ความสำเร็จของการบริหารงาน HONDA MOTOR-ตอนที่ 2.7 พิมพ์เขียวสำหรับทศวรรษ 1980 (เทตซึโอะ ซากิยะ เขียน – ธนิต ธรรมสุคติ แปล จากต้นฉบับ Updated paperback Edition 1987)


The Man, The Management, The Machines.

เทตซึโอะ ซากิยะ เขียน

ธนิต ธรรมสุคติ แปล จากต้นฉบับ Updated paperback Edition 1987

สงวนลิขสิทธิ์

โซอิจิโร ฮอนด้า

ปูชนียบุคคลที่โลกยานยนต์ต้องจารึก

อัจฉริยบุคคลผู้ก่อตั้ง…และวางรากฐานความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ให้กับ “บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด” เป็นชาวญี่ปุ่นคนแรกที่ได้รับเกียรติยศอันสูงส่ง ให้เป็นสมาชิกทำเนียบ “ปูชนียบุคคลยานยนต์โลก” (AUTOMOTIVE HALL OF FAME) อย่างเป็นทางการในวันที่ 10 ตุลาคม 2532

ฮอนด้าโชคดี เพราะร้านที่เขาทำงานอยู่เกิดขาดคนขึ้นมา ดังนั้นหลังจากที่ทำหน้าที่เลี้ยงเด็กอยู่หกเดือน เขาจึงได้รับคำสั่งให้ไปช่วยงานซ่อมรถยนต์ แผ่นดินไหวปี 1923 ซึ่งทำลายโตเกียวและบริเวณใกล้เคียง ก็ทำลายอาร์ตโชโกไปด้วยแต่ก็นำโชคมาให้หนุ่มน้อยฮอนด้า ลูกจ้างทุกคนของบริษัทกลับบ้านกันหมดยกเว้นฮอนด้าและคนงานระดับสูง นี่เองทำให้สองคนนี้ได้รับการฝึกงานอย่างดีเยี่ยมเรื่องการซ่อมรถยนต์ เป็นโชคดีของฮอนด้าอีกที่ยูโซะ ซากะคิบาระ เจ้าของร้านนี้ชอบการแข่งรถเป็นที่สุด โดยคำแนะนำของเจ้าของร้านโซอิจิโร ฮอนด้าจึงใช้เวลาว่างตอนกลางคืนสร้างรถแข่ง

รถแข่งของฮอนด้าใช้เครื่องยนต์เครื่องบินยี่ห้อเคอร์ติส-ไร้ท์ ซึ่งใช้กันในวงการทหาร เครื่องยนต์ วี-8 ขนาด 8 ลิตรให้กำลังแรงสูงสุดเกือบ 100 แรงม้าที่ความเร็วรอบเครื่องยนต์ 1,400 รอบต่อนาที นอกจากเครื่องยนต์แล้ว ฮอนด้าทำทุกอย่างด้วยตัวเองรวมทั้งส่วนประกอบต่าง ๆ และซี่ล้อไม้ รถแล่นได้เร็ว ฮอนด้าได้ชัยชนะหลายครั้งมาก

หลังจากทำงานที่อาร์ต โชโกได้หกปีฮอนด้าก็ได้รับอนุญาตจากเจ้าของให้เปิดธุรกิจของตัวเองได้โดยใช้ชื่อบริษัท นี่จึงเป็นการเริ่มด้วยความหวังอย่างสูงแต่มีเครื่องไม้เครื่องมือน้อย ของอาร์ต โชโก สาขาฮามะมัตซึ ฮอนด้าทุ่มเทเวลาว่างต่อไปในการสร้างรถแข่ง ในสมัยนั้น การแข่งรถในญี่ปุ่นนั้นให้รถทุกคันแล่นทวนเข็มนาฬิกา ดังนั้นฮอนด้าจึงปรับเครื่องยนต์ฟอร์ดไปอยู่ด้านซ้ายมือ ทำให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้นเวลาเลี้ยวซ้าย เขายังติดซูเปอร์ชาร์จเข้ากับเครื่องยนต์ด้วย

ซูเปอร์ชาร์จนี้ส่งอากาศอัดแน่นเข้าเครื่องและช่วยให้การเผาไหม้ดีขึ้น โชคไม่ดีที่เครื่องยนต์ร้อนเกินไปและวาล์วเกิดร้อนจนแดง ฮอนด้าแก้ปัญหานี้ได้ด้วยความสามารถพิเศษ คือในขั้นแรกก็ติดตั้งหม้อน้ำเพื่อระบายความร้อนให้เครื่องยนต์ แล้วจึงทำที่ติดวาล์วจากโลหะนำความร้อนเพื่อว่าความร้อนเกินต้องการจะลดลงเมื่อวาล์วระบายความร้อนปิด ผลที่ออกมาคือ รถแข่งของเขาแล่นได้ยอดเยี่ยมและเครื่องยนต์ก็ไม่ระเบิด

