงงานของเราสู่สังคมภายนอก โดยเริ่มจากการปลูกป่านิเวศ การสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงการปลูกป่าชายเลนและกิจกรรมลดภาวะโลกร้อน โดยทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือความพยายามของเราในการสร้างสังคมที่อยู่ร่วมกันกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน”

กิจกรรมสำคัญของโตโยต้าเมืองสีเขียว คือ การส่งต่อองค์ความรู้ในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้า เพื่อพัฒนาสิ่งแวดล้อมของชุมชนเมือง ส่งเสริมให้คนในชุมชนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์อย่างเป็นรูปธรรม โดยร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าและชุมชน ในการออกแบบกิจกรรมให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตของแต่ละพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปแล้วใน 3 พื้นที่ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดกระบี่ และ จังหวัดเลย

สำหรับโครงการ “โตโยต้าเมืองสีเขียว อยุธยา” ถือเป็นจังหวัดที่ 4 ที่โตโยต้าได้นำองค์ความรู้ในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้า มาประยุกต์ใช้อย่างเต็มรูปแบบเป็นจังหวัดแรก โดยความร่วมมือกับเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ในการบูรณะเรือนจำเก่า หน้าตลาดหัวรอ บนพื้นที่ขนาด 8 ไร่ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมแห่งแรกนอกโรงงาน ต่อจาก ศูนย์การเรียนรู้ความหลากหลายทางชีวภาพและความยั่งยืน “ชีวพนาเวศ” ในโรงงานโตโยต้าบ้านโพธิ์ โดยนำองค์ความรู้ในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมทั้ง 5 ด้านของโตโยต้ามาจัดแสดงภายในพื้นที่เมืองสีเขียว ได้แก่

• การเพิ่มพื้นที่สีเขียว (Increasing Green Area) ส่งเสริมการอนุรักษ์ต้นไม้ที่มีอยู่เดิม การปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว โดยเน้นไม้ยืนต้น โดยใช้ความรู้ด้านการปลูกป่านิเวศตามหลักของศาสตราจารย์ ดร.อากิระ มิยาวากิ ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกป่าจากประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ทำให้ต้นไม้มีอัตราการรอดตายสูง (มากกว่า 90%) และร่นระยะเวลาการเจริญเติบโตตามธรรมชาติให้เร็วขึ้น 10 เท่า ตลอดจนสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่าการปลูกป่าโดยทั่วไป

• การจัดการขยะ (Waste Management) โดยจัดการขยะอย่างครบวงจร ตั้งแต่การส่งเสริมการลดปริมาณขยะ ลดการใช้สินค้าที่ก่อให้เกิดขยะ การคัดแยกขยะและการนำไปใช้ประโยชน์ และการกำจัดขยะแบบถูกต้องตามหลักสุขาภิบาล

• การอนุรักษ์น้ำ (Water Management) การส่งเสริมการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า การประหยัดน้ำ การนำทรัพยากรน้ำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการติดตั้งถังเก็บน้ำที่ออกแบบในลักษณะของไม้ยืนต้นจำลอง เพื่อรองรับน้ำฝนที่ตกลงมาตามธรรมชาติและจากรางน้ำฝนมากักเก็บไว้ พร้อมฐานกว้างซึ่งสร้างจากวัสดุที่มีลักษณะเป็นรูพรุนเรียกว่า อิฐกรองน้ำ น้ำฝนที่ตกลงมาจะไหลลงสู่พื้น ผ่านการกรองของอิฐกรองน้ำเพื่อความสะอาด ไหลซึมลงสู่บ่อเก็บน้ใต้ดินขนาด 10,000 ลิตร เพื่อนำกลับไปใช้ในการรดน้ำต้นไม้และกิจกรรมอื่นๆ ภายในศูนย์การเรียนรู้

• การลดการใช้พลังงานและการใช้พลังงานทางเลือก (Renewable Energy) ส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานทดแทน อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ และการนำแบตเตอรี่ไฮบริดที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ (re-use) ซึ่งที่ศูนย์การเรียนรู้ โตโยต้า เมืองสีเขียว อยุธยา ใช้พลังงานไฟฟ้าที่ได้มาจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาที่จอดรถพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Power Parking Canopy) ที่มีพื้นที่แผงเซลล์แสงอาทิตย์จำนวนกว่า 500 ตารางเมตร สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 100 กิโลวัตต์ เทียบเท่ากับลดค่าไฟฟ้าของบ้าน 26 หลัง ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 150 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี และควบคุมการจ่ายพลังงานโดย อาคารควบคุมอัจฉริยะ (Smart Grid Building) โดยพลังงานไฟฟ้าที่ได้จะนำมาเก็บในแบตเตอรี่เก็บประจุที่ผลิตจากเซลล์แบตเตอรี่ของรถยนต์โตโยต้าไฮบริดที่ใช้แล้ว (re-use) แล้วทำการจ่ายไฟฟ้า ไปใช้ในส่วนต่างๆ ได้แก่ ไฟส่องสว่าง เครื่องใช้ไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ

การเดินทางอย่างยั่งยืน (Sustainable Transportation) ส่งเสริมการเดินทางที่ลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ด้วยการใช้พลังงานทดแทน เช่น รถยนต์ไฮบริด รถไฟฟ้าขนาดเล็ก การใช้จักรยาน และการเดิน ซึ่งในเมืองสีเขียวได้ส่งเสริมการใช้จักรยาน การใช้รถไฟฟ้าขนาดเล็ก HA:MO ในระบบ EV Car Sharing เป็นพาหนะในการเดินทางเชื่อมโยงระหว่างจุดท่องเที่ยวในอยุธยา ซึ่ง Toyota HA:MO จะถูกนำมาวิ่งเป็นต้นแบบแห่งที่ 2 ต่อจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยพลังงานไฟฟ้าที่นำมาใช้กับ Toyota HA:MO มาจากแผงโซล่าเซลส์เก็บประจุไฟฟ้าไว้ใน เซลล์แบตเตอรี่ของรถยนต์โตโยต้าไฮบริดที่ใช้แล้ว (re-use) โดยมีสถานีชาร์จไฟฟ้า 2 แห่ง ตั้งอยู่ที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอยุธยา และหมู่บ้านญี่ปุ่น

ดร.สุจินทร์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า “เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ทาง โตโยต้าได้เข้ามาร่วมพัฒนาปรับปรุงสถานที่แห่งนี้ให้กลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อม สำหรับนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวอยุธยา ตลอดจนนักท่องเที่ยว การร่วมแรงร่วมใจสร้างพื้นที่เมืองสีเขียวให้กับชาวอยุธยาในครั้ง ได้ส่งเสริมให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถือเป็นจุดเริ่มต้นให้ชาวอยุธยาได้มาใช้ประโยชน์จากแหล่งเรียนรู้ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมแห่งนี้ และสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ตลอดจนส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับทุกคนอีกด้วย”

นายกลินท์ สารสิน นายกสมาคมไทย-ญี่ปุ่น ประธานกรรมการหอการค้าไทย และอดีตประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “สำหรับ โตโยต้าเมืองสีเขียว อยุธยา เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความแตกต่างด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นแหล่งเรียนรู้การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เป็นสวนสาธารณะสำหรับชุมชน เป็นจุดเชื่อมต่อที่อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว เพื่อเดินทางไปยังสถานที่ทางประวัติศาสตร์ต่างๆ ในเมืองอยุธยา ด้วยการใช้รถจักรยาน และรถไฟฟ้าขนาดเล็ก HA:MO

ในฐานะนายกสมาคมไทย-ญี่ปุ่น ขอขอบคุณโตโยต้าที่ช่วยปรับปรุงห้องนิทรรศการ รวมถึงกำหนดให้หมู่บ้านญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในจุดจอดรถ HA:MO ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่ความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนกับหน่วยงานของรัฐในท้องถิ่นในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างคุณประโยชน์ให้เกิดขึ้นแก่ชุมชนอย่างแท้จริง โตโยต้าเมืองสีเขียว อยุธยา แห่งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างสังคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนอยุธยาและผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและต่างชาติ”

โตโยต้าเมืองสีเขียว อยุธยา เปิดให้บริการทุกวัน โดยโซนสวนเปิดตั้งแต่เวลา 06.00 – 20.00 น. สำหรับโซนอาคารนิทรรศการ เปิดบริการตั้งแต่ 10.00 – 17.00 น. โดยโตโยต้าเมืองสีเขียวได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ในการคัดสรรเยาวชนทำหน้าที่เป็น “เยาวชนโตโยต้า เมืองสีเขียว” ถ่ายทอดเรื่องราวและความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมแก่ นักเรียน นักศึกษา นักท่องเที่ยว และประชาชน

นอกจากนี้ ยังได้กำหนดจัดกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวเป็นประจำทุกเดือน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 – มีนาคม 2562 อาทิเช่น ตลาดนัดเพื่อสิ่งแวดล้อม กิจกรรมช่วงในเทศกาลสำคัญ ได้แก่ วันขึ้นปีใหม่ วันเด็ก วันมาฆบูชา วันวาเลนไทน์ ตลอดจนมีการเปิดลานกิจกรรมสำหรับการแสดงออกความสามารถด้านดนตรีและศิลปะ สำหรับเด็กและเยาวชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกด้วย

“ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้พร้อมแล้ว ที่จะเปิดโอกาสให้ นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้เข้ามาเรียนรู้วิธีการการจัดการสิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันและร่วมกันสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับทุกคน นอกจากนี้ ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ยังเป็นจุดสนใจแห่งใหม่ของจังหวัดสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย” มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ กล่าว

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!