ฮอนด้ากระวนกระวายใจอยากจะทดลองสิ่งที่เขาออกแบบใหม่นี้ในการแข่งครั้งสำคัญ แล้วก็มีโอกาสในเดือนกรกฎาคม ปี 1936 ที่การแข่งขัน ออล-เจแปนสปีดแรลลี่ที่มีขึ้นใกล้กับแม่น้ำทามะที่ชานเมืองโตเกียว ทุกอย่างเป็นไปตามแผนและขณะที่ฮอนด้าเกือบถึงเส้นชัยนั้น เขานำหน้ารถคันอื่น ๆ และกำลังขับด้วยความเร็วอย่างไม่น่าเชื่อกว่า 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่แล้วรถคันหนึ่งซึ่งเข้ารับการซ่อมแซมมาก็แล่นพรวดพราดออกมาข้างหน้า รถจึงชนกัน รถของฮอนด้ากระเด็นลอยแล้วหล่นลงมาพร้อมกับเสียงโลหะไถพื้น กลิ้งไปมาสามตระหลบ ฮอนด้าถูกเหวี่ยงหลุดจากรถ แต่ใบหน้าข้างซ้ายยุบ ไหล่ซ้ายหลุด และกระดูกข้อมือแตก น้องชายของเขาที่นั่งคู่มาด้วยได้รับบาดเจ็ยสาหัส ทั้งหมดที่เขาจำได้ก่อนจะหมดสติก็คือโลกกำลังหมุนกลับหัว

– รถแข่งของฮอนด้าชนกับรถอีกคันในการแข่งขันออล แจแปน สปีด แรลลี่ ปี 1936

เมื่อได้สติ เขาก็ได้ยินพยาบาลกล่าวว่า “คุณโชคดีมากที่รอดมาได้ !” แผลเป็นยังอยู่เหนือตาซ้าย ในการแข่งขันรถครั้งนั้น เขาทำสถิติใหม่ให้ญี่ปุ่นโดยความเร็วเฉลี่ย 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งไม่มีใครทำลายได้หลังจากนั้นกว่า 10 ปีหลังสงครามโลกครั้งที่สองยุติลงแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ชัยชนะ เขาก็ได้รับถ้วยจากกาทำสถิติความเร็วนี้

ฮอนด้าเคยพูดถึงเรื่องนี้ว่า “มีคนพูดว่าคนเราอายุยืนเพียง 50 ปี แต่ในเมื่อมีความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างนั้น คนจะสามารถใช้เวลามายืดอายุตัวเองได้ แพทย์จะไม่ใช่คนที่ช่วยให้ชีวิตยืนยาวแล้ว ! เราจะไม่พูดกันถึงระยะทางแต่เราจะพูดกันเรื่องเวลา”

ตอนที่ 2.6 อดีตที่น่าภาคภูมิใจ

The Man, The Management, The Machines.

เทตซึโอะ ซากิยะ เขียน

ธนิต ธรรมสุคติ แปล จากต้นฉบับ Updated paperback Edition 1987

สงวนลิขสิทธิ์

โซอิจิโร ฮอนด้า

ปูชนียบุคคลที่โลกยานยนต์ต้องจารึก

อัจฉริยบุคคลผู้ก่อตั้ง...และวางรากฐานความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ให้กับ "บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด" เป็นชาวญี่ปุ่นคนแรกที่ได้รับเกียรติยศอันสูงส่ง ให้เป็นสมาชิกทำเนียบ "ปูชนียบุคคลยานยนต์โลก" (AUTOMOTIVE HALL OF FAME) อย่างเป็นทางการในวันที่ 10 ตุลาคม 2532

ฮอนด้าโชคดี เพราะร้านที่เขาทำงานอยู่เกิดขาดคนขึ้นมา ดังนั้นหลังจากที่ทำหน้าที่เลี้ยงเด็กอยู่หกเดือน เขาจึงได้รับคำสั่งให้ไปช่วยงานซ่อมรถยนต์ แผ่นดินไหวปี 1923 ซึ่งทำลายโตเกียวและบริเวณใกล้เคียง ก็ทำลายอาร์ตโชโกไปด้วยแต่ก็นำโชคมาให้หนุ่มน้อยฮอนด้า ลูกจ้างทุกคนของบริษัทกลับบ้านกันหมดยกเว้นฮอนด้าและคนงานระดับสูง นี่เองทำให้สองคนนี้ได้รับการฝึกงานอย่างดีเยี่ยมเรื่องการซ่อมรถยนต์ เป็นโชคดีของฮอนด้าอีกที่ยูโซะ ซากะคิบาระ เจ้าของร้านนี้ชอบการแข่งรถเป็นที่สุด โดยคำแนะนำของเจ้าของร้านโซอิจิโร ฮอนด้าจึงใช้เวลาว่างตอนกลางคืนสร้างรถแข่ง

รถแข่งของฮอนด้าใช้เครื่องยนต์เครื่องบินยี่ห้อเคอร์ติส-ไร้ท์ ซึ่งใช้กันในวงการทหาร เครื่องยนต์ วี-8 ขนาด 8 ลิตรให้กำลังแรงสูงสุดเกือบ 100 แรงม้าที่ความเร็วรอบเครื่องยนต์ 1,400 รอบต่อนาที นอกจากเครื่องยนต์แล้ว ฮอนด้าทำทุกอย่างด้วยตัวเองรวมทั้งส่วนประกอบต่าง ๆ และซี่ล้อไม้ รถแล่นได้เร็ว ฮอนด้าได้ชัยชนะหลายครั้งมาก

หลังจากทำงานที่อาร์ต โชโกได้หกปีฮอนด้าก็ได้รับอนุญาตจากเจ้าของให้เปิดธุรกิจของตัวเองได้โดยใช้ชื่อบริษัท นี่จึงเป็นการเริ่มด้วยความหวังอย่างสูงแต่มีเครื่องไม้เครื่องมือน้อย ของอาร์ต โชโก สาขาฮามะมัตซึ ฮอนด้าทุ่มเทเวลาว่างต่อไปในการสร้างรถแข่ง ในสมัยนั้น การแข่งรถในญี่ปุ่นนั้นให้รถทุกคันแล่นทวนเข็มนาฬิกา ดังนั้นฮอนด้าจึงปรับเครื่องยนต์ฟอร์ดไปอยู่ด้านซ้ายมือ ทำให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้นเวลาเลี้ยวซ้าย เขายังติดซูเปอร์ชาร์จเข้ากับเครื่องยนต์ด้วย

ซูเปอร์ชาร์จนี้ส่งอากาศอัดแน่นเข้าเครื่องและช่วยให้การเผาไหม้ดีขึ้น โชคไม่ดีที่เครื่องยนต์ร้อนเกินไปและวาล์วเกิดร้อนจนแดง ฮอนด้าแก้ปัญหานี้ได้ด้วยความสามารถพิเศษ คือในขั้นแรกก็ติดตั้งหม้อน้ำเพื่อระบายความร้อนให้เครื่องยนต์ แล้วจึงทำที่ติดวาล์วจากโลหะนำความร้อนเพื่อว่าความร้อนเกินต้องการจะลดลงเมื่อวาล์วระบายความร้อนปิด ผลที่ออกมาคือ รถแข่งของเขาแล่นได้ยอดเยี่ยมและเครื่องยนต์ก็ไม่ระเบิด

ฮอนด้ากระวนกระวายใจอยากจะทดลองสิ่งที่เขาออกแบบใหม่นี้ในการแข่งครั้งสำคัญ แล้วก็มีโอกาสในเดือนกรกฎาคม ปี 1936 ที่การแข่งขัน ออล-เจแปนสปีดแรลลี่ที่มีขึ้นใกล้กับแม่น้ำทามะที่ชานเมืองโตเกียว ทุกอย่างเป็นไปตามแผนและขณะที่ฮอนด้าเกือบถึงเส้นชัยนั้น เขานำหน้ารถคันอื่น ๆ และกำลังขับด้วยความเร็วอย่างไม่น่าเชื่อกว่า 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่แล้วรถคันหนึ่งซึ่งเข้ารับการซ่อมแซมมาก็แล่นพรวดพราดออกมาข้างหน้า รถจึงชนกัน รถของฮอนด้ากระเด็นลอยแล้วหล่นลงมาพร้อมกับเสียงโลหะไถพื้น กลิ้งไปมาสามตระหลบ ฮอนด้าถูกเหวี่ยงหลุดจากรถ แต่ใบหน้าข้างซ้ายยุบ ไหล่ซ้ายหลุด และกระดูกข้อมือแตก น้องชายของเขาที่นั่งคู่มาด้วยได้รับบาดเจ็ยสาหัส ทั้งหมดที่เขาจำได้ก่อนจะหมดสติก็คือโลกกำลังหมุนกลับหัว

- รถแข่งของฮอนด้าชนกับรถอีกคันในการแข่งขันออล แจแปน สปีด แรลลี่ ปี 1936

เมื่อได้สติ เขาก็ได้ยินพยาบาลกล่าวว่า "คุณโชคดีมากที่รอดมาได้ !" แผลเป็นยังอยู่เหนือตาซ้าย ในการแข่งขันรถครั้งนั้น เขาทำสถิติใหม่ให้ญี่ปุ่นโดยความเร็วเฉลี่ย 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งไม่มีใครทำลายได้หลังจากนั้นกว่า 10 ปีหลังสงครามโลกครั้งที่สองยุติลงแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ชัยชนะ เขาก็ได้รับถ้วยจากกาทำสถิติความเร็วนี้

ฮอนด้าเคยพูดถึงเรื่องนี้ว่า "มีคนพูดว่าคนเราอายุยืนเพียง 50 ปี แต่ในเมื่อมีความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างนั้น คนจะสามารถใช้เวลามายืดอายุตัวเองได้ แพทย์จะไม่ใช่คนที่ช่วยให้ชีวิตยืนยาวแล้ว ! เราจะไม่พูดกันถึงระยะทางแต่เราจะพูดกันเรื่องเวลา"

ตอนที่ 2.6 อดีตที่น่าภาคภูมิใจ

etetewtgae

Top Rated

error: Content is protected !!